หลังจากกำนันสุเทพ นัดรวมพลครั้งประวัติศาสตร์ที่ถนนราชดำเนิน ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คาดว่าคนต้องมากันอย่างล้นหลามแน่นอน (บทความนี้เขียนก่อนถึงวันที่มีการนัดหมาย) บรรยากาศการพูดคุยในโต๊ะทานอาหารกลางวันของพวกเราชาวเอเอสทีวี ต่างคิดวิเคราะห์คาดการณ์ไปต่างๆนาๆ
วันนี้ผมเลยจะขอเขียนถึงความน่ารัก ความสนุก ของวงเสวนาริมน้ำซะหน่อย งานนี้ต้องขอขอบคุณท่านแรกคือเฮียบุ๊งที่เป็นผู้จัดการใหญ่ของโรงครัวมากๆ เลยครับ ที่คอยจัดการเรื่องความอร่อยให้พวกเราอย่างเต็มที่
ยังมีป้าๆ ลุงๆ อีกหลายท่านที่คอยช่วยเหลือให้บริการอย่างเต็มที่ ทำให้วงรับประทานอาหารกลางวันวงนี้วงใหญ่มากๆ และมีผู้คนหลากหลายแวะเวียนกันเข้ามาทานข้าวและพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน
วงทานข้าวช่วง 11 โมงก็มีทีมสภาท่าตั้งแต่ลุงโส และพี่จิ มีผม และแขกรับเชิญของรายการสภาท่าพระอาทิตย์ ลุงสุนันท์ และอีกหลายคนแวะเวียนกันมานั่งโต๊ะกลมและร่วมรับประทานอาหารกัน สำหรับผม ถือว่าวงทานข้าวเป็นที่ ซึ่งผมได้เรียนรู้ และได้รู้บื้องหน้าเบื้องหลังเจาะลึกเรื่องราวต่างๆ มากมาย ซึ่งออกแนวสนุกและตื่นเต้น เพราะได้รู้ข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเมืองจากทั้งนักข่าวรุ่นเก๋า นักฏหมายขั้นเทพ และผู้เชี่ยวชาญอีกมากมาย
“คุณลุงโส” โสภณ องค์การณ์ พิธีกรรายการสภาท่าพระอาทิตย์ เวลามานั่งทานข้าวด้วยกัน ลุงโสมักเริ่มทานผลไม้ก่อนข้าวเสมอ และเป็นคนที่ชอบทานทุเรียนมาก ผมชอบคุยกับลุงโสมากเลยครับ ด้วยความที่ลุงโสเป็นนักข่าวรุ่นเก๋าคนหนึ่งของออฟฟิศเรา ผมจะได้ทราบที่มาที่ไปของคนในข่าวบางคนในยุคเก่า หรือภูมิหลังของนักการเมืองไทยบางคน ก่อนจะโดดเด่นในสมัยนี้ เขาเข้ามาเล่นการเมืองได้อย่างไร เคยเลียแข้งขาใครมาบ้าง รวมถึงเรื่องอื่นๆ อีกมาก
ส่วนการได้คุยกับพี่จิก็เป็นอะไรที่สนุกเช่นกัน ความยุ่งยากในการทำงานและการบริหารทรัพยากรบุคคลในฐานะหัวหน้าผู้ประกาศของเอเอสทีวีมีไม่น้อยเลย สถานีโทรทัศน์ช่องเล็กๆ นี้ การบริหารจัดการบางทีเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก เพราะข้อจำกัดหลายด้าน คนของเรามีไม่มากเหมือนพวกฟรีทีวีที่มีพิธีกรมากจนล้นช่อง ของเรามีกันไม่กี่คน และการจัดตารางเวรเพื่อให้ทุกคนทำงานได้อย่างเต็มที่ เพื่อคนดูหรือประชาชนผู้เป็นเจ้าของงสถานีได้ดูสิ่งดีๆ ข้อมูลข่าวสารอย่างครบถ้วน งานนี้ก็ต้องยกให้พี่จิและทีมพิธีกร
ไอ้ตัวผมไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงที่ฝ่ายทีวีแต่ก็เดินข้ามไปข้ามมา ทำให้สนิทกับทุกๆ ฝ่ายหรือทุกๆ คนที่นี่ โรงครัวเป็นที่รวมของคนทำงานทุกวัย และยังเป็นที่พบปะพูดคุยยกับกับวิทยากรจากภายนอกด้วย
