xs
xsm
sm
md
lg

มองไปข้างหน้า: การเมืองไทยหลังยิ่งลักษณ์หนี

เผยแพร่:   โดย: บัณรส บัวคลี่

เมื่อเดือนก่อนหลังจากที่อัยการสั่งฟ้องแถมสนช.ลงมติปลดยิ่งลักษณ์ไม่นาน ผมได้ฟันธงเหตุการณ์การเมือง 2-3 ประเด็นในวงสนทนาหลังถ้วยน้ำชากับนักการทูตผู้ทำงานการข่าวของสถานกงสุลประเทศมหาอำนาจหนึ่ง

ในช่วงระหว่างนั้นการเมืองมันร้อนขึ้นเฉียบพลัน ถ้าจำกันได้บรรดาแกนนำแดงอิ่มท้องทั้งหลายไม่ว่าเต้น ตู่ นกแสกพาเหรดออกมาข่มขู่ทหารกันใหญ่ พร้อมกันนั้นนายแดเนียล รัสเซลเยือนไทยเปิดบ้านให้ยิ่งลักษณ์พร้อมนายปึ้งไปพบ นายปึ้งออกมาบอกนักข่าวว่าไปฟ้องเขาเรื่องอะไรบ้างและมีลูกหยอดทำนองว่าทหารคงอยู่ในอำนาจอีกยาวจนกว่าเขาจะได้สิ่งที่ต้องการ

นี่เป็นปกติธรรมดามากของสถานทูตแต่ละแห่งที่ต้องติดตามหาข่าวสาร บังเอิญที่เชียงใหม่มีสถานกงสุลประเทศต่างๆ อยู่เยอะเลยพอจะถูกนัดหมายไปจิบน้ำชาแลกเปลี่ยนอยู่บ่อยๆ พอเมืองไทยเรามีเหตุให้ต้องรวบรวมข่าววิเคราะห์สถานการณ์กันทีก็มักจะมีการแลกเปลี่ยนแบบนี้ แล้วก็ไม่ใช่แค่รูปแบบการพะปะบุคคลในแวดวงต่างๆ เท่านั้น เขายังมีหน่วยข่าวของตัวเอง วันก่อนไปซื้อหนังสือร้านใหญ่ที่เป็นขาประจำเจอฝรั่งด้อมๆ มองๆ ที่แผงหนังสืออยู่นาน แล้วเดินมาถามที่เคาน์เตอร์ว่าแมกกาซีนชื่อxxxx ฉบับที่มีภาพและเรื่องราวของสมเด็จพระเทพฯ คนขายบอกว่าหมดแล้วฝรั่งพยักหน้าหงึกๆ ทำนองเข้าใจผมเหลียวมองอีกที เอ๊.. ตานี้คุ้นๆ มักไปตามงานกิจกรรมต่างๆ บ่อยๆ คิดในใจว่าคงเป็นฝ่ายข่าวของประเทศไหนสักประเทศ อย่างสถานทูตสหรัฐในไทยน่ะมีเจ้าหน้าที่เป็นพันตำแหน่งเพราะเป็นศูนย์ครอบคลุมภูมิภาค ดังนั้นข่าวสารยิบย่อยไม่ว่าข่าวของฝ่ายไหนบางทีนักข่าวเองยังรู้ไม่เท่าเลย

เรื่องที่สนทนามี 2-3 ประเด็น เรื่องแรก ทำไมยิ่งลักษณ์ถูกฟัน (ฟันในที่นี้หมายถึงถูกถอดถอน และถูกฟ้องขอให้เข้าใจตามนี้) ผมแลกเปลี่ยนไปว่า มันเป็นไฟต์บังคับของเกมอำนาจ ถ้าไม่ทำอะไรยิ่งลักษณ์เลยรัฐบาลทหารก็จะสูญเสียเสียงสนับสนุน ซึ่งแท้จริงแล้วฐานสนับสนุนรัฐบาลทหารไม่ได้มากมายอะไร ตีจำนวนกลมๆ ง่ายๆ คิดจากฝ่ายที่ไม่ชอบทักษิณหารครึ่งประมาณนั้น แต่มันก็สำคัญ! เพราะระหว่างที่ทหารจะต้องอยู่ในอำนาจไปราว 1 ปีจากนี้จะมีเหตุมากมายออกมาเช่นรัฐธรรมนูญ ประเด็นปฏิรูปแหลมๆ รวมไปถึงการนิรโทษกรรมใหญ่ แต่อย่างไรก็ตามที่สุดแล้วทหารก็จะปล่อยให้ยิ่งลักษณ์หนี แบบที่พี่ชายของเธอเคยทำมาก่อน แล้วก็เข้าสู่โหมดเริ่มกระดานการเมืองชุดใหม่

