คลิปชายอาหรับอ้างตัวเป็นอัล-กออิดะห์ประกาศขู่ฆ่าทักษิณ ชินวัตรซึ่งปรากฏในโซเชี่ยลมีเดียไทยเมื่อเย็นวันที่ 27 ก.ค.แล้วก็เป็นข่าวออนไลน์กันในวันนั้นเลย อย่างผู้จัดการออนไลน์โพสต์ข่าวนี้เมื่อ 18.56 น.เป็นสื่อกระแสหลักรายแรกกระมังที่นำเสนอข่าวนี้และต่อมาก็มีการเผยแพร่ต่อไปต่างประเทศก็มีในวันรุ่งขึ้น
ข้อมูลที่ปรากฏหน้าจอ youtube ระบุว่าผู้ใช้นาม mansoor ahmed volvo เป็นผู้โพสต์เมื่อ 26 ก.ค.2013 จะว่าไปแล้วคลิปนี้ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครรู้เห็นจนข้ามมาวันที่ 27 ก.ค.แล้วจึงเริ่มแพร่ความบอกต่อกันทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ บอกอะไรให้หน่อยครับผมเองนั้นเห็นการเผยแพร่คลิปนี้ทางเฟซบุ๊กเมื่อ 17.59 น. ยังได้ถ่ายภาพเอาไว้เป็นหลักฐานส่วนตัวเพราะผ่านเวลาข้ามวันมาแล้วมียอดผู้เข้าชมจิ๊บจ๊อย 19 คนเอง (สงสัยเล็กๆ เฮ้ย! นี่เราเป็นลำดับ 19 ที่ได้ดูเลยหรือวะ?)
จนเมื่อมีข่าวสารเผยแพร่ผ่านสื่อผ่านโซเชี่ยลมีเดียแค่ไม่ถึง 2 ชั่วโมงดีกระมังคลิปดังกล่าวก็ระงับการเผยแพร่ไปเฉยๆ เรื่องนี้ก็น่าสนใจอีกว่า เป็นฝีมือของ mansoor ahmed volvo ระงับเผยแพร่เองด้วยเพราะเห็นว่าข่าวกระพือสมประสงค์แล้ว หรือว่า youtube เป็นผู้ระงับเองเพราะเป็นองค์กรก่อการร้ายและยังแถลงฆ่าคนด้วย อันนี้ไม่แน่ใจ-ไม่รู้-ไม่มีข้อมูล-ไม่อยากออกความเห็น แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ฝีมือหน่วยงาน ICT ของไทยติดต่อไประงับหรอกเพราะตอนที่หยุดเผยแพร่นั้นเพิ่งมีข่าวออนไลน์มาไม่ถึง 2 ชั่วโมงดีแถมเป็นคืนวันเสาร์อีกต่างหาก
เรื่องนี้มีหลายมุมมอง !
