ต้องขอสวัสดีปีใหม่พ่อแม่พี่น้องทุกๆคนนะครับ ขอให้มีความสุขในวันสงกรานต์ เดินทาง ขับรถขับรากันอย่างปลอดภัย มีสติไม่ประมาท เมาไม่ขับ ฉลองวันหยุดยาว กลับบ้านมาทำงานกันโดยสวัสดิภาพทุกคนนะครับ
สำหรับคนไทย มีวันหยุดยาวต่อเนื่องพร้อมกันทั้งครอบครัว ก็เป็นวันปีใหม่กับวันสงกรานต์นี่แหละครับ หลายครอบครัวได้เดินทางกลับบ้านเป็นการรวมญาติ บางคนเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศก็มาก ตามดูเพื่อนๆพี่ๆน้องหลายคนทางโลกโซเซี่ยลมีเดียต่างๆ ก็จะได้เห็นว่าใครไปไหน ทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง
ว่าด้วยการเดินทางท่องเที่ยว พักหลังมีข่าวพฤติกรรมไม่เหมาะสมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ข่าวน้องๆแก๊งฮอร์โมนวัยว้าวุ่นที่ออกลวดลายเต้นและแดนซ์กันในรถไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น จนมีคลิปหลุดออกมากพร้อมเสียงวิจารณ์มากมายทั้งจากคนไทยและคนญี่ปุ่น
ยังมีภาพแก๊งนี้ไปชมซากุระแบบไม่มีมารยาท พอเข้าใจนะครับว่าน้องๆอาจจะไม่รู้กติกามารยาทการชม ป้ายอาจจะเป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งอ่านกันไม่ออก แต่น้องๆครับ นี่เป็นมารยาทในที่สาธารณะ อย่างบนรถไฟฟ้า ไม่ว่ารถไฟฟ้าในบ้านเราหรือประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศไหนๆ ก็ไม่ควรทั้งนั้นละครับ เพราะเป็นการรบกวนผู้อื่น คนทำควรรู้สึกอับอาย ถูกมองด้วยสายตารังเกียจจากคนอื่นๆ
การไปเที่ยวชมสวนดอกไม้ไม่ว่าที่ไหน ก็ควรเคารพกติกามารยาทอย่างเคร่งครัด ไม่เด็ดดอกไม้หรือจับต้องดอกไม้ให้เสียหาย ไปเที่ยวป่า หรือท่องเที่ยวธรรมชาติอื่นๆก็เหมือนกัน ต้องไม่ทำลายธรรมชาติให้เสียหาย ไม่ทิ้งขยะกลาดเกลื่อนสกปรก นอกจากเป็นเรื่องมารยาทเรื่องวินัยแล้ว ในเกือบทุกประเทศยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายด้วย
การเข้าชมวัด สถานที่สำคัญ หรือพิพิธภัณฑ์ก็เช่นเดียวกัน การห้ามจับต้องห้ามถ่ายรูปเป็นเรื่อ งสำคัญมาก เพราะแสงจากการถ่ายรูปเป็นการทำลายวัตถุหรือภาพศิลปโบราณ ถ้าผลงานล้ำค่าของมนุษยชาติทั่วโลกที่สะสมกันมาเป็นพันๆปี เสียหายถูกทำลายไม่มีทางจะเหมือนเดิมได้ แล้วโลกนี้จะเหลืออะไรไว้คนรุ่นหลังล่ะครับ
ผมว่านี่เป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องสร้างวินัย ปลูกฝังมารยาท ให้ความรู้ความเข้าใจสร้างความตระหนักกันตั้งแต่เด็ก ในสังคมไทย ผมว่าหลังๆมานี้คนรุ่นเด็กเล็กมีพื้นฐานที่ดีกว่ากลุ่มวัยอื่นๆ ที่ถูกค่อนแคะพฤติกรรมแย่ๆมากหน่อย ก็เช่น มนุษย์ป้า หรือวัยรุ่นวัยคะนองทั้งหลาย
สังคมก็ต้องใส่ใจในการสร้างวินัย การเคารพกติกามารยาท การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบ ไม่ก่อกวนสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่น ในยุคโลกกว้าง การเดินทางท่องเที่ยวข้ามประเทศ ยิ่งต้องให้ความรู้ความเข้าใจวัฒนธรรมของประเทศอื่น
