xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ Like ก็ติดคุก

เผยแพร่:   โดย: พระบาท นามเมือง

ก่อนหน้าที่รัฐบาลนี้จะเข้ามาบริหารประเทศ บรรดาเสื้อแดงนักวิชาการและปัญญาชนพยายามสร้างภาพให้เหมือนกับว่า ประเทศไทยเป็นดินแดนที่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างร้ายแรง จำกัดสิทธิคนคิดต่าง โดยพยายามมุ่งโจมตีที่กฎหมายอาญาความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กันเป็นหลัก หรือเอาคนที่มีเครดิตในสังคม เช่น ผู้กำกับหนังชื่อดัง หรือบรรดานักเขียนที่มีภาพว่าเป็น “นักคิด” มาช่วยกันรณรงค์ให้ยกเลิกกฎหมายนี้ ถึงขนาดจัดตั้งกันเข้าชื่อเสนอกฎหมายใหม่ให้เอาผิดในความผิดฐานนี้ได้ยากขึ้น

ทำราวกับว่า สิทธิเสรีภาพทั้งหลายถูกรุกรานคุกคามจนอยู่แทบไม่ได้ ไม่มีเสรีภาพในการพูดการเขียนใดๆ อีกแล้ว

วาทกรรมต่างๆ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อโจมตีกฎหมายอาญามาตรา 112 เช่น “ไม่รักติดคุก”

น่าแปลกว่า กฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ใช่ของใหม่อะไร แทบจะเป็นกฎหมายเก่าที่ตราไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตั้งแต่ครั้งเป็นกฎหมายลักษณะอาญาแล้ว ป็นมาตราที่มีไว้เพื่อปกป้องพระเกียรติยศแห่งสถาบันพระมหากษัตริย์ผู้เป็นประมุขรัฐและสถาบันหลักทางจิตใจของชาติ ก่อนหน้านั้น ไม่มีใครเดือดร้อนกับกฎหมายนี้ จนกระทั่งมาถึงยุคที่เสื้อแดงพยายามจะ “แซะ” อำนาจรัฐและโครงสร้างหลักของชาติ แต่เมื่อได้ “อำนาจรัฐ” ไปแล้ว ปรากฏว่าปัญญาชนพวกนี้ก็เงียบเป็นเป่าสากกันไปเลย ไม่รู้หายไปไหนกันหมด ในยุคที่รัฐบาลปูแดง เป็นรัฐบาลที่ละเมิดสิทธิในการแสดงความคิดเห็นมากที่สุด

เริ่มตั้งแต่ตำรวจใหญ่ ผู้รับผิดชอบเรื่องอาชญากรรมทางอิเลคทรอนิกส์ ซึ่งแทนที่จะเอาเวลาไปเล่นงานพวกล่อลวงขโมยบัญชีหรือธุรกรรมออนไลน์ พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งประชาชนได้รับความเดือดร้อนกันมาก แต่อันนั้นสงสัยจะยากไป เล่นงานพวกเล่น Facebook เล่น Line ออกจะง่ายกว่า

ออกมาขู่ผู้คนว่า ห้ามไลค์ ห้ามแชร์ มีความผิดติดคุก จะถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะการไปไลค์ไปแชร์ที่บั่นทอนความมั่นคงของรัฐบาล พอมีคนไปถามว่า ไอ้แชร์น่ะพอเข้าใจ แต่ไปกดไลค์เฉยๆ ผิดอะไร ท่านก็ตอบมาง่ายๆ ว่า “ผิดอะไรไม่รู้ แต่ดำเนินคดีได้ก็แล้วกัน!” อารมณ์คล้ายๆ โดนตำรวจโบกรถเรียกตรวจเพื่อให้ใบสั่งอย่างไรอย่างนั้น

แล้วไม่ใช่แค่ขู่นะครับ มีจับโชว์แล้วด้วย โดยคุณเสริมสุข กษิติประดิษฐ์ หรือ เป๊ปซี่ บรรณาธิการข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โดนหมายเรียกกันไป โดยไม่ได้ให้ข่าวเลยว่า เขาไปไลค์ไปแชร์อะไร อันนี้ลองเปรียบเทียบกับคดีตามมาตรา 112 นะครับ ว่าถึงแม้เป็นคดีที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ซึ่งมิบังควรที่จะแสดงให้รู้ว่าข้อความที่หมิ่นนั้นคืออะไร แต่การดำเนินคดีนั้นก็ยังมีการให้ข้อมูลให้พอทราบได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหานั้นไปเขียนหรือพูดอะไรถึงโดนคดี ให้พอเข้าใจได้เท่าที่จำเป็น

