“ยิ่งลักษณ์” กล่าวเปิดงาน “ไหลเรือไฟ-พาข้าวแลง” นครพนม ฟุ้งเป็นจังหวัดที่มีเอกลักษณ์หลากหลายด้านเชื้อชาติดึงดูดการท่องเที่ยว เชื่ออนาคตสร้างรายได้จำนวนมาก ก่อนบินกลับ กทม.3 ทุ่มครึ่ง
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 19 ต.ค.ที่เวทีลานพนมนาคา อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมไหลเรือไฟและงานพาข้าวแลง ประจำปี 2556” พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยมี นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ข้าราชการ และประชาชนให้การต้อนรับ
นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวถึงการจัดงาน “มหกรรมไหลเรือไฟและงานพาข้าวแลง ประจำปี 2556” ว่า ประเพณีไหลเรือไฟ มีมาเป็นเวลาช้านานเป็นพิธีพราหมณ์ ได้รับอิทธิพลจากอินเดีย สันนิษฐานว่า มีมาก่อนที่พุทธศาสนาจะเผยแพร่เข้ามาในประเทศไทย ในการจัดทำเรือไฟ ในอดีตชาวบ้านจะสร้างด้วยต้นกล้วย โดยนำไม้เสียบเรียงขนานกันให้เป็นทุ่นลอยน้ำ และจัดทำโครงสร้างเป็นรูปต่างๆ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำมันยางมัดติดปลายไม้ หรือใช้ไต้เรียงเป็นตามโครงสร้าง เมื่อจุดไฟเปลวไฟจะลุกเป็นรูปตามโครงสร้างแล้วเอาเชือกลากเรือออกไปกลางแม่น้ำปล่อยให้ไหลไปตามกระแสน้ำในเวลากลางคืนจึงเรียกว่า “ไหลเฮือไฟ” เพื่อบูชาเทพเจ้าองค์หนึ่งในศาสนาพราหมณ์ คือ เทพอัคคี ต่อมา เมื่อศาสนาพุทธเผยแพร่เข้ามาในประเทศไทย ชาวบ้านก็จะทำการไหลเรือไฟ ในวันขึ้น 15 เดือน 11 หรือวันออกพรรษาของทุกปี เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า รวมทั้งขอขมาลาโทษพระแม่คงคา และตามคติความเชื่อว่าเป็นการเอาไฟเผาความทุกข์ให้ลอยไปกับสายน้ำ ทั้งนี้ เมื่อพุทธศักราช 2526 จังหวัดนครพนม เห็นว่าประเพณีดังกล่าวเป็นประเพณีอันงดงาม จึงได้เชิญชวนข้าราชการพ่อค้า ประชาชน และชาวคุ้มวัดต่างๆ ประดิษฐ์เรือไฟ และนำออกมาไหลในแม่น้ำโขง เพื่ออนุรักษ์และส่งเสริมประเพณีดังกล่าวให้คงอยู่สืบไป รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนมด้วย
ผู้ว่าฯ นครพนม กล่าวว่า สำหรับปีนี้ จังหวัดนครพนม ได้ร่วมกับส่วนราชการ อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่า จัดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัด ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 12-20 ต.ค. โดยรวมเอางานกาชาดจังหวัดมาร่วมจัดงานด้วย ซึ่งภายในงานมีกิจกรรมทีสำคัญ ประกอบด้วย การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองของชนเผ่าต่างๆ การแห่ปราสาทผึ้ง การแข่งขันเรือยาว กิจกรรมการกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม การประกวดเรือ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นหาที่สุดมิได้จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานไฟพระฤกษ์เชิญมาจุดเรือไฟทุกๆ ลำที่ส่งเข้าประกวด
นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงาน “มหกรรมไหลเรือไฟและงานพาข้าวแลง ประจำปี 2556” ว่า จังหวัดนครพนม มีเอกลักษณ์ที่หลากหลายในด้านเชื้อชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดการท่องเที่ยว และมีการเชื่อมโยงกับหลายประเทศ เชื่อว่าในอนาคตจะสามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมาก
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำ และชมการแสดงไหลเรือไฟที่ที่ส่งเข้าประกวด จำนวน 30 ลำ และกระทงสาย ก่อนเดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ เวลาประมาณ 21.30 น.