ความรู้เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องยาก ก่อนการเดินทางท่องเที่ยว ควรศึกษาหาข้อมูลก่อนไป เข้าใจวัฒนธรรมสังคมอื่น รู้อะไรควรไม่ควร รู้กฎหมายที่จำเป็น
นอกจากพฤติกรรมไม่ควรของคนไทยแล้ว เวลานี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในเมืองไทยยังปวดหัวเอือมระอากับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาชญากรประเภทอบายมุขค้ามนุษย์ สิบแปดมงกุฎ ฉ้อโกง หลอกลวง ฟอกเงิน ฯลฯ ชั่วสารพัดแบบ ตำรวจผู้รักษากฎหมายก็ต้องรับมือละครับ แม้แต่คุณหมอ พยาบาล ในเมืองท่องเที่ยวบางแห่ง ยังบอกว่า เดี๋ยวนี้อยู่เวรกลางคืน ต้องรับมือกับคนไข้ฉุกเฉินต่างชาติที่บาดเจ็บมาจากแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน
เอาละไหนๆพูดถึงเรื่องนี้ทำให้นึกถึงทัวร์จีนที่มาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่างในประเทศไทย จนเป็นข่าวมาแล้วมากมายตั้งแต่เอาเท้าขึ้นมาล้างในอ่างล่างหน้า การเข้าไปชมวัดวาอารามแล้วไปทำข้าวของเสียหาย แถมตอนนี้มนุษย์ป๊าอาม่าอาซิ่มและตี๋หมวย เป็นอะไรที่พบเจอได้ง่ายแทบทุกที่ในประเทศไทย ชนิดที่ว่าหาง่ายกว่าส้มเขียวหวานที่จะเอามาคั้นน้ำส้มซะอีก
ที่ฮือฮาส่งเสียงไกลก็น่าจะเป็นกรณีอาจารย์เฉลิมชัย แห่งวัดร่องขุ่น กับพฤติกรรมการใช้ส้วมของนักท่องเที่ยวชาวจีน ก็น่าเห็นใจละครับ เรื่องส้วมเมืองจีนนั้นเป็นที่ระบือมานานแล้ว คนจีนเคนชินกับการใช้ส้วมรวมกัน ใช้ส้วมไม่ล็อคประตู ใช้ส้วมที่กวาดเอาของเสียไปทำปุ๋ยปลูกผัก พวกเขาจึงเคยชินกับปุ๋ยส้วม ไม่ราดทำความสะอาดก็ถ่ายทับกันต่อๆไปได้ ประเทศจีนก็ต้องแก้ไขพฤติกรรมคนของเขา ประเทศไทยที่จำเป็นต้องพึ่งรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน ก็ต้องหาหนทางวิธีการรับมือ เชื่อสิคนไทยจะคิดหาทางออกได้แน่ครับ
แต่ละประเทศอาจจะหาวิธีแก้ไขพฤติกรรมไม่พึงประสงค์แตกต่างกันไป บางประเทศก็ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ดูอย่างสิงคโปร์ ที่มีกฏหมายมีบทลงโทษเข้มงวดรุนแรงชัดเจน เช่นห้ามเคี้ยวหมากฝรั่ง ห้ามขากเสมหะถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่กฏหมายคือกฏหมาย คนต่างชาติไปสิงคโปร์ก็ต้องรับรู้ไม่ไปทำผิดกฎหมายของเขา
การเดินทางไปที่ไหน ไม่ว่าในประเทศ หรือต่างประเทศ การเข้าใจวัฒนธรรมของคนท้องถิ่นเป็นสิ่งจำเป็น การมีมารยาทในที่สาธารณะไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่นเป็นพื้นฐานที่ควรมี ระเบียบวินัยและกฎหมายที่จำเป็นในแต่ละประเทศก็ควรต้องรู้
หนังสือคู่มือการท่องเที่ยว เอกสารแนะนำการท่องเที่ยว ก็หาซื้อไม่ยากอะไร ผมว่าการท่องเที่ยว กระทรวงวัฒนธรรม หน่วยงานอื่นๆที่เกียวข้อง ทำเอกสารเผยแพร่ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค วางไว้ให้หยิบอ่านฟรี ตามแอร์พอร์ต บนเครื่องบิน บนรถโดยสาร โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ ทำได้อีกมากมาย ผมเชียร์ให้ทำออกมาให้ความรู้ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว จะได้ท่องเที่ยวกันอย่างมีความสุข ไม่ทำลายให้เกิดความเสียหาย มาช่วยกันสร้างการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนกันดีกว่าครับ