ทฤษฎีแรก- ฝ่ายค้านทักษิณสวมรอยอัล-กออิดะห์ ทำขึ้นมาเองเพื่อกลั่นแกล้งสร้างกระแส
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตรฟันธงในเช้ารุ่งขึ้นทันทีว่าเป็นคลิปกลั่นแกล้งไม่ใช่อัลกออิดะห์จริง โดยชี้ประเด็นว่าอัลกออิดะห์ไม่มายุ่งเรื่องภาคใต้ พฤติกรรมการแถลงข่าวก่อนหน้าของกลุ่มนี้ไม่เคยเปิดหน้าโชว์ นอกจากนั้นยังสังเกตว่าจังหวะการปล่อยคลิปตรงกับวันเกิดทักษิณ ชินวัตรพอดี การแถลงของพล.ท.ภราดรในเรื่องการปล่อยคลิปมาจากต่างประเทศตรงกับ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผบก.กองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท) แถลงภายหลัง
ถ้าเป็นไปตามนี้กลไกของรัฐมองเป็นเรื่องการเมืองภายในไม่ใช่เรื่องการก่อการร้ายของจริง จึงใช้วิธีปฏิเสธแล้วก็ไม่ขยายความให้เกิดกระพือข่าวต่อ นพดล ปัทมะ แถลงสั้นๆ ทำนองปฏิเสธเจ้านายลั้ลลาสบายดีนี่ก็เป็นชั้นเชิงปกติทางการเมืองที่ใช้กัน
หากเป็นไปตามทฤษฏีแรกต้องยกนิ้วให้ฝ่ายต่อต้านไม่ชอบขี้หน้าทักษิณ ชินวัตรที่มีเครือข่ายกว้างไกลขนาดให้คนอาหรับออกมาแสดงผ่านสื่อแถมเปิดหน้าโชว์อีกต่างหาก โปรดักชั่นก็ยอดเยี่ยมคอสทูมนี่อาหรับแท้ๆ ขนาดนาฬิกาเรือนทองตามแบบอาหรับนิยมก็สมจริงมาก ที่สำคัญคือเลือกพื้นที่อัพคลิปในเขตประเทศอาหรับอีกต่างหาก ข่าวที่ออกมาก่อนหน้าว่าอัพคลิปที่มาเลเซียไม่น่าใช่หรอกครับเพราะป่านนี้คงตรวจพบแล้ว ภาษาเขียนผ้าโพก ภาษาที่อ่านเป็นภาษาอาหรับทั้งสิ้น
คนที่กำกับบทยังยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกด้วยการกำหนดให้ชายคนกลางปลดผ้าคลุมหน้าโชว์หนวดเคราแบบอาระเบียนครึ้มเพื่อยืนยันว่านี่อาหรับแท้ๆ นะ ไม่เพียงเท่านั้นยังสร้างเงื่อนงำให้สับสนเข้าไปอีกว่าไอ้หมอนี่น่ะใคร? เช้ารุ่งขึ้นมีผู้เทียบใบหน้าของชายในคลิปกับภาพผู้นำอัลกออิดะห์กันยกใหญ่
แต่นั่นล่ะครับ หน้าตาชาวอาหรับมีหนวดเคราหน้าเข้มคมแขกละม้ายคล้ายกันไปเสียทั้งหมดถ้าไม่คุ้นจริงๆ ดูยากครับ ก็เหมือนฝรั่งให้มาจำแนกคนตาชั้นเดียวโพกผ้าสักคนว่าเป็นจีน ญี่ปุ่น เกาหลีแล้วคนไหนเป็นคนไหนก็ยากเหมือนกันนั่นแหละ ก็เลยมีการชี้ว่าเป็นคนนั้นบ้างคนนี้บ้างเป็นข่าวคราวให้เดากันต่อ
นี่คงต้องยกความดีความชอบให้กับผู้กำกับคลิปที่นอกจากสร้างโปรดักชั่นได้อย่างแนบเนียนแล้วยังเติมแก๊กเปิดหน้าให้คนหมกมุ่นคลำหาความจริงกันต่ออีกต่างหาก
ต่อให้เป็นไปตามทฤษฎีมีฝ่ายค้านไม่ชอบขี้หน้าทักษิณทำขึ้นมาแกล้งจริงก็เหอะ แต่ด้วยท่าทีปล่อยให้นิ่งไม่ตอบโต้เดี๋ยวก็ซาไปเองของภาครัฐ บวกกับฝีมือของผู้กำกับคลิปทำให้ยังมีคนไม่เชื่อพล.ท.ภราดร นพดล ปัทมะ อีกไม่น้อยล่ะครับ
ทฤษฎีที่สอง - ขบวนการก่อการร้ายทำขึ้นเองจริง โดยผ่านการประสานงานของเครือข่ายในพื้นที่ภาคใต้ โดยถือฤกษ์งามยามดีวันเกิดทักษิณประกาศคำสั่งตาย
เฟซบุ๊กของ ส.ว.คำนูณ สิทธิสมาน ตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ไว้ว่า...
