xs
xsm
sm
md
lg

เสียงดังหลังเสียงระเบิดที่ราชประสงค์

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย

ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ หลังเหตุระเบิดราชประสงค์ เมื่อค่ำวันจันทร์ที่ 17 สค. 2558 การลอบวางระเบิดครั้งร้ายแรงที่สุดในกรุงเทพฯ ตอนบ่ายวันถัดมายังมีระเบิดอีกลูกคนร้ายเตะทิ้งลงน้ำที่ท่าน้ำสาทร ช้อมูลจากพล.ต.อ.ชัยยง กีรติขจร ที่ปรึกษา สบ.10 และพล.ต.ต.วิฑูรย์ นิติวรางกูร รองนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ แถลง เมื่อวันที่ 20 สค. ว่าระเบิดที่ราชประสงค์ มีคนเสียชีวิต 20 คน บาดเจ็บ130 คน อาการสาหัสอยู่ไอซียู 6 คน

ต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและครอบครัวผู้สูญเสียทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหนก็ตาม ชีวิตของทุกคนมีค่าเกินกว่าจะตกเป็นเหยื่อความโหดอำมหิตเช่นนี้

การเลือกจุดระเบิดหลังเวลาเลิกงานตอนเย็นวันจันทร์ ประมาณเกือบทุ่ม บริเวณศาลพระพรหม ด้วยระเบิดชนิดทำลายล้างสูงในบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน เป็นการหวังผลทำลายชีวิตผู้คนจำนวนมาก และถือว่าเป็นการวางระเบิดหยามหน้าตำรวจไทยและรัฐบาลทหารที่มีอำนาจเด็ดขาดในมือหลังรัฐประหาร คนร้ายก่อเหตุใต้จมูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่อยู่ห่างกันไม่กี่เมตร

ภายหลังการระเบิด ตำรวจเข้าเคลียร์พื้นที่และเก็บหลักฐานเร็วมาก เร็วจนหลายคนไม่แน่ใจว่าทางทีมพิสูจน์หลักฐานมีการเก็บตัวอย่างได้ละเอียดครบถัวนเพียงพอแล้วหรือไม่ ภายหลังจากนั้นมาสองสามวัน มีนักข่าวต่างชาติของบีบีซีท่านหนึ่งไปทำรายงานข่าวในที่เกิดเหตุ และยังมีการพบชิ้นส่วนที่คาดว่าเป็นสะเก็ดระเบิดอยู่เลย เป็นการยืนยันว่ารีบร้อน สะเพร่า จนเก็บหลักฐานไม่หมด

การทำงานของตำรวจมีหลายอย่างที่ดูจะค่อนข้างรวบรัดตัดตอนมากไปเสียหน่อย โดยไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมต้องรีบขนาดนั้นด้วย ถ้าเป็นที่อื่นบางทีเขาต้องปิดพื้นที่เป็นสัปดาห์ เช็คทุกสิ่งทุกอย่าง แบบละเอียดถี่ยิบ งานนี้ไม่ทราบเหมือนกันว่ารีบร้อนให้ความสำคัญกับการเปิดพื้นที่ย่านธุรกิจเพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าสู่ภาวะปกติจนเกินไป มากกว่าจะให้ความสำคัญกับการเก็บหลักฐาน ซึ่งจะมีผลสำคัญต่อคดีนี้ต่อไป

การเผยแพร่ภาพไม่เหมาะสมของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทางสำนักข่าว และโซเชียลมีเดีย การเคารพให้เกียรติเห็นอกเห็นใจผู้เสียชีวิตและครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การรู้กาละเทศะ รู้อะไรควรไม่ควร การแชร์หรือลิงค์โดยไม่คิดพิจารณา ผมว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนอีกครั้งหนึ่ง ที่แสดงถึงวุฒิภาวะของคนในสังคมไทย

กรุงเทพฯเป็นเมืองที่มีกล้องวงจรปิดจำนวนมาก เป็นเทคโนโลยี่ที่มีความจำเป็นในการดูแลความปลอดภัยของประชาชน แต่หลายครั้งเมื่อเกิดเหตุ เราจะพบว่า มีกล้องจำนวนหนึ่งเสียใช้งานไม่ได้ จะด้วยเหตุถูกจงใจทำให้เสีย หรือไม่ดูแลซ่อมแซม และภาพที่ได้ไม่มีคุณภาพพอ การดูแลรักษาและพัฒนาคุณภาพกล้องวงจรปิด

เป็นเรื่องที่กทม.ต้องใส่ใจมากกว่านี้ และควรมีการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพของกล้อง ไม่ให้ทุจริตคอรัปชั่นกันจนเอากล้องคุณภาพต่ำมาใช้ เพราะมีผลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของประชาชน

ภัยพิบัติทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นภัยจากธรรมชาติ อย่างแผ่นดินไหว น้ำท่วม ฯลฯ หรือภัยจากการใช้อาวุธทำลายล้างของมนุษย์ ในวิกฤตยังมีโอกาสให้คนในสังคมได้เรียนรู้วิธีการรับมือ ช่วยเหลือตัวเองให้ปลอดภัย และช่วยเหลือผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก โรงเรียนและสถาบันการศึกษาควรให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ในเรื่องเหล่านี้

หากไม่นับเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาคนไทยต้องประสบกับเหตุระเบิดหลายครั้งโดยเฉพาะการยิงระเบิดด้วย M79 หรือการลอบวางระเบิดสถานที่ราชการ ศาล ศาลากลาง ห้างสรรพสินค้า ฯลฯรุนแรงมากบ้างน้อยบ้าง คนไทยเคยตื่นตระหนกกับการระเบิด 9 จุดในกทม. ในคืนส่งท้ายปีเก่า 2549 ​ต้อนรับปีใหม่ปี 2550 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 38 คน หลายครั้งคดีไม่คืบหน้า จับตัวคนร้ายไม่ได้

เหตุระเบิดที่ราชประสงค์บอกพวกเราว่า นับวันยิ่งต้องดำเนินชีวิตอย่างระมัดระวัง สังเกตสิ่งผิดปกติ รู้เท่าทัน รับมืออย่างมีสติ ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ความมีน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสพภัยทั้งคนไทยและคนต่างชาติทั้งในที่เกิดเหตุ การอาสาเป็นล่ามในโรงพยาบาล การบริจาคโลหิต และการช่วยชาวต่างชาติติดตามหาญาติมิตรผ่านทางโซเชียลมีเดีย ฯลฯ เป็นคุณลักษณะที่น่าภูมิใจของคนไทย เป็นที่ชื่นชมของชาวต่างชาติ

ระเบิดที่ราชประสงค์ครั้งนี้ ทั้งคนไทยและชาวโลกกำลังคอยดูว่า ทางการไทยจะจับตัวคนร้ายที่กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายผู้ต้องสงสัยสวมเสื้อเหลืองต่อเนื่องได้หลายภาพทั้งก่อนและหลังเกิดระเบิดได้หรือไม่ ที่สำคัญกว่านั้น จะสาวไปถึงผู้บงการอยู่เบื้องหลังได้หรือไม่ หน้าตาคนร้ายเหมือนคนต่างชาติ แต่ไม่ได้หมายความว่า ผู้บงการเป็นต่างชาติ อาจเป็นคนไทยหรือต่างชาติก็ได้

ปิดเมือง ค้นรังโจรเมื่อวันที่ 23 ส.ค.ไปแล้ว ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า หวังว่าตำรวจไทยจะเร่งทำงานกันอย่างจริงจัง จับตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็วที่สุด เหตุเกิดใต้จมูกแท้ๆ มันหยามกันชัดๆ จริงไหมท่านผบ.ตร. และท่านนายกพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา

ตอนนี้ผมเชื่อว่าหลายๆคนฟันธงไปแล้วว่าชายคนนี้แหละคือมือระเบิด แต่จะมีคนอื่นร่วมทีมอยู่ด้วยไหมอันนี้ต้องตามกันต่อไป แต่ที่แน่ๆมีคำถามตามมาว่า สุดท้ายแล้วนี่คือฝีมือใคร และทำไมต้องวางที่นั้น หลายสื่อพยายามชีเป้าไปที่อุยกูร์ซึ่งในความคิดส่วนตัวของผม ผมว่าเป็นไปได้สูง เพราะชาวอุยกูร์เขาเคยประกาศออกมาว่าจะเล่นงานไทยหลังจากไทยส่งชาวอุยกูร์ให้จีน และคนเหล่านั้นต้องไปตาย อุยกูร์เป็นชนเผ่ามุสลิมของจีน เป็นชนกลุ่มน้อย

หลายคนบอกเขาไม่มีศักยภาพมากพอจะทำแบบนี้ แล้วถ้างานนี้มีแบ็คละ อย่าลืมว่าประเทศมุสลิมจะถือมุสลิมทั่วโลกเป็นพี่น้องกันถ้าจะมีคน สนับสนุนการให้เงินให้ระเบิดก็คงไม่ใช่เรื่องยากหรือเรื่องแปลกอะไร แต่ใครละที่อยู่เบื้องหลัง

ถ้ามองว่าก่อการร้ายละก็เป็นไปได้แต่คงน้อยกว่าเพราะผู้ก่อการร้ายมืออาชีพที่มีศักยภาพสูงถ้าจะทำจริงคงไม่ทำในสถานที่แบบนั้น หรือถ้าทำต้องออกมาพูดแล้วว่ากลุ่มเขาทำ ไม่ยอมปล่อยให้ระเบิดแล้วเงียบไปแบบนี้หรอกครับ แถมผู้ก่อการร้ายยุคนี้เขามีสื่อในมือเองด้วยซ้ำถ้าจะทำอะไรเขาออกมาแถลงแน่นอน

