หลายฝ่ายพยายามที่จะแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งที่ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน หรือการเลือกตั้งที่เป็นไปเพียงเพื่อการช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมืองแบบ “ขอไปที” เพื่อบอกมวลมหาประชาชนว่า ฉันยอมถอยแล้ว เลิกม็อบขับไล่เสียที (โว้ย)
แต่การยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งนี้เป็นไปเพียงเพื่อประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ตั้งรับทางการเมือง และเป็นการจัดให้มีการเลือกตั้งที่มีเจตนาเห็นได้ชัดว่าเป็นไปเพื่อการรักษาอำนาจ และเพื่อให้ได้ความชอบธรรมเพื่อจะกล่าวอ้าง แม้ว่าจะดำเนินนโยบายผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นการจำนำข้าว ออกกฎหมายล้างผิด คิดแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมิชอบ แต่คนก็ยังสนับสนุนผ่านการเลือกตั้งที่ล็อกผลอยู่แล้ว
ประชาชนผู้ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก็ยอมไม่ได้ ส่งผลให้มีการต่อสู้เพื่อต่อต้านการเลือกตั้งเพื่อฟอกตัวอย่างถึงที่สุด จนกระทั่งหลายพื้นที่เปิดสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ และต่อให้ลากให้ถูเลือกตั้งไปจนได้ ก็เปิดสภาฯ ไม่ได้ เพราะไม่ครบองค์ประกอบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
ฝ่ายผู้ต้องจัดการเลือกตั้งนั้นเองอย่างคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.ก็ไม่ประสงค์จะจัดการเลือกตั้งที่ไม่มีประโยชน์อะไร แถมยังจะเป็นการเพิ่มความขัดแย้งหรือนำไปสู่การนองเลือดเสียอีก แต่ข้อเสนอการขอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อนเพื่อให้ได้การเลือกตั้งที่ประชาชนทุกฝ่ายยอมรับ ก็ไม่เคยได้รับการตอบรับจากฝ่ายรัฐบาล ไม่เคยมีแม้แต่การยอมเข้ามาพูดคุยกับฝ่ายที่จัดการเลือกตั้ง
จนกระทั่ง กกต.จะต้องขอใช้อำนาจในการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ว่าการเลือกตั้งอาจจะเลื่อนได้หรือไม่ และหากกระทำได้ควรเป็นอำนาจของใคร
ข้ออ้างของรัฐบาลที่ปฏิเสธการเลื่อนการเลือกตั้ง คืออ้างว่าเลื่อนแล้วจะผิดรัฐธรรมนูญ ผิดกฎหมาย ตามที่อ้างเป็นกระต่ายขาเดียว ซึ่งน่าตลกดีว่าทำเรื่องผิดรัฐธรรมนูญผิดกฎหมายมาตั้งเท่าไรไม่เคยกลัว ดันมากลัวผิดกฎหมายเอากับเรื่องเลื่อนการเลือกตั้ง
ในที่สุดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีคำวินิจฉัยออกมารับรองว่า การเลื่อนการเลือกตั้งด้วยเหตุสุดวิสัยหรือเหตุอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้นั้น มีอำนาจกระทำได้ และก็เคยทำมาแล้วด้วยเช่นในตอนที่เลือกตั้งเป็นโมฆะ
ส่วนผู้ที่มีอำนาจในการเลื่อนการเลือกตั้ง ก็ได้แก่รัฐบาลนั่นเอง โดยปรึกษาหารือกับทาง กกต. เพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน ว่าควรเลื่อนไปเมื่อไร อย่างไร
จะเห็นว่า คำวินิจฉัยนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ “ไม่ได้สั่งให้เลื่อนการเลือกตั้ง” เหมือนที่ฝ่ายถือหางรัฐบาลเอาไปขยายผล บิดเบือน เพื่อหาเรื่องด่าศาลที่เป็นไม้เบื่อไม้เมามาตลอด แต่เป็นเหมือนการเปิดทางเลือกให้รัฐบาลสามารถเลื่อนการเลือกตั้งได้โดยสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่มีอำนาจ นั่นเพราะเท่ากับได้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญรับรองไว้แล้วว่ามีอำนาจกระทำการ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นผูกพันทุกองค์กร
ถ้ามองในแง่ดี นี่คือคำวินิจฉัยที่เป็นคุณกับฝ่ายรัฐบาล เป็นเกราะป้องกันให้ด้วยในกรณีที่ยอมรับว่าควรเลื่อนการเลือกตั้ง โดยไม่ต้องกลัวฝ่ายไหนตลบหลังนำความไปฟ้องซ้ำ ทั้งต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลอื่น หรือแม้แต่ ป.ป.ช.
