เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมาได้มีการนัดหมายจากกำนันสุเทพให้ออกมาชุมนุมกันเพื่อขับไล่รัฐบาลของนายกยิ่งลักษณ์ แม้วันนั้นจะผ่านมาแล้ว แต่วันนั้นเป็นอะไรหลายอย่าง ที่เหมือนบันทึกที่ยังเขียนไม่จบ
สำหรับผม ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้นัดหมายศิษย์ปัจจุบัน ศิษย์เก่า และคณาจารย์เพื่อรวมกลุ่มกันเดินไปสมทบกับพี่น้องมวลมหาประชาชนผู้รักชาติ ผมไปร่วมกิจกรรมกับหลายๆคนที่มหาวิทยาลัย
แต่แล้วก็มีโทรศัพท์มาบอกว่าให้เตรียมตัว พรุ่งนี้ลุงสนธิจะนัดพันธมิตรที่หน้าเอเอสทีวีเพื่อจะเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล ผมจึงต้องเปลี่ยนแผนเข้าออฟฟิศเช้ากว่าปรกติ เตรียมพร้อมเพื่อไปกับทุกคนในวันรุ่งขึ้น
ผมเข้าบ้านพระอาทิตย์ตั้งแต่ตีห้าในเช้าวันนั้น และเจอกับเพื่อนร่วมงานมากมายแต่เช้ามืด จากการได้พูดคุยกันหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่ามานอนค้างออฟฟิศตั้งแต่เมื่อคืน เพื่อไม่ต้องเจอรถติดในช่วงเช้า
ช่วงเช้าตรู่วันนั้นดูจะวุ่นวายแต่ไม่ถึงกับสับสน ณ บ้านเจ้าพระยา พ่อแม่พี่น้องมาช่วยกันทำอาหารแพ็คลงกล่องเป็นเสบียงให้ผู้มาชุมนุมได้กินกัน แถมไม่ได้มีแค่ชาวบ้านเท่านั้น ยังมีพระที่มาช่วยทำอาหารอีกด้วย เรียกได้ว่าซึ้งในรสพระทำ กินอาหารพระทำกัน เป็นพระทำของจริงเลยทีเดียว
นอกจากพระแล้วผมยังได้พบฝรั่งคนหนึ่งมาช่วยผัดข้าวแต่เช้า ท่าทางฝรั่งคนนี้แกจะป๊อบมากเสียด้วย คนขอถ่ายรูปกันตรึ้มเลย
ผู้คนทยอยมารวมกันที่ถนนพระอาทิตย์ชนิดที่ว่าถนนความกว้าง 4 เลนดูแคบไปถนัดตา แม้จะเพิ่งประกาศเมื่อวาน แต่คนก็มากันเยอะมาก พูดได้ว่ามากกว่าที่คิด
ที่บ้านพระอาทิตย์ พอสายหน่อย บรรยากาศก็คึกคักหนุกหนานขึ้นเรื่อยๆ ผมว่ามันเหมือนวันพบญาติมากๆ ทุกคนที่มายิ้มแย้มพูดคุยกันแบบเป็นกันเอง แลกเปลี่ยนความคิดกันอย่างสนุกสนาน รวมไปถึงถ่ายรูปกันสนุกมากๆ
ก่อนจะเดินขบวน ซึ่งผมว่าเป็นอะไรที่พวกเราถนัดกันอยู่แล้ว เตรียมอุปกรณ์ติดตัว ขวดน้ำยามกระหาย ผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อ หมวก ร่มตามถนัด สำหรับผมกล้องถ่ายรูปและอุปกรณ์ครบในกระเป๋า วันนั้นคนมากล้นหลามจนมีการปิดถนนพระอาทิย์ตลอดเส้น นานๆทีจะมีเหตุการณ์ถึงขั้นปิดถนนเช่นนี้เกิดขึ้น
เมื่อเราเริ่มตั้งขบวนเพื่อออกเดิน หามุมสูงสำหรับการถ่ายภาพ ดีที่สุดคือรถปราศรัยนำขบวน ผมได้ขึ้นไปเก็บภาพจากบนรถ ทำให้ได้เห็นภาพที่สวยงาน ผู้คนมากมายอัดแน่นเต็มถนนไปหมด แถวยาวเหยียดสุดลูกหูกตาจนไม่สามารถเห็นหางแถว
พี่น้องประชานหลายคนที่เคยชุมนุมกับพันธมิตรตั้งแต่เราไล่ทักษิณกันรอบแรก จนถึงตอนนี้ก็ยังเหนียวแน่นกันอยู่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้หลายคนมองว่าการประกาศสลายตัวของแกนนำพันธมิตร อาจทำให้คนน้อยลง แต่ดูจากปริมาณคนวันนั้น ผมเชื่อว่าพวกเราไม่ได้น้อยลง เผลอๆอาจจะมีมากขึ้นด้วยซ้ำไป
