xs
xsm
sm
md
lg

หยุดพักชิลๆ นั่งอ่านอัตชีวประวัติอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย


ช่วงนี้สถานการณ์ทางการเมืองยังคงไม่ต่างไปจากเดิมมากนัก ทหารเหมือนเดิม กำนันถอยทัพไปสวนลุมพินี รัฐบาลยังแถไปเรื่อย เรียกได้ว่าไม่มีอะไรคืบหน้าเลยดีกว่า

สถานการณ์ทางการเมืองเช่นนี้ ติดตามไปก็ยังไม่ขยับไปทิศทางไหน ก็น่าอึดอัดอยู่นะครับ ว่าแล้วผมได้เวลาไปซื้อหนังสือดีๆมาอ่าน เล่มหนึ่งที่อ่านแล้วอยากเล่าต่อ คือหนังสือชื่อ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อัตชีวประวัติ เป็นหนังสือแปลจากหนังสือภาษาอังกฤษ Alex Ferguson my autobiography ซึ่งเขียนเองโดย อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แปลโดย นันทขว้าง สิรสุนทร (แฟนพันธุ์แท้ แมนฯ ยูไนเต็ด) และทีมงานภายใต้ชายคาสำนักพิมพ์ เนชั่น บุ๊ค

ต้องขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะครับว่า ผมไม่ใช่สาวกปีศาสแดง ผมเป็นแฟนทีมฟุตบอลอีกทีมหนึ่งที่มีฉายาคล้ายๆกัน แต่อยู่ในประเทศอิตาลีที่เมืองมิลาน ไม่รู้ทำไมสองทีมนี้กลับมีผลงานที่ย่ำแย่สุดๆ พอกันทั้งสองทีม

เรามาทำความรู้จักกับชายคนนี้กันสักหน่อยก็แล้วกันนะครับ

เซอร์ อเล็กซานเดอร์ “อเล็กซ์” แชปแมน เฟอร์กูสัน ชื่อเต็มๆ ของเขา ออกจะยาวทีเดียวนะครับ ( Sir Alexander “Alex” Chapman Ferguson) เกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2484 (ค.ศ. 1941) ที่เมืองกลาสโกว์ แคว้น สกอตแลนด์ เคยเป็นผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งปฏิบัติหน้าที่มายาวนานที่สุด และนำทีมชนะเลิศรายการแข่งขันมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสโมสร

เฟอร์กูสันเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อจากรอน แอตกินสัน เมื่อปี พ.ศ. 2529 (ค.ศ. 1986) และพาทีมชนะเลิศเอฟเอคัพ เมื่อปี พ.ศ. 2533 (ค.ศ. 1990) เป็นรายการแรก หลังจากนั้นก็ชนะเลิศอีก 4 สมัย (รวมเป็น 5 สมัย) รวมทั้งการชนะเลิศเอฟเอพรีเมียร์ลีก 13 สมัย และชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2 สมัย

เมื่อปี พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) หลังจากชนะเลิศรายการแชมเปียนส์ลีก สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง แห่ง สหราชอาณาจักร ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตำแหน่งเซอร์ให้เขาเป็นอัศวินแห่งอังกฤษ นับเป็นชาวสกอตเพียงไม่กี่คน ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงเช่นนี้

ต่อมาในวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2013) เซอร์อเล็กซ์ประกาศยุติการทำหน้าที่ผู้จัดการทีม หลังจบฤดูกาล 2012-13 โดยนัดสุดท้ายจะเป็นการแข่งขันพรีเมียร์ลีก เป็นนัดที่ไปเยือนเวสต์บรอมมิชอัลเบียน ในวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม ปีเดียวกัน หลังจากนั้น เขาจะขึ้นรับตำแหน่งผู้อำนวยการฟุตบอล และเป็นทูตประจำสโมสรเดิมต่อไป

ชายคนนี้เป็นผู้จัดการทีมแมนยูฯ อยู่ทั้งหมด 27 ปี ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ เพราะเดี๋ยวนี้ผู้จัดการทีมส่วนใหญ่หากไม่สามารถทำทีมได้ตามเป้าหมาย ก็มักจะถูกปลดเอาง่ายๆ ถึงขนาดบางคนถูกปลดกลางฤดูการแข่งขันเลยก็มี แต่ชายคนนี้มีความสามารถอยู่ยงมาจนผมหงอกกันเลยทีเดียว

ในหนังสือเล่มนี้คุณจะได้พบกับเหตุการณ์สำคัญๆ ต่างๆ ในชีวิตเฟอร์กี้ ทั้งเรื่องในและนอกสนาม รวมไปถึงเรื่องการเมืองอีกด้วย หากคุณไม่ได้มีความรู้ด้านฟุตบอลคุณก็ยังสามารถอ่านหนังสือเล่มนี้ได้นะครับ เพราะทางทีมงานทำหมายเหตุไว้ท้ายบทเพื่ออ้างอิงและอธิบายขยายความ รับรองครับไม่มีงง หรือไม่เข้าใจ