แต่นั่นแหละ เพราะรัฐบาลไม่ได้อยากเลื่อนการเลือกตั้ง เพราะถือว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนี้ จะเป็นเครื่องมือในการอ้างความชอบธรรมหรือล้างผิดให้รัฐบาลมากกว่า รวมทั้งใช้อ้างต่อต่างประเทศ ที่บรรดาล็อบบี้ยิสต์ได้พยายามสร้างภาพว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลที่ถูกต้องมาจากการเลือกตั้ง นานาชาติควรสนับสนุน ดังที่เห็นว่าหลายประเทศแบะท่าให้เห็นออกมาแล้ว
ในที่สุด สงครามครั้งแรกของการดึงดันให้มีการเลือกตั้ง เลือดหยดแรก ศพๆ แรก สังเวยการเลือกตั้งตามแบบพิธีก็เกิดขึ้น เมื่อคุณสุทิน ธาราทิน แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. ที่ได้ไปประท้วงคัดค้านการเลือกตั้งล่วงหน้าที่หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าเขตบางนา บริเวณวัดศรีเอี่ยม โดยคุณสุทินถูกยิงเสียชีวิต และคณะที่ไปด้วยถูกกระสุนได้รับบาดเจ็บไปอีก 11 คน
ฝ่ายที่อยากเลือกตั้ง อ้างว่า เพราะฝ่าย กปท. และคุณสุทินไปปิดหน่วยเลือกตั้งก่อน ประชาชนที่อยากเลือกตั้งจึงทนไม่ไหวตอบโต้
แต่ก็ให้น่าสงสัยว่า เพียงแค่อยากเลือกตั้งให้ได้ถึงขนาดต้องฆ่าคนอื่นเลยหรือ? การเลือกตั้งนั้นนำมาซึ่งผลประโยชน์อะไร ถึงยอมแลกด้วยชีวิตคนได้
นอกจากนี้ก็มีเหตุปะทะกันระหว่างมวลชน กปปส. และผู้รอเลือกตั้งอีกหลายจุดในกรุงเทพฯ มีทั้งที่ฝ่าย กปปส.ได้รับบาดเจ็บ หรือไม่ก็ออกจากที่เลือกตั้งไม่ได้จนต้องให้ตำรวจมาพาออกไป
นี่เป็นสิ่งที่ประชาชนทั่วไปที่ต้องการการเลือกตั้งอย่างสันติกระทำหรือ? มันรุนแรงเกินไปหรือไม่? พวกต้องการการเลือกตั้งนี้คือพวกไหนแน่ ใช่ประชาชนจริงๆ หรือเปล่า?
จึงอยากฝากข้อความอีกครั้งถึงชาวเสื้อขาว จะเอาเลือกตั้งว่า เหตุการณ์ที่ท่านได้เห็นในวันเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวานนี้นั้น มันบอกอะไรท่านบ้างหรือไม่ มันทำให้ท่านต้องฉุกคิดฉุกใจบ้างไหม?
ท่านอาจจะมีเจตนาบริสุทธิ์ สุจริต อยากใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเป็นหน้าที่ของประชาชน เป็นสิทธิพื้นฐานในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ท่านอาจจะมีเจตนาดี
แต่ฝ่ายที่รอรับประโยชน์จากเจตนาดีของท่านเล่า? พวกเขามีเจตนาดีจริงหรือไม่? พวกเขามีผลประโยชน์อะไรที่เหนือกว่านั้นหรือไม่ คืออำนาจทางการเมือง อำนาจทางการเมืองที่อาจคุ้มค่าแม้แต่จะมีศพคนตายให้ได้ดู เพื่อไม่ให้ใครกล้าขวางทางการเลือกตั้งของพวกเขาและที่ได้กล่าวไปหลายครั้งแล้วว่า แม้ไม่ได้เลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าท่านจะไม่ได้เลือกตั้งอีกเลยทั้งชีวิต หรือการเลือกตั้งหลังจากนี้จะไม่เกิดขึ้น
อย่างช้าก็ภายในปีนี้ ต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอนอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
แต่จะเป็นการเลือกตั้งเลือด ที่ฆ่ากันเพราะมีทั้งฝ่ายไม่ยอมรับให้มีการเลือกตั้งล้างผิดหรือจะเป็นการเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายยอมรับ และนำไปสู่การกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้งของประเทศ
ชาวเสื้อขาวจะเอาเลือกตั้งก็ต้องไปคิดดูกันว่า ท่านจะเลือกแบบไหน