ถ้ามองเป็นระเบิดเพราะสถานะการณ์ทางการเมืองของเราเอง คนหนึ่งที่เวลาโมโห โกรธ ด่า ไม่พอใจอะไรก็แล้วแต่มักจะมีระเบิดอยู่เรื่อยๆ แถมช่วงนี้ชายคนนี้ก็เดินสายด่า คสช. ไปทั่วโลกเขาคือนักโทษในสายตาคนมากมายที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร แม้ชายคนนี้จะออกมาแสดงความเสียใจ ออกมาพูดในทำนองผมไม่เกี่ยว แต่คนบางส่วนก็ไม่เชื่อเขาเท่าไร

มีจุดสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือทำไมเวลาแถลงข่าวต้องมีการแถลงเป็นภาษาจีนด้วย คือส่วนหนึ่งพอเข้าใจได้ว่ามีคนจีนเสียชีวิต แต่แค่ภาษาอังกฤษมันไม่พอหรือว่าจะสื่ออะไรไปทางจีน

ข้อสังเกตต่อมาทำไมต้องไปวางระเบิดตรงนั้น อันนี้ผมคิดเล่นๆว่าเพราะศาสนาอิสลามมีพระเจ้าองค์เดียวคืออัลลอฮ์ การระเบิดตรงนี้นอกจากคนจะเยอะแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าการกราบไหว้โน่นนั้นนี่ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะศาลพระพรหมคนมากราบไหว้มากมาย ประเด็นนี้ผมคิดเล่นๆ นะครับ แต่ก็ขอใส่ไว้เป็นข้อสงสัยหรือข้อสังเกตก็แล้วกันครับ

หลังจากแกะรอยจากกล้องวงจรปิดมากมายตำรวจได้เชิญคนขับตุ๊กตุ๊กที่คาดว่าจะขับมาส่งคนร้ายมาให้ปากคำซึ่งคนขับก็เล่าว่าชายคนนี้เปิดมือถือให้ดูว่าจะไปไหน และไม่ได้พูดภาษาอังกฤษด้วย ก็อาจจะภาษาแขกก็เป็นไปได้ หรือว่าภาษาอื่นๆ อันนี้ก็ต้องตามกันต่อไป เพราะเรายังไม่ได้พี่วินมอเตอร์ไซค์มาให้ข้อมูล

ถ้าเราเอาหลายอย่างมารวมกันละเช่นอุยกูร์ทำแต่แบ็กที่ว่าคือชายที่ชื่อทักษิณละ อย่าลืมว่าเขามีเงินมากพอซื้อระเบิดได้มากมาย ผสมกับการใช้งานอุยกูร์ที่อยากจะแก้แค้นคนไทยอยู่แล้วละ และทักษิณเองก็มีเครื่อข่ายมากมายในวงการตำรวจ อาจจะมีการเปิดทางได้ไม่ยากนัก

การทำงานของตำรวจที่ตอนนี้ตั้งรางวัลนำจับสูงสองล้านบาทแล้วมันเพราะอะไร หรือเพราะตำรวจไม่มีอะไรในมือ เพราะยังไงก็จับไม่ได้หรือป่าว

จับไม่ได้หรือไม่จับอันนี้ก็ต้องคอยชมกันต่อไปยาวๆ เพราะ ขนาดก่อนหน้านี้ระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยที่มีภาพคนขว้างชัดๆเห็นยังจับไม่ได้เลย หรือตรงบีทีเอสหน้าพาราก้อน ที่ว่าเห็นภาพจะๆก็ยังจับไม่ได้ งานนี้เป็นการพิสูจน์ฝีมือตำรวจไทย และ คสช. ที่มีชื่อเต็มๆที่หลายคนเรียกตัวย่อจนลืมไปแล้วว่าชื่อเต็มๆของพวกเขาคือ “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ”

นับตั้งแต่คสช. เข้ามายึดอำนาจ มีระเบิดไปแล้ว 2 หน ดังนี้
- เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 โดยเป็นเหตุระเบิดบริเวณทางเดินเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอสสยาม หน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน
- ครั้งที่ 2 เป็นเหตุการณ์ระเบิดศาลอาญา เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2558

บทเรียนเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าคิดว่ารัฐบาลที่มาจากทหาร จะสามารถควบคุมทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จ เพราะหากคุมได้จริงจะต้องไม่มีเหตุการณ์ระเบิด หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดอื่นๆ ก็หวังแต่เพียงว่าท่านนายกจะใช้อำนาจที่มีในมืออย่างมากมายจับคนร้ายมาลงโทษให้ได้เสียที สู้ๆครับพี่น้องชาวไทยทุกคน
กำลังโหลดความคิดเห็น