“คลิปอัลกออิดะห์ขู่ฆ่าทักษิณ ชินวัตรจะเป็นจริงหรือไม่ ไม่ทราบ ทราบแต่ว่าหนึ่งในสองเรื่องที่ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญตัวจริงคนนี้ตั้งใจจะทำให้สำเร็จคือการดับไฟใต้โดยใช้แรงกดดันจากปัจจัยภายนอกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากโลกมุสลิม ด้วยการให้มาเลเซียเป็นตัวกลางเจรจา และเริ่มเจรจาต่อเนื่องไปยังอินโดนิเซียที่เชื่อกันว่าเป็นแหล่งฝึกกำลัง สุดท้ายก็การพูดคุยกับซาอุดิอาระเบียที่เชื่อว่าเป็นแหล่งสนับสนุนทางการเงิน
ทิศทางนี้ไม่ใช่ความลับค่อนข้างจะชัดเจนเสียด้วยซ้ำว่าผู้บัญชาการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ตัวจริงเสียงจริงคือใครขบวนการก่อการร้ายรุ่นใหม่ในพื้นที่มีหรือจะไม่รู้ เมื่อรู้แล้วได้รับผลกระทบหรือไม่ เมื่อได้รับผลกระทบแล้วจะตอบโต้ถึงต้นตอหรือไม่
บอกแล้วว่าไม่ทราบ แต่มันชวนคิดอย่างยิ่ง !”
คนวงในการเมืองการเมืองระดับคีย์แมนเค้าคุยกันเรื่องความสัมพันธ์ของทักษิณ กับ ซาอุดิอาระเบียมานานพอสมควรแล้วครับ ทักษิณนั้นเคยโพสต์ภาพตนเองนั่งล้อมวงกินข้าวหมกร่วมถาดกับชาวซาอุดี้เมื่อเมษายนปี 2010 บรรยายภาพว่าไปริยาด กับเจดดาห์ เพื่อคุยธุรกิจสร้างเมืองใหม่
ดูวันที่สิครับ..ในเวลานั้นเป็นช่วงที่คนเสื้อแดงนปช.กำลังบุกใหญ่ยึดกรุงเทพฯ ในมหกรรมเผาบ้านเผาเมืองอยู่พอดี
ทักษิณส่งสัญญาณมาถึงเมืองไทยว่าเกิดอะไรขึ้นเขายังมีสายสัมพันธ์กับซาอุดิอาระเบียซึ่งมีปัญหาความสัมพันธ์ทางการทูตมาร่วม 20 ปีแล้ว ต่อจากนั้นเมื่อมีการเลือกตั้งใหญ่ทักษิณได้ประกาศชัดเจนว่ารัฐบาลเพื่อไทยจะสานสัมพันธ์ทางการทูตกับซาอุดิอาระเบีย
ทักษิณ ชินวัตร เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาก่อนเขาชอบตำแหน่งนี้ และเพิ่มความเชี่ยวชาญในวงการเมืองระหว่างประเทศมากขึ้นๆ ที่จริงทักษิณนั่นแหละที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตัวจริงของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ส่วนนายปึ้งที่แม่ไม่ได้เป็นเมียฝรั่งนั้นบทบาทเป็นแค่เสมียนรัฐมนตรีคอยเป็นหุ่นเชิดให้กับนายใหญ่ต่างหากดังจะเห็นจากทักษิณเดินทางไปปูทางให้กับยิ่งลักษณ์ก่อนจะเยือนต่างประเทศก่อนแทบทุกครั้ง