อีกอย่างหนึ่งต้องขอบอกว่า หนังสือเล่มนี้อยู่ในหมวดหมู่ของหนังสือเกี่ยวกับการบริหาร จัดการ management นะครับ ไม่ได้อยู่ในหมวดหนังสือกีฬา

ครับ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นหนึ่งในตำนานของวงการฟุตบอลอังกฤษ ชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก แม้จะไม่เคยคุมทีมชาติคว้าแชมป์สูงสุดอย่างฟุตบอลโลกก็ตาม

ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขา เฟอร์กี้เล่าถึงนักฟุตบอลหลายคน เช่น ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังตัวเก๋าที่ปัจจุบันก็ยังเล่นให้ทีม โดยเล่าถึงความโดดเด่นของนักเตะคนนี้ ในขณะเดียวกันความขี้ลืมของเขาก็มากเหลือเกิน จนทำให้เขาต้องโดนแบนไปหลายเดือนเพราะไม่ได้ไปตรวจสารกระตุ้น

นักเตะอีกคนที่เขาพูดถึงคือ เดวิด เบ็คแฮม ซุปเปอร์สตาร์ดังที่เขาปั้นมากับมือ แม้สุดท้ายจะมีปัญหากันจนเขาต้องย้ายทีมออกไป ในหนังสือเล่มนี้เล่าถึงเรื่องราวทั้งหมดว่าทำไมเบ็คส์ถึงต้องไป แต่มันก็เป็นมุมมองของเฟอร์กี้คนเดียวนะครับ ฉะนั้นก็ต้องฟังหูไว้หู

รอย คีน อดีตกัปตันทีมของแมนยูก็เป็นอีกคนที่ถูกเขียนถึง ในกรณีของรอย คีน ดูจะเป็นเรื่องของคนที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวตลอดเวลา มักทำให้บรรยากาศในห้องแต่งตัวตึงเครียด จนรุ่นน้องในทีมแมนยูฯ หงอยไปตามๆ กัน

นอกจากเรื่องของนักเตะที่ออกจากทีมแล้ว การตัดสินใจจะดึงใครเข้ามาสู่ทีมก็เป็นเรื่องน่าสนใจมากเช่นกัน หลักการคิดหรือตัดสินใจว่าจะดึงใครมาร่วมทีม ก็มีเรื่องราวให้อ่านเยอะเหมือนกันในหนังสือเล่มนี้

การเข้ามาของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ซึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับทีมงานแมวมองที่มองได้อย่างเฉียบคมมาก จนทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักบอลที่เก่งที่สุดในโลกในปัจจุบัน

การเขียนถึง ฮวน เซบาสเตียน เวรอน ว่าเป็นคนเก่งมากเล่นบอลได้เจ๋งสุด แต่กลับมีปัญหาเรื่องการไม่ยอมฝึกภาษาอังกฤษ ทำให้มีปัญหาการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม จนมีผลให้เขามีเพื่อนน้อย เฟอร์กี้ถึงขนาดเขียนว่าแค่เวรอนทักทาย Hi mister! กับเขาตอนเช้าที่สนามซ้อมก็ถือว่าเจ๋งแล้ว

ยังมีอีกหลายเรื่องราวในหนังสือเล่มนี้ให้อ่าน ผมหวังว่าการเอาหนังสือมาแนะนำกันในช่วงเวลานี้ ทุกคนจะได้หาเวลาผ่อนคลายกันบ้างสักเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี แถมถ้าหนังสือเหล่านั้นสามารถสร้างแรงบันดาลใจอะไรให้เราได้มันก็คงยิ่งดีเข้าไปใหญ่

การบริหารจัดการทีม เป็นการจัดการกับคน จัดการความสัมพันธ์กับคนหลายๆ คน ที่มีความแตกต่างหลากหลาย มีที่ไปที่มาหลายแบบ ต่างคนต่างเก่งเป็นคนเด่นคนดัง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะครับ ที่จะเอาความเก่งของทุกคนมารวมกันเพื่อร่วมกันสร้างทีมให้แข็งแกร่ง

หนังสือดีๆ สักเล่มในวันหยุดมันช่วยให้เราได้ละวาง จากความวุ่นวายและความเบื่อหรือเซ็ง ยิ่งถ้าเซ็งสถานการณ์การเมืองแล้วละก็ การปลีกตัวออกมาจากข่าวสารแค่เพียงช่วงสั้นๆมันก็เป็นอะไรที่ช่วยระบายความอึดอัดใจ และถือเป็นการชาร์จแบตตัวเองอีกด้วย เพื่อพร้อมจะกลับมาทำหน้าที่และสู้ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น