สำหรับคนไทย มีวันหยุดยาวต่อเนื่องพร้อมกันทั้งครอบครัว ก็เป็นวันปีใหม่กับวันสงกรานต์นี่แหละครับ หลายครอบครัวได้เดินทางกลับบ้านเป็นการรวมญาติ บางคนเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศก็มาก ตามดูเพื่อนๆพี่ๆน้องหลายคนทางโลกโซเซี่ยลมีเดียต่างๆ ก็จะได้เห็นว่าใครไปไหน ทำกิจกรรมอะไรกันบ้าง
ว่าด้วยการเดินทางท่องเที่ยว พักหลังมีข่าวพฤติกรรมไม่เหมาะสมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ข่าวน้องๆแก๊งฮอร์โมนวัยว้าวุ่นที่ออกลวดลายเต้นและแดนซ์กันในรถไฟฟ้าที่ญี่ปุ่น จนมีคลิปหลุดออกมากพร้อมเสียงวิจารณ์มากมายทั้งจากคนไทยและคนญี่ปุ่น
ยังมีภาพแก๊งนี้ไปชมซากุระแบบไม่มีมารยาท พอเข้าใจนะครับว่าน้องๆอาจจะไม่รู้กติกามารยาทการชม ป้ายอาจจะเป็นภาษาญี่ปุ่นซึ่งอ่านกันไม่ออก แต่น้องๆครับ นี่เป็นมารยาทในที่สาธารณะ อย่างบนรถไฟฟ้า ไม่ว่ารถไฟฟ้าในบ้านเราหรือประเทศญี่ปุ่น หรือประเทศไหนๆ ก็ไม่ควรทั้งนั้นละครับ เพราะเป็นการรบกวนผู้อื่น คนทำควรรู้สึกอับอาย ถูกมองด้วยสายตารังเกียจจากคนอื่นๆ
การไปเที่ยวชมสวนดอกไม้ไม่ว่าที่ไหน ก็ควรเคารพกติกามารยาทอย่างเคร่งครัด ไม่เด็ดดอกไม้หรือจับต้องดอกไม้ให้เสียหาย ไปเที่ยวป่า หรือท่องเที่ยวธรรมชาติอื่นๆก็เหมือนกัน ต้องไม่ทำลายธรรมชาติให้เสียหาย ไม่ทิ้งขยะกลาดเกลื่อนสกปรก นอกจากเป็นเรื่องมารยาทเรื่องวินัยแล้ว ในเกือบทุกประเทศยังเป็นเรื่องผิดกฎหมายด้วย
การเข้าชมวัด สถานที่สำคัญ หรือพิพิธภัณฑ์ก็เช่นเดียวกัน การห้ามจับต้องห้ามถ่ายรูปเป็นเรื่อ งสำคัญมาก เพราะแสงจากการถ่ายรูปเป็นการทำลายวัตถุหรือภาพศิลปโบราณ ถ้าผลงานล้ำค่าของมนุษยชาติทั่วโลกที่สะสมกันมาเป็นพันๆปี เสียหายถูกทำลายไม่มีทางจะเหมือนเดิมได้ แล้วโลกนี้จะเหลืออะไรไว้คนรุ่นหลังล่ะครับ
ผมว่านี่เป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องสร้างวินัย ปลูกฝังมารยาท ให้ความรู้ความเข้าใจสร้างความตระหนักกันตั้งแต่เด็ก ในสังคมไทย ผมว่าหลังๆมานี้คนรุ่นเด็กเล็กมีพื้นฐานที่ดีกว่ากลุ่มวัยอื่นๆ ที่ถูกค่อนแคะพฤติกรรมแย่ๆมากหน่อย ก็เช่น มนุษย์ป้า หรือวัยรุ่นวัยคะนองทั้งหลาย
สังคมก็ต้องใส่ใจในการสร้างวินัย การเคารพกติกามารยาท การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบ ไม่ก่อกวนสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่น ในยุคโลกกว้าง การเดินทางท่องเที่ยวข้ามประเทศ ยิ่งต้องให้ความรู้ความเข้าใจวัฒนธรรมของประเทศอื่น
ความรู้เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องยาก ก่อนการเดินทางท่องเที่ยว ควรศึกษาหาข้อมูลก่อนไป เข้าใจวัฒนธรรมสังคมอื่น รู้อะไรควรไม่ควร รู้กฎหมายที่จำเป็น
นอกจากพฤติกรรมไม่ควรของคนไทยแล้ว เวลานี้สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งในเมืองไทยยังปวดหัวเอือมระอากับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาชญากรประเภทอบายมุขค้ามนุษย์ สิบแปดมงกุฎ ฉ้อโกง หลอกลวง ฟอกเงิน ฯลฯ ชั่วสารพัดแบบ ตำรวจผู้รักษากฎหมายก็ต้องรับมือละครับ แม้แต่คุณหมอ พยาบาล ในเมืองท่องเที่ยวบางแห่ง ยังบอกว่า เดี๋ยวนี้อยู่เวรกลางคืน ต้องรับมือกับคนไข้ฉุกเฉินต่างชาติที่บาดเจ็บมาจากแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน
เอาละไหนๆพูดถึงเรื่องนี้ทำให้นึกถึงทัวร์จีนที่มาทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่างในประเทศไทย จนเป็นข่าวมาแล้วมากมายตั้งแต่เอาเท้าขึ้นมาล้างในอ่างล่างหน้า การเข้าไปชมวัดวาอารามแล้วไปทำข้าวของเสียหาย แถมตอนนี้มนุษย์ป๊าอาม่าอาซิ่มและตี๋หมวย เป็นอะไรที่พบเจอได้ง่ายแทบทุกที่ในประเทศไทย ชนิดที่ว่าหาง่ายกว่าส้มเขียวหวานที่จะเอามาคั้นน้ำส้มซะอีก
ที่ฮือฮาส่งเสียงไกลก็น่าจะเป็นกรณีอาจารย์เฉลิมชัย แห่งวัดร่องขุ่น กับพฤติกรรมการใช้ส้วมของนักท่องเที่ยวชาวจีน ก็น่าเห็นใจละครับ เรื่องส้วมเมืองจีนนั้นเป็นที่ระบือมานานแล้ว คนจีนเคนชินกับการใช้ส้วมรวมกัน ใช้ส้วมไม่ล็อคประตู ใช้ส้วมที่กวาดเอาของเสียไปทำปุ๋ยปลูกผัก พวกเขาจึงเคยชินกับปุ๋ยส้วม ไม่ราดทำความสะอาดก็ถ่ายทับกันต่อๆไปได้ ประเทศจีนก็ต้องแก้ไขพฤติกรรมคนของเขา ประเทศไทยที่จำเป็นต้องพึ่งรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน ก็ต้องหาหนทางวิธีการรับมือ เชื่อสิคนไทยจะคิดหาทางออกได้แน่ครับ
แต่ละประเทศอาจจะหาวิธีแก้ไขพฤติกรรมไม่พึงประสงค์แตกต่างกันไป บางประเทศก็ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ดูอย่างสิงคโปร์ ที่มีกฏหมายมีบทลงโทษเข้มงวดรุนแรงชัดเจน เช่นห้ามเคี้ยวหมากฝรั่ง ห้ามขากเสมหะถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่กฏหมายคือกฏหมาย คนต่างชาติไปสิงคโปร์ก็ต้องรับรู้ไม่ไปทำผิดกฎหมายของเขา
การเดินทางไปที่ไหน ไม่ว่าในประเทศ หรือต่างประเทศ การเข้าใจวัฒนธรรมของคนท้องถิ่นเป็นสิ่งจำเป็น การมีมารยาทในที่สาธารณะไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่นเป็นพื้นฐานที่ควรมี ระเบียบวินัยและกฎหมายที่จำเป็นในแต่ละประเทศก็ควรต้องรู้
หนังสือคู่มือการท่องเที่ยว เอกสารแนะนำการท่องเที่ยว ก็หาซื้อไม่ยากอะไร ผมว่าการท่องเที่ยว กระทรวงวัฒนธรรม หน่วยงานอื่นๆที่เกียวข้อง ทำเอกสารเผยแพร่ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค วางไว้ให้หยิบอ่านฟรี ตามแอร์พอร์ต บนเครื่องบิน บนรถโดยสาร โรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ ทำได้อีกมากมาย ผมเชียร์ให้ทำออกมาให้ความรู้ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว จะได้ท่องเที่ยวกันอย่างมีความสุข ไม่ทำลายให้เกิดความเสียหาย มาช่วยกันสร้างการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนกันดีกว่าครับ