หนึ่งเดือนผ่านไป แม้ตอนนี้มีข่าวทหารตามประกบยิ่งลักษณ์ใกล้ชิดระหว่างไปเชียงใหม่แต่ผมก็ยังเชื่อตามที่ได้บอกกับนักการทูตฝรั่งไว้ เพราะการปล่อยให้หนีแบบงอมืองอตีนอาจตีความได้ว่าหลิ่วตาให้หนี กระแสจะตีกลับใส่ทหารอยู่ดี ทำนองว่าคุมตัวกันแบบไหนทำไมปล่อยให้หนีได้... แต่ที่สุดแล้วอย่างไรเสียศักยภาพของตระกูลชินวัตรน่ะจะเล็ดลอดออกนอกประเทศมันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย ถ้าหนีแบบนี้ภาพของฝ่ายผู้มีอำนาจปัจจุบันดูดี ขณะภาพของฝ่ายที่หนีมันไม่เท่เท่าไหร่ มันไม่สง่างามเหมือนมีคนเปิดช่องให้ไปดูโอลิมปิค

ที่สุดแล้วต่อให้ทหารอุดทุกช่อง จนบัดนี้ผมก็ยังเชื่อไม่เปลี่ยน...ว่ายิ่งลักษณ์จะหนี แล้วหนีได้ด้วย !

ฝรั่งฝ่ายการข่าวและไทยบางคนที่หมกมุ่นกับทฤษฎีเจ้าๆ นายๆ จำนวนไม่น้อยเชื่อว่าทหารจะอยู่ยาว 2-3-4 ปี “จนกว่าจะได้รับยิ่งที่ตนเองต้องการ” เรื่องนี้ละเอียดอ่อนมีหลายกลุ่มหลายพวกเอาไปผูกกับประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย ถ้าสังเกตให้ดีข่าวลือข่าวปล่อยไม่ว่าจะก่อนหน้ารัฐประหารหรือล่าสุดล้วนแต่วนเวียนผูกโยงกับทฤษฎีนี้ พ่วงด้วยการวิเคราะห์ว่าทหารจะอยู่ยาว

ผมส่ายหัว ไม่เชื่อที่ว่าการฟันยิ่งลักษณ์เป็นส่วนหนึ่งของแผนทหารอยู่ยาว บอกเขาไปว่าผมยังเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ภายในต้นปี 2559 ตามที่รัฐบาลได้ประกาศโรดแมปไว้ก่อนหน้า ไม่นานไปกว่านั้น

เพราะว่าคนไทยน่ะบทจะปลุกปุ๊บปั๊บขึ้นมาก็มาได้เป็นแสนๆ นะครับ ลองพล.อ.ประยุทธ์ ตระบัดสัตย์ไม่มีเลือกตั้งเลียนแบบรุ่นพี่ปี 2535 ดู..แต่อย่าลองเลยท่านก็คงรู้ว่าจะยื้อโหมดรัฐบาลทหารในรัฐธรรมนูญชั่วคราวแบบนี้ต่อไปอีกมันลำบาก ผมจึงเชื่อว่าทหารฉลาดพอจะจบโหมดรัฐบาลทหารลงตามไทม์ไลน์ที่ประกาศไว้ ไม่มีหรอกไอ้ที่จะอยู่ต่อ 3-4 ปีแบบที่คนในพรรคเพื่อไทยบางคนวิเคราะห์บอกกับตัวแทนของสหรัฐ

ปมมันอยู่ที่จบโหมดรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์เข้าสู่โหมดเลือกตั้งบนกระดานหมากและกติกาแบบไหนต่างหาก !

ผมบอกเขาไปว่าผมเชื่อตามประสบการณ์ที่เจอหลังรัฐประหารทุกครั้งว่าจะมีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นและมีอำนาจที่หนุนทหารอยู่ขณะนี้(บางส่วน)เข้าไปมีบทบาทนำในพรรคการเมืองนั้น แล้วก็ไม่เชื่อว่าจะเละเทะหลวมๆ ขาดหัวที่แท้จริงแบบอดีตพรรคสามัคคีธรรมจนต้องไปหาบิ๊กสุมาสวมเป็นหัวหรือปล่อยให้เป็นแบบที่ปล่อยให้พรรคทักษิณชนะรวดแบบทิ้งห่างยื่นมือรับไม้จากรัฐบาลขิงแก่ที่ส่งให้แบบงงๆ

ผมยังเชื่อว่าพรรคใหม่ที่ว่าจะมาแรง ดูดี เล็งเห็นจุดอ่อน เอาข้อบกพร่องในอดีตมาแก้ไข อะไรที่มันจะยี้ก็ซ่อนยี้ไว้ แล้วก็หาแม่เหล็กดึงดูดเข้ามาชนิดที่จะเน้นภาพเศรษฐกิจปากท้องและโกอินเตอร์ไปพร้อมกัน