แต่การยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งนี้เป็นไปเพียงเพื่อประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ตั้งรับทางการเมือง และเป็นการจัดให้มีการเลือกตั้งที่มีเจตนาเห็นได้ชัดว่าเป็นไปเพื่อการรักษาอำนาจ และเพื่อให้ได้ความชอบธรรมเพื่อจะกล่าวอ้าง แม้ว่าจะดำเนินนโยบายผิดพลาด ไม่ว่าจะเป็นการจำนำข้าว ออกกฎหมายล้างผิด คิดแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมิชอบ แต่คนก็ยังสนับสนุนผ่านการเลือกตั้งที่ล็อกผลอยู่แล้ว
ประชาชนผู้ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก็ยอมไม่ได้ ส่งผลให้มีการต่อสู้เพื่อต่อต้านการเลือกตั้งเพื่อฟอกตัวอย่างถึงที่สุด จนกระทั่งหลายพื้นที่เปิดสมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ และต่อให้ลากให้ถูเลือกตั้งไปจนได้ ก็เปิดสภาฯ ไม่ได้ เพราะไม่ครบองค์ประกอบตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
ฝ่ายผู้ต้องจัดการเลือกตั้งนั้นเองอย่างคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.ก็ไม่ประสงค์จะจัดการเลือกตั้งที่ไม่มีประโยชน์อะไร แถมยังจะเป็นการเพิ่มความขัดแย้งหรือนำไปสู่การนองเลือดเสียอีก แต่ข้อเสนอการขอให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปก่อนเพื่อให้ได้การเลือกตั้งที่ประชาชนทุกฝ่ายยอมรับ ก็ไม่เคยได้รับการตอบรับจากฝ่ายรัฐบาล ไม่เคยมีแม้แต่การยอมเข้ามาพูดคุยกับฝ่ายที่จัดการเลือกตั้ง
จนกระทั่ง กกต.จะต้องขอใช้อำนาจในการยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ว่าการเลือกตั้งอาจจะเลื่อนได้หรือไม่ และหากกระทำได้ควรเป็นอำนาจของใคร
ข้ออ้างของรัฐบาลที่ปฏิเสธการเลื่อนการเลือกตั้ง คืออ้างว่าเลื่อนแล้วจะผิดรัฐธรรมนูญ ผิดกฎหมาย ตามที่อ้างเป็นกระต่ายขาเดียว ซึ่งน่าตลกดีว่าทำเรื่องผิดรัฐธรรมนูญผิดกฎหมายมาตั้งเท่าไรไม่เคยกลัว ดันมากลัวผิดกฎหมายเอากับเรื่องเลื่อนการเลือกตั้ง
ในที่สุดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้มีคำวินิจฉัยออกมารับรองว่า การเลื่อนการเลือกตั้งด้วยเหตุสุดวิสัยหรือเหตุอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้นั้น มีอำนาจกระทำได้ และก็เคยทำมาแล้วด้วยเช่นในตอนที่เลือกตั้งเป็นโมฆะ
ส่วนผู้ที่มีอำนาจในการเลื่อนการเลือกตั้ง ก็ได้แก่รัฐบาลนั่นเอง โดยปรึกษาหารือกับทาง กกต. เพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน ว่าควรเลื่อนไปเมื่อไร อย่างไร
จะเห็นว่า คำวินิจฉัยนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ “ไม่ได้สั่งให้เลื่อนการเลือกตั้ง” เหมือนที่ฝ่ายถือหางรัฐบาลเอาไปขยายผล บิดเบือน เพื่อหาเรื่องด่าศาลที่เป็นไม้เบื่อไม้เมามาตลอด แต่เป็นเหมือนการเปิดทางเลือกให้รัฐบาลสามารถเลื่อนการเลือกตั้งได้โดยสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่มีอำนาจ นั่นเพราะเท่ากับได้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญรับรองไว้แล้วว่ามีอำนาจกระทำการ เพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นผูกพันทุกองค์กร
ถ้ามองในแง่ดี นี่คือคำวินิจฉัยที่เป็นคุณกับฝ่ายรัฐบาล เป็นเกราะป้องกันให้ด้วยในกรณีที่ยอมรับว่าควรเลื่อนการเลือกตั้ง โดยไม่ต้องกลัวฝ่ายไหนตลบหลังนำความไปฟ้องซ้ำ ทั้งต่อศาลรัฐธรรมนูญ ศาลอื่น หรือแม้แต่ ป.ป.ช.