นอกจากนั้นก็เริ่มที่จะมีการคุกคามการสื่อสารของประชาชนผ่านทาง Application ที่เป็นที่นิยมกันบนโทรศัพท์มือถือหรือ Tablet อย่างโปรแกรม Line ซึ่งถูกด่ากันทั้งเมือง แม้แต่โอ๊ค พานทองแท้ ยังมาแสดงความไม่เห็นด้วย แต่จะเป็นปาหี่หรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะถ้าไม่เห็นด้วยจริง ก็ Line wx บอก “อาปู” ให้ปรามๆ ก็ได้ เพราะถึงอย่างไร หน่วยงานดังกล่าวก็เป็นหน่วยงานหนึ่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งขึ้นตรงกับ “นายกรัฐมนตรี” อยู่แล้ว

คุย Line กับใคร อย่าเผลอแช่งให้รัฐบาลโดนล้ม อาจจะมีสติ๊กเกอร์ลึกลับรูปหมีใส่กุญแจมือยิงมาเข้าเครื่องท่านก็ได้

ส่วนหน่วยงานที่มีชื่อว่ามีไว้เพื่อสืบสวนคดีพิเศษ หรือตอนแรกตั้งนี่สร้างภาพว่าเทียบเท่า FBI กันเลยทีเดียว ก็เริ่มแสดงบทบาทในการสอบสวนคดีพิเศษออกมา พิเศษจริงๆครับคือถ้าเอาไปแปลเป็นภาษาต่างประเทศนี่ เป็นโจ๊กได้สบายๆ เลย

คือกรณีที่ภาพของนายกฯ ปูไปยืนอยู่หน้าป้าย “จุดชมวิว” และ “ดูสัตว์” (เสือ สิงห์ กะทิง แรด) ซึ่งยังไม่ชัดว่าเป็นภาพจริงที่พลาดไปยืนหรือภาพตัดต่อ แต่ไม่ว่าจะอย่างไร นี่เป็นการล้อเล่นที่เบามาก เบากว่าการ์ตูนการเมืองต่างๆ ไม่รู้กี่เท่า แต่ก็เล่นเอาท่านผู้สอบสวนคดีพิเศษขำไม่ออก ต้องออกมาทุบโต๊ะ และหลุดถ้อยคำออกมาแบบคนฟังแล้วถึงกับขนหัวลุกว่า ที่ต้องกระตือรือร้นรับคดีนี้ไว้ดำเนินการเป็น “คดีพิเศษ” เพราะท่านนายกฯ นั้นเป็น “ประมุขของประเทศ”

คงเผลอลืมตัวไปชั่วคราวว่าชื่อเต็มของประเทศนี้คือ “ราชอาณาจักรไทย” และคำว่า “ราชอาณาจักร” หมายถึงอะไร และประมุขของประเทศที่เป็นราชอาณาจักรนี้ได้แก่ใคร

สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ราวกับเป็นการยกระดับให้การวิพากษ์วิจารณ์ หรือการล้อเลียนเสียดสีรัฐบาลหรือตัวนายกฯ นั้นกลายเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง ถือเสมือนเป็น “กฎหมายอาญา มาตรา 112” ฉบับใหม่ ที่กลไกของรัฐพร้อมจะเข้ามาจัดการได้ทุกเมื่อ แม้ว่าไม่มีกฎหมายบ่งกำหนดโทษ หรือให้อำนาจไว้

ถ้าเราไม่ลืม ก่อนหน้านี้ คุณชัย ราชวัตร นักเขียนการ์ตูนระดับตำนาน ก็ถูกคุกคามโดยกลไกของกฎหมาย เพียงเพราะโพสต์ข้อความแล้วมีคนเข้าใจไปเองว่าจะ “หมิ่น”

ในยุคนี้การคุกคามเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ชัดเจนและทั่วถึงมาก แต่ก็น่าสงสัยว่า บรรดาปัญญาชน นักกวิชาการ นักคิด นักเขียน ศิลปินที่จะเป็นจะตายกับมาตรา 112 นั้นเงียบหายไปไหนหมด เฮ้ย ท่านไม่ถูกรบกวนไอ้ “เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น” แล้วหรือ ?

ก็อาจจะต้องปิดด้วยข้อความจากเพจการ์ตูนชื่อดัง “มานีมีแชร์” ที่เสื้อแดงชั้นกลางชอบกันหนักหนา เพราะมันจิกกัดพวก “สลิ่ม” หรือคนเสื้อเหลืองได้เจ็บปวดดีแท้ จากการตัดต่อภาพรวมทั้งวาดใหม่ จากหนังสือเรียนรุ่น 20-30 ที่ประณีต และมุกลึกซึ้ง เหมาะกับปัญญาชนที่คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนอื่น

มานีเอาแฟ้ม ปรส. ฟาดหัวโตที่ใส่หน้ากากขาว (ที่ออกมาเห่าพฤติกรรรมของรัฐบาล แต่ทำเป็นลืมๆ เรื่องเก่าๆ ของพรรคประชาธิปัตย์) แล้วบอกว่า “ถ้าโตเลือกใช้ ไม่ใช่หลักการ เขาเรียกอคติ”

แล้วเสื้อแดงปัญญาชนที่รักเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นเสียเต็มประดา คุณ “เลือกใช้” หลักการกันอยู่หรือเปล่า
กำลังโหลดความคิดเห็น