พระนครศรีอยุธยา - ตร.อยุธยา รวบ 6 นักศึกษาสถาบันอาชีวศึกษาที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายนักศึกษาต่างสถาบันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งหมดยอมรับสารภาพ เหตุเพียงแค่เห็นผู้บาดเจ็บใส่เสื้อชอป และเป็นนักศึกษาต่างสถาบันเท่านั้น ผบก.กรุงเก่า ลั่นต่อไปนี้เอาจริง งัดกฎหมายหนักเล่นงาน ไม่มีการยอมความ หรือวิ่งเต้นในคดีอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (31 ส.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.กิตติพงศ์ วิเศษสงวน รักษาราชการแทน (รรท.) ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยผู้บริหารสถาบันการศึกษาระดับอาชีวศึกษา ใน จ.พระนครศรีอยุธยา
ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายแท๊งค์ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นายแม๊ค (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นายพาย (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นายต้น (นามสมมติ) อายุ 18 ปี นายเจมส์ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี และนายบอย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาสถาบันอาชีวศึกษาที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกายนักศึกษาต่างสถาบันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ ร่วมกันพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร
พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ได้ยกพวกใช้อาวุธมีดฟัน นายมนัส วันประสพสุข อายุ 17 ปี นักศึกษาต่างสถาบันที่บริเวณหน้าตลาดเจ้าพรหม ต.หอรัตนไชย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้ทั้งหมด
พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุจริง โดยสาเหตุเพียงแค่เห็นผู้บาดเจ็บใส่เสื้อชอป และเป็นนักศึกษาต่างสถาบัน ซึ่งไม่มีเหตุทะเลาะวิวาท หรือโกรธแค้นกันมาก่อน ซึ่งปัญหานักศึกษาที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทใน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ผ่านมา ได้สร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนทั่วไป เพราะมักจะก่อเหตุกันตามท่ารถ สถานที่ต่างๆ รวมถึงหน้าสถาบันบันการศึกษา
“การดำเนินการต่อจากนี้ไปจะใช้กฎหมายข้อหาหนักในการดำเนินคดีต่อนักศึกษาที่กระทำผิด ไม่มีการยอมความ หรือวิ่งเต้นในคดีอย่างเด็ดขาด การแก้ไขปัญหาจะควบคู่กับความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ในการควบคุมดูแลนักศึกษาที่มีพฤติกรรมชอบก่อเหตุยกพวกตีกัน จะต้องนำมาเข้าสู่โครงการเรียนช่างคนละที่ แต่เลือดสีเดียวกัน มาเข้าค่ายละลายพฤติกรรมปรับเปลี่ยนแนวคิดในการยกพวกตีกันมาเป็นเพื่อนกัน ซึ่งที่ผ่านมา ได้นำนักศึกษาไปเข้าค่ายมาแล้ว พบว่าทั้งหมดได้เลิกพฤติกรรมดังกล่าว” พล.ต.ต.เสริมคิด กล่าว