แต่นั่นแหละ เพราะรัฐบาลไม่ได้อยากเลื่อนการเลือกตั้ง เพราะถือว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนี้ จะเป็นเครื่องมือในการอ้างความชอบธรรมหรือล้างผิดให้รัฐบาลมากกว่า รวมทั้งใช้อ้างต่อต่างประเทศ ที่บรรดาล็อบบี้ยิสต์ได้พยายามสร้างภาพว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลที่ถูกต้องมาจากการเลือกตั้ง นานาชาติควรสนับสนุน ดังที่เห็นว่าหลายประเทศแบะท่าให้เห็นออกมาแล้ว
ในที่สุด สงครามครั้งแรกของการดึงดันให้มีการเลือกตั้ง เลือดหยดแรก ศพๆ แรก สังเวยการเลือกตั้งตามแบบพิธีก็เกิดขึ้น เมื่อคุณสุทิน ธาราทิน แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ หรือ กปท. ที่ได้ไปประท้วงคัดค้านการเลือกตั้งล่วงหน้าที่หน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าเขตบางนา บริเวณวัดศรีเอี่ยม โดยคุณสุทินถูกยิงเสียชีวิต และคณะที่ไปด้วยถูกกระสุนได้รับบาดเจ็บไปอีก 11 คน
ฝ่ายที่อยากเลือกตั้ง อ้างว่า เพราะฝ่าย กปท. และคุณสุทินไปปิดหน่วยเลือกตั้งก่อน ประชาชนที่อยากเลือกตั้งจึงทนไม่ไหวตอบโต้
แต่ก็ให้น่าสงสัยว่า เพียงแค่อยากเลือกตั้งให้ได้ถึงขนาดต้องฆ่าคนอื่นเลยหรือ? การเลือกตั้งนั้นนำมาซึ่งผลประโยชน์อะไร ถึงยอมแลกด้วยชีวิตคนได้
นอกจากนี้ก็มีเหตุปะทะกันระหว่างมวลชน กปปส. และผู้รอเลือกตั้งอีกหลายจุดในกรุงเทพฯ มีทั้งที่ฝ่าย กปปส.ได้รับบาดเจ็บ หรือไม่ก็ออกจากที่เลือกตั้งไม่ได้จนต้องให้ตำรวจมาพาออกไป
นี่เป็นสิ่งที่ประชาชนทั่วไปที่ต้องการการเลือกตั้งอย่างสันติกระทำหรือ? มันรุนแรงเกินไปหรือไม่? พวกต้องการการเลือกตั้งนี้คือพวกไหนแน่ ใช่ประชาชนจริงๆ หรือเปล่า?
จึงอยากฝากข้อความอีกครั้งถึงชาวเสื้อขาว จะเอาเลือกตั้งว่า เหตุการณ์ที่ท่านได้เห็นในวันเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวานนี้นั้น มันบอกอะไรท่านบ้างหรือไม่ มันทำให้ท่านต้องฉุกคิดฉุกใจบ้างไหม?
ท่านอาจจะมีเจตนาบริสุทธิ์ สุจริต อยากใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะเป็นหน้าที่ของประชาชน เป็นสิทธิพื้นฐานในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ท่านอาจจะมีเจตนาดี
แต่ฝ่ายที่รอรับประโยชน์จากเจตนาดีของท่านเล่า? พวกเขามีเจตนาดีจริงหรือไม่? พวกเขามีผลประโยชน์อะไรที่เหนือกว่านั้นหรือไม่ คืออำนาจทางการเมือง อำนาจทางการเมืองที่อาจคุ้มค่าแม้แต่จะมีศพคนตายให้ได้ดู เพื่อไม่ให้ใครกล้าขวางทางการเลือกตั้งของพวกเขาและที่ได้กล่าวไปหลายครั้งแล้วว่า แม้ไม่ได้เลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าท่านจะไม่ได้เลือกตั้งอีกเลยทั้งชีวิต หรือการเลือกตั้งหลังจากนี้จะไม่เกิดขึ้น
อย่างช้าก็ภายในปีนี้ ต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแน่นอนอย่างน้อยหนึ่งครั้ง
แต่จะเป็นการเลือกตั้งเลือด ที่ฆ่ากันเพราะมีทั้งฝ่ายไม่ยอมรับให้มีการเลือกตั้งล้างผิดหรือจะเป็นการเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายยอมรับ และนำไปสู่การกลับคืนสู่ความสงบสุขอีกครั้งของประเทศ
ชาวเสื้อขาวจะเอาเลือกตั้งก็ต้องไปคิดดูกันว่า ท่านจะเลือกแบบไหน