และต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์ด้านทูตกับซาอุดิอาระเบียมีการขยับตัวขึ้นมาจริงเพราะมีการพบปะเจรจาอย่างเป็นทางการระดับเจ้าหน้าที่สองประเทศที่ตึกยูเอ็น กรุงนิวยอร์คเมื่อราวปีกลาย
ทักษิณซึ่งคิดว่าตัวเองเป็นมือวางด้านการต่างประเทศ เจรจากับทั้งมาเลเซียก่อนหน้ายิ่งลักษณ์ เฉลิม ภราดรไปเยือน เจรจากับซาอุดิอาระเบียในบางระดับจนมั่นใจว่าแรงกดดันของประเทศมุสลิมที่ว่าจะมีผลต่อสถานการณ์สามจังหวัดภาคใต้จึงเกิดการเจรจาหยุดยิงระหว่างรอมฎอนตามที่เป็นข่าวทราบกันดี
แต่ปัญหาไม่ได้มีแค่นั้น มีเรื่องอีกมากมายที่ไม่ได้อยู่ในความควบคุมของทักษิณและกลไกที่เขาใช้
อย่างน้อยที่สุดสถานการณ์ภาคใต้ระหว่างรอมฎอนก็ไม่ได้สงบจริง
มุสลิมรุ่นใหม่ที่มีสายสัมพันธ์กับซีเรียระแวงทักษิณไม่เชื่ออเมริกา ระหว่างที่อเมริกาเปิดบ้านรับทักษิณเข้าประเทศเมื่อปีกลายก็มีกระแสไม่พอใจเกิดขึ้น โลกมุสลิมที่ไม่พอใจอเมริกาโยงประเทศไทยเข้าไปผูกกับเซฟเฮ้าส์ CIA ศูนย์สอบสวนผู้ก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ บทความของ Bikyanews - Torture in Thailand :Sponsored by America ที่นำลิงค์มาเสนอเป็นแค่ตัวอย่างหนึ่ง ให้สังเกตวันที่ตีพิมพ์เดือนเมษายน 2556 ที่ผ่านมานี้เอง
นั่นแสดงว่ามีมุสลิมที่สนใจปัญหาก่อการร้ายมองว่าไทยผูกพันกับอเมริกาและเป็นปัญหากับอัล-กออิดะห์มาก่อนแล้ว มันมีมูลมาก่อนหน้าไม่ใช่เพิ่งจะมีอุปโลกน์เรื่องราวคิดทำกันตอนวันเกิดทักษิณเสียที่ไหน
หากทักษิณ(ผู้ซึ่งคิดว่าตนมีความชำนาญต่างประเทศ) มีความมุ่งมั่นจะแก้ปัญหาภาคใต้ตามแนวทางที่ตัวเองคิดทำได้ดำเนินการทางการทูตกับประเทศมุสลิมทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซียและซาอุดิอาระเบียจริง
เป็นไปได้ไหมที่เครือข่ายก่อการร้ายที่ไม่เห็นด้วยไม่พอใจแรงกดดันที่รัฐบาลไทย(โดยทักษิณ)ดำเนินการก่อนและระหว่างรอมฎอน จึงคิดตอบโต้เพื่อทำลาย “ดีล” ที่ทักษิณดำเนินการอยู่
โดยการชี้เป้า ขุดข้อหาดั้งเดิมมาชูขึ้น และประกาศข้อหาความผิดที่พัวพันกับการฆ่าพี่น้องมุสลิมในภาคใต้ นี่เป็นที่มาของคำสั่งฆ่าตามกฎหมายอิสลาม เลือดต้องล้างด้วยเลือด !
