xs
xsm
sm
md
lg

จัดการ “ทักษิณ” แค่ต่อรองให้หุบปาก หรือเอาจริงเด็ดขาด!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
ผ่าประเด็นร้อน

เพิ่งได้รับคำชมแบบได้ใจมหาชนกันไปเต็มร้อย กับมาตรการทางกฎหมายของรัฐบาลไทย ที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งในเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศ ดำเนินการเพิกถอนหนังสือเดินทางของทักษิณ ชินวัตร กรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการพิจารณาถอดยศทักษิณ ชินวัตร จากความผิดที่ถูกศาลพิพากษาจากความผิดคดีอาญา มีโทษจำคุก มีสถานะเป็นนักโทษ เป็นจำเลยในคดีทุจริต เป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับ ถูกศาลพิพากษายึดทรัพย์จากการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ มีผลประโยชน์ทับซ้อน สารพัด ย่อมเข้าเกณฑ์ที่ต้องถูกถอดยศ และตามหลักการสมควรดำเนินการมาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาคิดดำเนินการกันในช่วงเวลานี้

แต่เอาเถอะในเมื่อคิดจะทำตามระเบียบ ตามกฎหมายก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องน่าชื่นชม แม้ว่าจะมาช้าแต่ก็ถือว่ามาก็แล้วกัน

อย่างไรก็ดี ล่าสุดกลับกลายเป็นว่า ทุกอย่าง “เริ่มไม่แน่นอน” กลายเป็นเรื่องน่าสงสัยขึ้นมาอีก หลังจากมีอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ออกมาระบุว่า “มีการหมกเม็ด” ตบตาว่ากระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้เพิกถอนหนังสือเดินทางของทักษิณ ชินวัตร ทั้งหมด ยังเหลือเล่มสำคัญคือ “พาสปอร์ตเล่มแดง” หรือที่เรียกว่าเป็นหนังสือเดินทางทูต มีเอกสิทธิ์พิเศษ เป็นข่าวออกมายืนยันอีก

ขณะเดียวกันยังมีเรื่องความเคลื่อนไหวออกมาจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตีกลับหนังสือที่คณะกรรมการที่พิจารณาถอดยศ ทักษิณ ชินวัตร ที่มี พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษา สบ.10 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ถอดยศ แต่เมื่อส่งหนังสือดังกล่าวไปถึง พล.ต.อ.สมยศ ก็ถูกตีกลับลงมา อ้างว่า คณะกรรมการดังกล่าวยังไม่ได้ลงนามกำกับรับรอง หากเป็นแบบนี้มันก็ไม่รู้ว่า เป็นเพราะ “เลินเล่อ” แบบตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ เนื่องจากเรื่องแบบนี้ต้องมีความรอบคอบตามระเบียบกฎหมาย

อีกทั้งคำพูดตามมาจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ย้ำว่า เรื่องแบบนี้ต้องมีขั้นตอน และใช้เวลา มันก็ทำให้ใจหนึ่งอดระแวงบ้างไม่ได้ กลายเป็นว่านี่คือการ “เตะถ่วง” แบบที่เคยเป็นมาหรือเปล่า

อย่างไรก็ดี แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะย้ำว่า จะเพิกถอนหนังสือเดินทางของ ทักษิณ ชินวัตร ทุกฉบับ “หากยังไม่หยุดพูด” ด้วยคำพูดห้อยท้ายนี่แหละ ที่ทำให้คิดมาก เพราะความหมายที่เข้าใจได้ก็คือ “ถ้าทักษิณหยุดพูด ก็ไม่เพิกถอนหรือเปล่า” รวมไปถึงย้อนกลับไปพิจารณาความเคลื่อนไหวของกองทัพบก ที่นำโดย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผู้บัญชาการทหารบก ที่สั่งให้ดำเนินการแจ้งความเอาผิดกับ ทักษิณ ฐานพูดจาทำให้กองทัพเสียหาย จากกรณีออกมารัฐประหาร แบบมีเบื้องหลัง และจากคำพูดของ พล.อ.อุดมเดช ก็ทำให้คิดได้เหมือนกันอีกว่า “ถ้าไม่ดำเนินการก็เหมือนกับกลัว”

จากท่าทีที่ออกมาตอบโต้แบบแข็งกร้าวดังกล่าวจากฝ่ายรัฐบาล ทั้งในเรื่องการเพิกถอนหนังสือเดินทาง การพิจารณาถอดยศ รวมไปถึงความเคลื่อนไหวในการเรียกคืนเครื่องราชย์ฯ การเคลื่อนไหวที่จะดำเนินคดีอาญาตาม มาตรา 112 จากคำพูดที่มีเจตนาหมิ่นเบื้องสูง ดังกล่าวล้วนทำให้ “ได้ใจ” จากประชาชนที่รักความยุติธรรม และเคารพกฎหมาย ที่รู้สึกอึดอัดรำคาญกับการที่ปล่อยให้ ทักษิณ ชินวัตร ทำตัวเป็นอภิสิทธิชน อยู่เหนือกฎหมายมานาน มีความโกรธเคืองนักการเมือง และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ปล่อยปละละเลยมาเป็นเวลานานหลายปี

จนกระทั่ง ทักษิณ ชินวัตร เพิ่งออกมาพูดโจมตี คสช. และให้ร้ายสถาบันฯ ในช่วงครบรอบ 1 ปีของ คสช. ที่เกาหลีใต้ และเหตุการณ์ตอบโต้ดังกล่าวออกมา แต่ถึงอย่างไรชาวบ้านก็แซ่ซ้อง เพราะถือว่าเป็นครั้งแรกที่ดำเนินการเด็ดขาดมากที่สุด แต่ก็อย่างว่าแหละ ด้วยความหวาดระแวงและไม่ค่อยเชื่อถือข้าราชการมานาน เมื่อมีใครมาพูดออกมาแฉข้อมูลอีกด้านหนึ่งออกมา มันก็ทำให้เขวเหมือนกัน ดังนั้นก็ต้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบออกมายืนยันปฏิเสธโดยเร็ว ว่าเป็นอย่างไรกันแน่ อย่าปล่อยไว้นาน เพราะจะเสียหาย อย่าปล่อยให้ต้องส่งเสียงเชียร์เก้อเป็นอันขาด!!
ทักษิณ ชินวัตร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
กำลังโหลดความคิดเห็น