การเดินทางของผู้คนมากมายจากทั่วประเทศ ด้วยเป้าหมายเดียวกัน มารวมกันนับล้าน เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นหลายล้านคน แม้เราจะเดินไม่ไกล แต่ก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง
วันนั้นผมได้เห็นน้ำใจของคนไทยรักชาติ ตั้งแต่การแบ่งกันแจกของกิน การพัดให้กันในยามที่แสงแดดร้อนระอุ ความสามัคคีของคนไทยในยามที่ประเทศชาติกำลังมีปัญหาใหญ่ เพราะความชั่วของนักการเมืองตระกูลชินวัตร เป็นผลด้านกลับที่ทำให้คนไทยรักและสมามัคคีกันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อขบวนเดินผ่านไป ตามข้างถนน บางคนแม้จะไม่สามารถมาเดินไปกับพวกเราได้ หลายคนก็หยิบมือตบขึ้นมาตบเหมือนเป็นการให้กำลังใจ บางคนก็หยิบนกหวีดมาเป่าเป็นเหมือนคำทักทายสวัสดี
วันนั้นลุงสนธิและลุงจำลองอยู่ในขบวนกับพวกเราตลอดทาง ทีมงานเอเอสทีวีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังก็ออกมาเดินกันหมด ชนิดที่ว่าแทบจะปิดออฟฟิศกันเลยทีเดียว
แม้บรรยากาศในรถปราศรัยจะอบร้อนในที่แคบๆ คล้ายๆกับปลาอัดในกระป๋อง แต่อบอุ่นใจ เหมือนอยู่กับคนในครอบครัว
สื่อทั้งบีบีซีและซีเอ็นเอ็นต่างก็รายงานข่าวว่ามีคนมาเดินขบวนวันนั้นประมาณห้าล้านคน ถ้าเป็นไปตามนั้นจริงก็ถือว่าเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย แซงหน้า 14 ตุลา 2516ไปแบบขาดลอยเลยทีเดียว
มวลมหาประชาชนมากมายขนาดไหนตัวเลขเป็นทางการอาจจะคำนวณยากสักหน่อย แต่เมื่อตกเย็นผมขับรถกลับบ้าน บนทางด่วนฝั่งเข้าเมืองบริเวณใกล้ทางลงด้านเก็บเงินบางด่าน ผมเห็นรถยนต์จอดเรียงรายคล้ายช่วงน้ำท่วมเมื่อสองปีก่อน ที่คนกรุงเทพฯเอารถหนีน้ำไปจอดบนทางด่วน เห็นได้ชัดเลยครับว่าการชุมนุมของมวลมหาประชาชนงานนี้คนมาเยอะจริงๆ
จากการที่มวลมหาประชาชนออกมาจำนวนมากเป็นหลักล้านแบบนี้ นายกยิ่งลักษณ์ต้องหาทางออกประเทศไทย แล้วละครับ ผมว่ามีประตูให้เลือกสองทาง คือ ออกทางดอนเมือง หรือ ออกทางสุวรรณภูมิ เป็นทางออกที่นางสาวยิ่งลักษณ์ต้องตัดสินใจ ออกจากประเทศไทยให้เร็วที่สุด เพื่อหาทางเอาตัวรอด
ตอนนั่งเขียนบทความนี้อยู่ วันที่ 22 ธันวาคม กำนันสุเทพนัดรวมพลครั้งใหญ่อีก แน่นอนว่านี่ยังไม่ถึงครั้งสุดท้าย ยังจะต้องมีอีกหลายครั้ง จะยืดเยื้อแค่ไหนไม่มีใครรู้ ผู้คนจะมามากขึ้นแค่ไหนหรือไม่ ได้แต่คาดคะเนและช่วยกันคนละไม้คนละมือ
การชุมชุมยืดเยื้อมาเดือนกว่า ใกล้คริสต์มาส ใกล้ปีใหม่ ใกล้จะถึงวันหยุดยาวสิ้นปี การระดมคนครั้งใหญ่ๆผ่านมาเป็นระลอก คนจะเหนื่อยหมดแรง หรือคนจะฮึดสู้มากขึ้น ผมอยากจะบอกรักษาการนายกยิ่งลักษณ์ว่า อย่าประมาทน้ำใจ ความกล้าหาญเสียสละอดทนของพ่อแม่พี่น้องประชาชนเป็นอันขาด
การนำขบวนพันธมิตรของคุณสนธิ ไปร่วมกับมวลมหาประชาชนที่ออกมาร่วมกับกำนันสุเทพในวันนั้น ผมได้เห็นพลังอันยิ่งใหญ่ของประชาชน ผมว่าธนูดอกสุดท้ายได้ถูกง้างแล้ว พร้อมที่จะยิง เหลือแค่เล็งให้ดีๆก่อนจะยิงออกไปเผด็จศึกให้ตรงเป้า
ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ยังคงถูกเขียนต่อไป บันทึกฉบับนี้ยังเขียนไม่จบ ตราบใดที่ประชาชนยังไม่ได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด….