xs
xsm
sm
md
lg

ครบรอบ 1 ปี คสช.

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย

วันครบรอบหนึ่งปีของการยึดอำนาจรัฐประหารจากรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์ คนไทยมีความคิดเห็นและประเมินผลงานของรัฐบาลคสช. อย่างไร สมหวังหรือผิดหวัง ลองมาดูกันครับ

การทำโพลสำรวจความเห็นของหลายสำนักออกมาในทิศทางใกล้เคียงกัน ผลสำรวจโพลจะสะท้อนความเป็นจริงได้แค่ไหน ขึ้นอยู่กับจุดยืน คำถาม กลุ่มตัวอย่าง วิธีการสำรวจ และกระบวนการในการทำโพลทั้งหมด จึงต้องพินิจพิเคราะห์ดูที่มาที่ไป ลองมาดูผลโพลของบางสำนักกันครับ

นิด้าโพล ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “1 ปี คสช. กับการคืนความสุขให้คน ในชาติ” สำรวจระหว่างวันที่ 18–19 พ.ค. 2558 จากประชาชนทั่วประเทศ 1,250 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน และความสุขของคนในชาติ พบว่า ประชาชนร้อยละ 49.44 ระบุว่ามีความสุขเพิ่มขึ้น เพราะ คสช.พูดจริง ทำงานจริงจัง บ้านเมืองสังคมเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น รองลงมาร้อยละ 40.72 ระบุว่า ยังใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเดิม และยังมีปัญหาบางอย่างที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ ขณะที่ร้อยละ 9.68 ระบุว่า มีความสุขลดลง เพราะเศรษฐกิจไม่ดีถูกลิดรอนสิทธิและเสรีภาพ

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง "ประชาชนคิดอย่างไรกับการก้าวสู่ปีที่ 2 คสช." หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เข้ามาบริหารประเทศได้ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2558 จากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ จำนวน 1,191 คน ระหว่างวันที่ 18-23 พ.ค.2558 พบว่าสิ่งที่ประชาชนสมหวัง ร้อยละ 86.15 ระบุว่าการจัดการปัญหาความขัดแย้งในบ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองสงบสุข ร้อยละ 80.35 ระบุว่าการทำงานรวดเร็ว เด็ดขาด จริงจัง รองลงมาคือดำเนินการกับผู้กระทำผิดทุจริตคอรัปชั่น ผิดกฎหมาย ประชาชนร้อยละ 59.80 รู้สึกสมหวังในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เพราะบ้านเมืองสงบสุข ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ไม่มีการชุมนุมเคลื่อนไหวประท้วง ส่วนสิ่งที่ประชาชนรู้สึกผิดหวังร้อยละ 80.86 ผิดหวังต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สินค้าแพง ค่าครองชีพสูง ตามมาด้วยนโยบายด้านการเกษตร ราคาข้าว ราคายาง และเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้

ขณะที่ร้อยละ 26.97 รู้สึกสมหวังและผิดหวังเท่ากัน เพราะมีบางเรื่องที่คสช.แก้ไขได้ดี แต่บางเรื่องยังแก้ไม่ได้ ส่วนร้อยละ 13.23 รู้สึกผิดหวังต่อการทำงานของคสช. เพราะยังไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ และต่างชาติยังไม่เชื่อมั่น ร้อยละ 83.88 เห็นว่าสิ่งที่รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมาจากรัฐประหาร ดีกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาซึ่งมาจากการเลือกตั้ง คือเป็นรัฐบาลทหารที่ทำงานรวดเร็ว เด็ดขาด และตรงไปตรงมา รองลงมาคือซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส ทำเพื่อประเทศและประชาชน

สำหรับสิ่งที่รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ แย่กว่ารัฐบาลที่ผ่านมานั้น ประชาชนร้อยละ 78.59 ระบุว่าไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง รวบอำนาจ ไม่สามารถตรวจสอบได้ และจำกัดสิทธิเสรีภาพ ตามมาด้วยการขาดประสบการณ์ทางการเมือง ไม่ได้เป็นนักการเมือง และต่างชาติยังไม่ให้การยอมรับ สิ่งที่รัฐบาลทั้งสองแย่พอๆกันนั้น ประชาชนร้อยละ 78.09 ระบุว่าเป็นปัญหาเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น ไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนได้ ส่วนความคาดหวังของประชาชนที่อยากให้คสช.ทำในปีที่ 2 ประชาชนร้อยละ 88.41 อยากให้ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนและทำให้บ้านเมืองสงบสุข ตามมาด้วยการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ช่วยเหลือภาคการเกษตรและการส่งออกให้ดีขึ้น และขจัดการทุจริตคอรัปชั่นในสังคมไทย