เนื่องจากแขกของรายการสภาท่าพระอาทิตย์เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามแต่ประเด็นข่าวที่จะนำมาหยิบยกเพื่อพูดคุยกัน ทำให้ผมได้พบและพูดคุยกับวิทยากรหลายท่านซึ่งมาจากหลากหลายอาชีพ อย่างการได้คุยกับนักกฏหมาย วันไหนได้พบนักเคลื่อนไหวทางสังคมด้านต่างๆ ก็จะได้ฟังความคิดเห็นของคนเหล่านั้น ผมว่าผมได้ความรู้หลายๆ อย่างจากทุกคนรอบตัว
อย่างเหตุการณ์ล่าสุดคือการอ่านคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกคนคงทราบรายละเอียดกันแล้วนะครับว่าศาลพูดอะไรบ้าง บรรยากาศในวันนั้นคึกคัก ผมนั่งอยู่โรงครัวนานมากเป็นพิเศษ เพราะว่าตรงนั้นมีทีวีดู แถมได้นั่งลุ้นกันหลายคนสนุกดีครับ
ศาลนัดแถลง 11 โมง แต่เริ่มแถลงจริงบ่ายโมงกว่า ช้าไปสองชั่วโมงเห็นจะได้ การแถลงช้าแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องผิดปรกติมากๆ ยิ่งในสายตานักข่าวมือเก๋าหลายๆ คน ยิ่งรู้สึกว่ามันผิดวิสัยมาก แต่ก็ต้องถือว่ามาช้าดีกว่าไม่มานะครับงานนี้
วันนั้นคนที่นั่งลุ้นอย่างกับเชียร์มวย เลยคือ “ป้าหญิง” อัมพา สันติเมทนีดล ป้าหญิงของเราเชียร์แบบเชียร์มวยจริงๆ นะครับ ยิ่งนั่งข้างๆ กับ “อาหมี” ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที สองคนนี้เชียร์ศาลทุกซ็อตทุกคำพิพากษาเลยทีเดียว ยิ่งเวลาศาลพูดประเด็นเรื่อง วุฒิสภาต้องถ่วงดุลอำนาจ ยิ่งเฮกันใหญ่
วันนั้นคนลงมาทานข้าวช้า คือลุงโส คาดว่าจะเขียนบทความเพิ่งเสร็จ แต่ลุงโสไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไร มาแบบนิ่งๆ แล้วพูดว่าโดนแน่ๆ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายไม่โดนอย่างที่ลุงโสคิด ผมยังแซวลุงโสเลยว่าแหมที่มาช้านี่เพราะไปสืบข่าวมาแน่ๆ
นั่งฟังนั่งลุ้นศาลกันอยู่นานก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานต่อแบบเซ็งนิดๆ แต่สำหรับผม การได้เรียนรู้จากผู้ใหญ่หลายๆท่าน มันทำให้ผมได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง
ผมว่าการทำหน้าที่สื่อมวลชน การประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและวิเคราะห์สถานการณ์ในกองบก. เป็นรูปแบบการทำงานที่เป็นทางการ แต่การพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ อย่างในวงทานข้าว หรือในโรงครัว เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่มีประโยชน์ในการทำงาน
บางทีนักข่าวหรือคนรุ่นเด็กยุคนี้อาจจะแทบไม่เคยรู้เลย เพราะนักข่าวรุ่นเก๋าจะมีวีธีการเจาะหรือหาข่าวแตกต่างจากยุคนี้มาก เอาง่ายๆ เลย ผมไม่เคยเห็นนักข่าวเหล่านี้หยิบข่าวจากโลกออนไลน์เลย โลกออนไลน์มีไว้สืบค้นเพิ่มเติมหรือเป็นช่องทางสื่อสารเสียมากกว่า ที่จะหยิบยกมาทำอะไร ถ้าอยากทำข่าวเจาะ ก็ต้องเจาะที่แหล่งข่าว การตั้งคำถามซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่คนดังโพสต์อะไรในเฟซบุ๊กก็เอาไปเป็นข่าวเป็นประเด็น
