ไหนๆก็ต้องสงบปากสงบคำ ในสถานการณ์การเมืองทุกวันนี้ เพราะข้อห้ามโน่นนี่นั่นเอาเป็นว่าอะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดแหละครับ
เป็นอย่างนี้ เราก็หาเรื่องอื่นมาคุยมาเขียนกันดีกว่า ช่วงค่ำวันศุกหรือวันสุดสัปดาห์ ลองเปลี่ยนช่องจากทีวีทุกช่องของประเทศไทย ไปดูอย่างอื่น ไม่ก็เปิดวิทยุ กดอินเทอร์เน็ตฟังเพลงเพราะๆ แปลกๆใหม่ๆ หรือแม้แต่อ่านหนังสือ ก็เป็นทางเลือก ว่ากันไปตามอัธยาศัยแล้วกันนะครับ
ผมลองหาซีรีส์ไทยและต่างประเทศดูในช่วงนี้ มีหลายเรื่องที่คนเขาพูดถึงกันอยู่ หนึ่งในนั้นมีชื่อเรื่องว่า ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ซีรีส์ไทย จากค่ายยักษ์ใหญ่ ที่มาพร้อมด้วยดารานักแสดงวัยรุ่นมากมาย พร้อมด้วยผู้กำกับฝืมือดี
ซีรีส์ ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ผลิตโดยบริษัท จีเอ็มเอ็ม ไท หับ (GTH) และ บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ออกอากาศผ่านแพลทฟอร์ม สามารถรับชมได้ที่ช่อง ONE
สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ผมต้องขอยกนิ้วให้เลยครับ แม้บางคนอาจจะมองว่าเรื่องราวในซีรีส์นี้จะแรงไปซะหน่อย แต่ผมว่าความจริงในสังคมไทยบางเรื่องแรงกว่าในหนังในละครไม่ว่าจะเป็นการมีเซ็กซ์ของนักเรียนในโรงเรียน การมั่วเซ็กซ์แข่งกันนับแต้ม ปัญหาใหญ่ของสังคมที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวัน อย่าง การมีท้องของแม่วัยเรียนการเป็นแม่วัยรุ่นที่ยังไม่พร้อม การติดเชื้อเอชไอวี นักเรียนหญิงตบตีแย่งแฟน ฯลฯ เรื่องจริงและคลิปวิดิโอที่เห็นๆกันอยู่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก หนักกว่าในละครเสียอีก
สำหรับชีวิตวัยรุ่น หรือคนที่ผ่านวัยรุ่นมาไม่นาน คงมีอารมณ์ความรู้สึกร่วมสมัยแบบในซีรีส์ อย่างแรกคือเรื่องเพื่อนเรื่องใหญ่มากสำหรับวัยรุ่น
เพื่อนมีอิทธิพลต่อชีวิตวัยรุ่นมากที่สุด ชีวิตจะไปทางใฝ่ดีหรือไม่ดี ก็เพื่อนนี่แหละครับ มีหลากหลาย มาจากครอบครัวสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน แต่สุดท้ายมิตรภาพก็เป็นสิ่งที่วัยรุ่นยึดถือ
เพื่อนดีเป็นศรีแก่ตัว นำพาไปสู่สิ่งดีๆ ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆเพื่อเตรียมความพร้อมจากวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่ ทำกิจกรรมต่างๆทั้งร้องเพลง เล่นดนตรี กีฬา แต่ในขณะเดียวกันเพื่อนไม่ดียั่วยุให้เดินไปในทางที่ผิด ไม่ว่าจะเรื่องยาเสพติด การมีเรื่องทะเลาะวิวาท ชกต่อย ยกพวกตีกัน
ในซีรีส์เรื่องนี้ยังมีเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างครูและนักเรียน บางตอนเราก็อาจจะได้เห็นครูเป็นฝ่ายทำตัวไม่ดี ลวนลามลูกศิษย์ หรือบางตอนเราก็จะเห็นครูที่มีจิตวิญญาณความเป็นครู ออกหน้ารับแทนปกป้องลูกศิษย์ของตัวเอง
ประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับเรื่องเพศ ในซีรีส์เรื่องนี้กมีตัวอย่างให้เห็นมาก จนหลายๆคนอาจจะมองว่ามันไม่เหมาะสม มันแรงเกินไป ผมว่ามันไม่ต่างไปจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคมสักเท่าไร แทนที่เราจะเอาแต่พยามปิดกั้นมัน ทำไมเราไม่หาวิธีเปิดเผยเรื่องนี้ เพื่อสะท้อนความจริง และเสนอวิธีการป้องกันแก้ไข
ไม่ใช่อะไรหรอกครับ อย่างน้อยๆก็ควรจะมีการพูดคุยกันภายในครอบครัว ดีกว่าให้เด็กหรือวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยที่อยากรู้อยากลอง ไปลองกันโดยรู้เท่าไม่ถึงการ ไม่มีความรู้ไม่เข้าใจสรีระร่างกายภาวะจิตใจอารมณ์ของวัยรุ่น ไม่รู้จักป้องกันอย่างถูกวิธี จนเกิดพลาดพลั้งตั้งครรภ์ หรือติดเอดส์กลับมา จริงไหมครับ
ผมว่าซีรีส์เรื่องนี้ คุณพ่อคุณแม่และลูกๆควรนั่งดูด้วยกันไปเลยครับ ดูไปอธิบายเด็กไป ขณะเดียวกันก็รับฟังความรู้สึกนึกคิดของลูก ทำความเข้าใจกับลูกและวัยรุ่นไปด้วยในตัว ก็น่าจะเป็นวิธีการให้เด็กได้เรียนรู้ ให้เด็กรู้เท่าทันปัญหา รู้ทันคน มีภูมิคุ้มกันทางสังคม สามารถปกป้องดูแลตัวเองให้ปลอดภัย
ปัญหาครอบครัวเป็นอีกประเด็นหนึ่งซึ่งถูกใส่เขามาในซีรีส์นี้ สารพัดแบบละครับ มีทั้งเรื่องของพ่อนอกใจแม่ แม่ที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว เรื่องของพ่อที่ป่วยหนักจนสุดท้ายก็เสียชีวิต ทิ้งลูกวัยรุ่นหญิงชายให้ดำเนินชีวิตตามลำพัง เรื่องแบบนี้ผมว่ามันเกิดขึ้นได้กับทุกๆครอบครัวแหละครับ ตัวอย่างชีวิตแบบนี้ทำให้เราเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม หากว่าวันหนึ่งปัญหามันเข้ามาจู่โจมชีวิตของเรา
พูดถึงข้อดีของซีรีส์นี้มาก็มาก ขอเขียนเรื่องข้อเสียสักหน่อยก็แล้วกัน เรื่องนี้อาจจะมีฉากเรื่องเพศและความรุนแรงมากไปหน่อย แม้สำหรับผมจะรับได้ แต่สำหรับผู้ปกครองที่มีลูกเป็นวัยรุ่นอาจจะตกใจและรู้สึกว่ามันเยอะไป ผู้ใหญ่เกรงว่าเด็กจะมีพฤติกรรมเลียนแบบ
ผมว่าสังคมต้องช่วยกันทำใหเด็กมีภูมิต้านทาน ครอบครัวและโรงเรียนเข้มแข็งเข้าใจและร่วมมือกัน ส่วนผู้จัดทำละครต้องผลิตงานด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม การเป็นละครซีรีส์เรื่องยาว มีหลายตอน การอธิบายเหตุที่นำไปสู่ผลลัพธ์ การสะท้อนเนื้อหาต้องสอดแทรกผิดชอบชั่วดี ควรไม่ควรเอาไว้ให้เด็กได้เรียนรู้ในแต่ละตอนเป็นเรื่องสำคัญ ฉากความรุนแรงและเรื่องเพศที่หลายคนวิจารณ์ ผมว่าในแง่ศิลปการแสดงมีวิธีสื่อสารทั้งในเชิงสัญญลักษณ์และศิลปะได้ตั้งหลายรูปแบบ
ประโยคที่ว่าดูละครให้ย้อนดูตัว มันยังคงทันสมัยเสมอแหละครับ เนื้อหามุมมองในซีรีส์นี้อาจจะเป็นแค่เศษเสี้ยวของสิ่งที่เกิดขึ้นจริง สิ่งที่ผมอยากบอกที่สุดก็คือว่าเราควรจะเปิดใจให้กว้าง อย่างน้อยๆตอนนี้ยุคมันเปลี่ยนไปแล้ว และเปลี่ยนไปเร็วมากซะด้วย หลายเรื่องวัยรุ่นไปไกลกว่าที่ผู้ใหญ่เห็น ละครคือกระจกสะท้อนภาพ ภาพมันจะสวยงามหรือไม่ ถ้ามันเป็นความจริง ก็ต้องยอมรับ และแก้ปัญหา ที่สำคัญกว่านั้น ต้องมองปัญหาเชิงรุก หาทางป้องกันและรู้เท่าทันครับ