ชมรมนักวิจัยไทยเพื่อความสุขชุมชน (Thai Researchers in Community Happiness Association, TRICHA) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจมาสเตอร์โพลล์(Master Poll) เรื่อง “1 ปี คสช.กับการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย”  โดยศึกษาตัวอย่างแกนนำชุมชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,083 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 22 - 24 พฤษภาคม 2558 ผลการสำรวจการติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อมวลชนในช่วง 30 วันก่อนวันสำรวจ พบว่า แกนนำชุมชนร้อยละ 63.5 ระบุเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย สำเร็จ ร้อยละ 22.5 ระบุกังวลว่าจะไม่สำเร็จ และร้อยละ 14.0 ระบุไม่แน่ใจไม่มีความเห็น  การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ พบว่า แกนนำชุมชนร้อยละ 72.2 ระบุเชื่อมั่นว่าจะสำเร็จ ในขณะที่ร้อยละ 19.7 ระบุกังวลว่าจะไม่สำเร็จ และร้อยละ 8.1 ระบุไม่แน่ใจ ไม่มีความเห็น  การแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ พบว่า แกนนำชุมชนร้อยละ 29.7 ระบุเชื่อมั่นว่าจะสำเร็จ ในขณะที่ร้อยละ 50.6 ระบุกังวลว่าจะไม่สำเร็จ และร้อยละ 19.7 ระบุไม่แน่ใจ ไม่มีความเห็น การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรไทย นั้นพบว่าแกนนำชุมชนร้อยละ 48.8 ระบุเชื่อมั่นว่าจะสำเร็จ ในขณะที่ร้อยละ 35.9 ระบุกังวลว่าจะไม่สำเร็จ และร้อยละ 15.3 ระบุไม่แน่ใจ ไม่มีความเห็น

นอกจากความเห็นจากการสำรวจโพลแล้ว ยังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ เมื่อ วันที่ 22 พ.ค. 2558 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ และคณะ ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับพวกรวม 5 คนซึ่งเป็นคณะ คสช. เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานเป็นกบฏล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ หรือล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร หรือตุลาการ หรือแบ่งแยกราชอาณาจักรโดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำการสะสมกำลังพลหรืออาวุธ หรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 และ 114 กรณีที่พวกจำเลยรวมกันยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

              นอกจากนี้ ยังมีการเคลื่อนไหวของนักศึกษานัดรวมตัวกันเพื่อทำกิจกรรมในวาระครบ 1 ปี รัฐประหาร ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเย็นวันที่22 พ.ค. 2558 มีนักศึกษา 38 คนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปยัง สน.ปทุมวัน และได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมาดูไปแล้ว หนึ่งปีที่ผ่านมา บ้านเมืองภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ มีทั้งด้านบวกและลบ มีอำนาจเด็ดขาดก็สามารถดำเนินการบางเรื่องได้รวดเร็วกว่าปกติ แต่การใช้อำนาจเด็ดขาดก็มีผลต่อสิทธิเสรีภาพ การแสดงความคิดเห็นของประชาชน

ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ผ่านการทำรัฐประหารยึดอำนาจสำเร็จมาแล้วถึง 13 ครั้งด้วยกัน ไม่นับรวมการรัฐประหารที่ไม่สำเร็จถูกเรียกว่าเป็นกบฏอีก 11 ครั้ง รัฐธรรมนูญถูกฉีกแล้วฉีกอีก เขียนแล้วเขียนอีก มาถึง 18 ฉบับ ฉบับที่กำลังร่างอยู่ในเวลานี้ จะเป็นฉบับที่ 19 ก็ยังไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาบ้านเมืองได้แค่ไหน แก้ปัญหาถูกทางหรือไม่

การฉีกรัฐธรรมนูญแล้วเขียนใหม่อยู่เรื่อยๆนี่ คนไทยรุ่นอายุมากหน่อย บางคนก็ผ่านรัฐธรรมนูญมาเกือบยี่สิบฉบับแล้ว ยังไม่เห็นการเมืองไทยดีขึ้น ผ่านมานานจนน่าเบื่อหน่าย คนร่างรัฐธรรมนูญเป็นคนหน้าเดิมๆ เป็นเจ้าพ่อนักเขียนรัฐธรรมนูญ อย่างอาจารย์วิษณุ กับอาจารย์บวรศักดิ์ สองท่านนี้จะมีชื่อเสมอในการร่างรัฐธรรมนูญ

รัฐบาลที่มาจากการรัฐประหารของท่านนายกที่ถอดเสื้อสีเขียว แต่พฤติกรรมยังเป็นทหาร ผมว่าเป็นนายกต้องสุขุมใจเย็น ควบคุมสติ ไม่อารมณ์เสียให้ชาวบ้านเห็นหน้าจอทีวีเกือบทุกวัน ออกอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงเวลาถูกนักข่าวถาม นายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งผู้นำประเทศเป็นภาพลักษณ์ของประเทศไทย นักข่าวถามท่านเขาทำตามหน้าที่ของเขา

ก่อนรัฐประหารประชาชนหลายภาคส่วนต่างก็ลุกขึ้นมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าประเทศของเราต้องมีการปฏิรูปในทุกภาคส่วนของสังคม เมื่อมีการรัฐประหารแล้วก็ควรมีการสานต่อในเรื่องนี้อย่างจริงจังรวดเร็ว แต่ผ่านไปหนึ่งปีสิ่งที่ คสช. และรัฐบาลแก้ไข อย่างเรื่องบุกรุกป่า เรื่องจัดระเบียบรถตู้ เรื่องหวย เหล่านี้ควรจะได้รับการแก้ไขครับ ดีครับที่ทำ แต่เรื่องใหญ่ๆที่ควรทำอย่างเร่งด่วน อย่างเรื่องทุจริตคอรัปชั่น ท่านต้องทำจริงจังให้ชาวบ้านเห็นมากกว่านี้

เรื่องใหญ่ๆหลักๆที่ประชาชนเรียกร้อง อย่างเรื่องของพลังงาน ปฏิรูปตำรวจ ให้ความเป็นธรรม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ค่าครองชีพ รวมไปถึงราคาพืชผลการเกษตร รัฐบาลต้องจริงจังทำให้ประชาชนสามารถมีคุณภาพชีวิต ทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม

เวลาหนึ่งปีผ่านไปไวเหมือนโกหกจริงๆ ปีก่อนสถานการณ์ทางการเมืองอาจจะตึงเครียดกว่านี้ แต่มาวันนี้สถานการณ์ทางปากท้องตึงเครียดมากยิ่งกว่า หวังว่าท่านนายกจะยังจำเพลงที่ท่านแต่งแล้วเปิดกรอกหูประชาชนอยู่ทุกวันได้ดีและขอให้ทำให้ได้ตามที่ท่านเขียนลงในเนื้อเพลง

เอาละบ่นกันมาเยอะชมท่านนายกเสียหน่อย วันก่อนท่านตอกหน้านักโทษชายที่หนีคดีการเมืองไปทำตัวเร่ร่อนไปทั่วโลกได้สะใจมากครับท่านนายก แต่จะดีกว่านี้ถ้าท่านดำเนินการถอดยศนักโทษชายหนีคุกที่ถูกเก็บซุกลิ้นชักผู้นำรัฐบาลชุดก่อนๆ และใช้วิธีส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับนานาประเทศ เพื่อเอาตัวมาดำเนินคดี ปิดคดีนี้เสียที ศาลตัดสินอย่างไรถูกหรือผิดก็จะได้พิสูจน์กัน

ที่สำคัญท่านต้องฟังเสียงประชาชน โพลสำรวจความคิดเห็นประชาชน คำชมเป็นกำลังใจ คำติก็ต้องรับฟังเอาไปแก้ปัญหาเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติอย่างจริงจัง อย่างน้อยๆ ผมหวังว่าท่านจะเป็นนายกที่ประชาชนจดจำผลงานสิ่งดีๆ เมื่อท่านลงจากตำแหน่งหรือจากไป ไม่ใช่ลงจากตำแหน่งแล้วคนก่นด่าและสาปแช่ง เหมือนผู้นำประเทศบางคน
กำลังโหลดความคิดเห็น