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น คนเราเรียนรู้ได้ทั้งชีวิต การได้พูดคุยกับคนเก่งๆ มีประสบการณ์มากมายเป็นการเรียนรู้เจาะลึกอย่างสนุกสนาน ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้โอกาสดีๆ คอยอบรมสั่งสอนผมนะครับ การได้นั่งทานข้าวกับทุกคนมันมีความสุข รู้สึกเหมือนเราเป็นครอบครัวเดียวกันเลยละครับ
วันนี้ผมเลยจะขอเขียนถึงความน่ารัก ความสนุก ของวงเสวนาริมน้ำซะหน่อย งานนี้ต้องขอขอบคุณท่านแรกคือเฮียบุ๊งที่เป็นผู้จัดการใหญ่ของโรงครัวมากๆ เลยครับ ที่คอยจัดการเรื่องความอร่อยให้พวกเราอย่างเต็มที่
ยังมีป้าๆ ลุงๆ อีกหลายท่านที่คอยช่วยเหลือให้บริการอย่างเต็มที่ ทำให้วงรับประทานอาหารกลางวันวงนี้วงใหญ่มากๆ และมีผู้คนหลากหลายแวะเวียนกันเข้ามาทานข้าวและพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน
วงทานข้าวช่วง 11 โมงก็มีทีมสภาท่าตั้งแต่ลุงโส และพี่จิ มีผม และแขกรับเชิญของรายการสภาท่าพระอาทิตย์ ลุงสุนันท์ และอีกหลายคนแวะเวียนกันมานั่งโต๊ะกลมและร่วมรับประทานอาหารกัน สำหรับผม ถือว่าวงทานข้าวเป็นที่ ซึ่งผมได้เรียนรู้ และได้รู้บื้องหน้าเบื้องหลังเจาะลึกเรื่องราวต่างๆ มากมาย ซึ่งออกแนวสนุกและตื่นเต้น เพราะได้รู้ข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเมืองจากทั้งนักข่าวรุ่นเก๋า นักฏหมายขั้นเทพ และผู้เชี่ยวชาญอีกมากมาย
“คุณลุงโส” โสภณ องค์การณ์ พิธีกรรายการสภาท่าพระอาทิตย์ เวลามานั่งทานข้าวด้วยกัน ลุงโสมักเริ่มทานผลไม้ก่อนข้าวเสมอ และเป็นคนที่ชอบทานทุเรียนมาก ผมชอบคุยกับลุงโสมากเลยครับ ด้วยความที่ลุงโสเป็นนักข่าวรุ่นเก๋าคนหนึ่งของออฟฟิศเรา ผมจะได้ทราบที่มาที่ไปของคนในข่าวบางคนในยุคเก่า หรือภูมิหลังของนักการเมืองไทยบางคน ก่อนจะโดดเด่นในสมัยนี้ เขาเข้ามาเล่นการเมืองได้อย่างไร เคยเลียแข้งขาใครมาบ้าง รวมถึงเรื่องอื่นๆ อีกมาก
ส่วนการได้คุยกับพี่จิก็เป็นอะไรที่สนุกเช่นกัน ความยุ่งยากในการทำงานและการบริหารทรัพยากรบุคคลในฐานะหัวหน้าผู้ประกาศของเอเอสทีวีมีไม่น้อยเลย สถานีโทรทัศน์ช่องเล็กๆ นี้ การบริหารจัดการบางทีเป็นอะไรที่เหนื่อยมาก เพราะข้อจำกัดหลายด้าน คนของเรามีไม่มากเหมือนพวกฟรีทีวีที่มีพิธีกรมากจนล้นช่อง ของเรามีกันไม่กี่คน และการจัดตารางเวรเพื่อให้ทุกคนทำงานได้อย่างเต็มที่ เพื่อคนดูหรือประชาชนผู้เป็นเจ้าของงสถานีได้ดูสิ่งดีๆ ข้อมูลข่าวสารอย่างครบถ้วน งานนี้ก็ต้องยกให้พี่จิและทีมพิธีกร
ไอ้ตัวผมไม่ได้มีหน้าที่โดยตรงที่ฝ่ายทีวีแต่ก็เดินข้ามไปข้ามมา ทำให้สนิทกับทุกๆ ฝ่ายหรือทุกๆ คนที่นี่ โรงครัวเป็นที่รวมของคนทำงานทุกวัย และยังเป็นที่พบปะพูดคุยยกับกับวิทยากรจากภายนอกด้วย
เนื่องจากแขกของรายการสภาท่าพระอาทิตย์เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามแต่ประเด็นข่าวที่จะนำมาหยิบยกเพื่อพูดคุยกัน ทำให้ผมได้พบและพูดคุยกับวิทยากรหลายท่านซึ่งมาจากหลากหลายอาชีพ อย่างการได้คุยกับนักกฏหมาย วันไหนได้พบนักเคลื่อนไหวทางสังคมด้านต่างๆ ก็จะได้ฟังความคิดเห็นของคนเหล่านั้น ผมว่าผมได้ความรู้หลายๆ อย่างจากทุกคนรอบตัว
อย่างเหตุการณ์ล่าสุดคือการอ่านคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทุกคนคงทราบรายละเอียดกันแล้วนะครับว่าศาลพูดอะไรบ้าง บรรยากาศในวันนั้นคึกคัก ผมนั่งอยู่โรงครัวนานมากเป็นพิเศษ เพราะว่าตรงนั้นมีทีวีดู แถมได้นั่งลุ้นกันหลายคนสนุกดีครับ
ศาลนัดแถลง 11 โมง แต่เริ่มแถลงจริงบ่ายโมงกว่า ช้าไปสองชั่วโมงเห็นจะได้ การแถลงช้าแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องผิดปรกติมากๆ ยิ่งในสายตานักข่าวมือเก๋าหลายๆ คน ยิ่งรู้สึกว่ามันผิดวิสัยมาก แต่ก็ต้องถือว่ามาช้าดีกว่าไม่มานะครับงานนี้
วันนั้นคนที่นั่งลุ้นอย่างกับเชียร์มวย เลยคือ “ป้าหญิง” อัมพา สันติเมทนีดล ป้าหญิงของเราเชียร์แบบเชียร์มวยจริงๆ นะครับ ยิ่งนั่งข้างๆ กับ “อาหมี” ยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที สองคนนี้เชียร์ศาลทุกซ็อตทุกคำพิพากษาเลยทีเดียว ยิ่งเวลาศาลพูดประเด็นเรื่อง วุฒิสภาต้องถ่วงดุลอำนาจ ยิ่งเฮกันใหญ่
วันนั้นคนลงมาทานข้าวช้า คือลุงโส คาดว่าจะเขียนบทความเพิ่งเสร็จ แต่ลุงโสไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไร มาแบบนิ่งๆ แล้วพูดว่าโดนแน่ๆ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายไม่โดนอย่างที่ลุงโสคิด ผมยังแซวลุงโสเลยว่าแหมที่มาช้านี่เพราะไปสืบข่าวมาแน่ๆ
นั่งฟังนั่งลุ้นศาลกันอยู่นานก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานต่อแบบเซ็งนิดๆ แต่สำหรับผม การได้เรียนรู้จากผู้ใหญ่หลายๆท่าน มันทำให้ผมได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง
ผมว่าการทำหน้าที่สื่อมวลชน การประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและวิเคราะห์สถานการณ์ในกองบก. เป็นรูปแบบการทำงานที่เป็นทางการ แต่การพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการ อย่างในวงทานข้าว หรือในโรงครัว เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่มีประโยชน์ในการทำงาน
บางทีนักข่าวหรือคนรุ่นเด็กยุคนี้อาจจะแทบไม่เคยรู้เลย เพราะนักข่าวรุ่นเก๋าจะมีวีธีการเจาะหรือหาข่าวแตกต่างจากยุคนี้มาก เอาง่ายๆ เลย ผมไม่เคยเห็นนักข่าวเหล่านี้หยิบข่าวจากโลกออนไลน์เลย โลกออนไลน์มีไว้สืบค้นเพิ่มเติมหรือเป็นช่องทางสื่อสารเสียมากกว่า ที่จะหยิบยกมาทำอะไร ถ้าอยากทำข่าวเจาะ ก็ต้องเจาะที่แหล่งข่าว การตั้งคำถามซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่คนดังโพสต์อะไรในเฟซบุ๊กก็เอาไปเป็นข่าวเป็นประเด็น
การเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น คนเราเรียนรู้ได้ทั้งชีวิต การได้พูดคุยกับคนเก่งๆ มีประสบการณ์มากมายเป็นการเรียนรู้เจาะลึกอย่างสนุกสนาน ก็ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้โอกาสดีๆ คอยอบรมสั่งสอนผมนะครับ การได้นั่งทานข้าวกับทุกคนมันมีความสุข รู้สึกเหมือนเราเป็นครอบครัวเดียวกันเลยละครับ