ซึ่งกระดานหมากใหม่และกติกาใหม่นี่ล่ะ เป็นประเด็นที่แลกเปลี่ยนอยู่กันนานพอสมควร

ประเด็นต่อมาคือการร่างรัฐธรรมนูญ...ผมเชื่อว่ารัฐธรรมนูญใหม่จะมีประเด็นแหลมๆ เรื่องที่ดีๆ ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนอยู่ในนั้น โดยเฉพาะเรื่องสิทธิเสรีภาพประชาสังคม แนวคิดใหม่ๆ แต่พร้อมกันนั้นก็อาจจะมีเรื่องไม่เข้าท่าของระบบที่เรียกว่าอำมาตยาธิปไตย Bureaucratic Polity (ตามความคิดของ Fred W. Riggs ซึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับสถาบันมหากษัตริย์ที่คนทั้งแดงเหลืองบางคนเข้าใจผิด) ที่จะวางระบบให้อำนาจของฝ่ายพวกตนเข้าไปมีบทบาทนำในโครงสร้างการเมือง

ซึ่งมันจะเป็นอะไรที่ย้อนแย้งมาก..ขนาดคู่สนทนาก็ใช้คำว่า เฮ้ยนี่มัน Paradox ชัดๆ !มาสรุปสิ่งที่ผมนำเสนอไป

การเมืองไทยจากจุดนี้มีอะไรที่ต้องจับตาอยู่ 2 ส่วน ส่วนแรกคือพรรคเพื่อไทยหลังยิ่งลักษณ์หนีคดี ตระกูลชินวัตรจะยังยืนกรานโมเดลคนในที่นายใหญ่ไว้ใจมาเป็นหัวแบบเดิมหรือไม่ ตัวเลือกก็น้อยลงๆ ต่อให้นิรโทษกรรมเจ๊แดงเป็นไม่ได้หรอก สมชาย วงศ์สวัสดิ์ขัดตาทัพได้สมัยเดียวแค่นั้นคงกลับมาใหม่ไม่ได้เพราะนิ่มไป สมุนนักก้าวหน้าประชาธิปไตยอย่างเต้นเสนอลูกเขยทักษิณซึ่งจะว่าไปนี่คือวิธีการแบบการตลาดเอาภาพหล่อสวยมาชูไม่รู้คุณภาพจริงมีแค่ไหน การเมืองบนสนามเลือกตั้งรอบใหม่ตระกูลชินวัตรอาจจะถูกบีบให้ถอยลงมาหนึ่งก้าว ยอมเป็นแค่ส่วนหนึ่งของพรรคไม่ใช่นายใหญ่กำหนดราวกับบริษัทส่วนตัวแบบเดิม แดงฝ่ายก้าวหน้าน่ะถอยจากเพื่อไทยไปก้าวใหญ่แล้วต่อไปนักการเมืองแบบดาวฤกษ์มีแสงในตัวเองอาจจะไปด้วยหากชินวัตรยังบริหารแบบกงสีอิ่มแปล้เฉพาะแซ่ของตัวเองแบบที่ผ่านมา

ถ้าทหารและรัฐบาลประคับประคองแม่น้ำ 5 สายให้อยู่ในแผนในกรอบที่กำหนดก็จะนำไปสู่เลือกตั้งใหม่ต้นปีแบบที่ตระกูลชินวัตรต้องยอมร่วมเล่นแบบที่ลดบทบาทกลุ่มของตนลงมา ประคับประคองตนในเกมอำนาจกระดานใหม่

ปัจจัยสำคัญที่อาจทำให้ทุกอย่างพลิกผันดีร้ายออกได้ทุกหน้าก็คือเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญว่ากำหนดหลักคิดทิศทางและรูปร่างหน้าตาอย่างไร

สำคัญมากขนาดเกิดอุบัติเหตุกับรัฐบาลได้ หรืออย่างน้อยก็ปลุกกระแสบนถนนในช่วงท้ายรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ก่อนจะเลือกตั้งได้เลย

ความหวาดระแวงเรื่องของกลุ่มก้อนผู้มีอำนาจและเครือข่ายของ Elites /Technocrats ฝ่ายที่ไม่เอาทักษิณจะไปถึงขั้นวางอำนาจสืบต่อนัยว่าเพื่อตรวจสอบถ่วงดุลน่ะจะทำกันแบบไหน – ขนาดไหน ซึ่งหากมันย้อนแย้ง ขาดความสมเหตุสมผลมีจุดอ่อนมาก หรือให้ดุลน้ำหนักของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากไป ร่างรัฐธรรมนูญก็จะเป็นตัวแปรสำคัญของการเมืองได้เลย

ห้าพารากราฟท้ายผมไม่ได้แลกเปลี่ยนคุยกับฝรั่งเขาไปหรอกครับ เพิ่งมาคิดสรุปเอาตอนนี้.
กำลังโหลดความคิดเห็น