ซึ่งนี่ก็คือแรงปฏิกิริยาที่มีต่อการขยับรุกในแนวรบสามจังหวัดภาคใต้ของทักษิณนั่นเอง
หากเรื่องราวเป็นไปตามทฤษฎีนี้จริง ชายคลุมหน้าสามคนย่อมต้องเป็นเครือข่ายก่อการร้ายที่สัมพันธ์กับผู้ก่อการร้ายภาคใต้ ดังที่ทราบกันอยู่ว่าปัญหาภาคใต้มีส่วนเชื่อมอย่างแยกไม่ออกกับโลกอาหรับอย่างน้อยก็มีผู้คนนักศึกษาและสายสัมพันธ์สืบกันมายาวนาน
และที่สำคัญวงการความมั่นคงก็ยอมรับกันอยู่แล้วว่าอิทธิพลของอัล-กออิดะห์นั้นแผ่มาถึงภูมิภาคเอเชียอะวันออกเฉียงใต้อย่างแน่นอนอย่างกลุ่มกบฎแยกดินแดนในฟิลิปปินส์และรัฐซาบาห์ของมาเลเซียก็ใช่ แม้พล.ท.ภราดร จะบอกว่าอัล-กออิดะห์ไม่เคยสนใจภาคใต้ของไทยมาก่อน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายว่าการที่ไม่เคยสนใจมาก่อนจะเป็นหลักประกันตายตัวว่าอัล-กออิดะห์จะไม่เปลี่ยนใจเริ่มหันมาสนใจในตอนนี้
ถ้ายังสืบสาวหาข้อมูลที่ชัดเจนคลิปนี้โหลดที่ไหน ชายเปิดหน้าคือใคร อะไรคือสาเหตุของคำประกาศ เอาความเป็นไปได้ต่างๆ มาวางแบวิเคราะห์กัน โดยไม่ตัดประเด็นไหนทิ้งไปก่อนน่าจะดีกว่าทำเฉยไม่ให้น้ำหนักเพราะเรื่องนี้จะเกี่ยวกับสถานการณ์สามจังหวัดชายแดนใต้ด้วย
และที่สำคัญสามจังหวัดชายแดนใต้ของประเทศไทยมีความสำคัญกว่าเสถียรภาพทางการเมืองของใคร และก็สำคัญกว่าชีวิตของทักษิณ ชินวัตรอย่างแน่นอนขอรับ !
ข้อมูลที่ปรากฏหน้าจอ youtube ระบุว่าผู้ใช้นาม mansoor ahmed volvo เป็นผู้โพสต์เมื่อ 26 ก.ค.2013 จะว่าไปแล้วคลิปนี้ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครรู้เห็นจนข้ามมาวันที่ 27 ก.ค.แล้วจึงเริ่มแพร่ความบอกต่อกันทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ บอกอะไรให้หน่อยครับผมเองนั้นเห็นการเผยแพร่คลิปนี้ทางเฟซบุ๊กเมื่อ 17.59 น. ยังได้ถ่ายภาพเอาไว้เป็นหลักฐานส่วนตัวเพราะผ่านเวลาข้ามวันมาแล้วมียอดผู้เข้าชมจิ๊บจ๊อย 19 คนเอง (สงสัยเล็กๆ เฮ้ย! นี่เราเป็นลำดับ 19 ที่ได้ดูเลยหรือวะ?)
จนเมื่อมีข่าวสารเผยแพร่ผ่านสื่อผ่านโซเชี่ยลมีเดียแค่ไม่ถึง 2 ชั่วโมงดีกระมังคลิปดังกล่าวก็ระงับการเผยแพร่ไปเฉยๆ เรื่องนี้ก็น่าสนใจอีกว่า เป็นฝีมือของ mansoor ahmed volvo ระงับเผยแพร่เองด้วยเพราะเห็นว่าข่าวกระพือสมประสงค์แล้ว หรือว่า youtube เป็นผู้ระงับเองเพราะเป็นองค์กรก่อการร้ายและยังแถลงฆ่าคนด้วย อันนี้ไม่แน่ใจ-ไม่รู้-ไม่มีข้อมูล-ไม่อยากออกความเห็น แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ฝีมือหน่วยงาน ICT ของไทยติดต่อไประงับหรอกเพราะตอนที่หยุดเผยแพร่นั้นเพิ่งมีข่าวออนไลน์มาไม่ถึง 2 ชั่วโมงดีแถมเป็นคืนวันเสาร์อีกต่างหาก
เรื่องนี้มีหลายมุมมอง !
ทฤษฎีแรก- ฝ่ายค้านทักษิณสวมรอยอัล-กออิดะห์ ทำขึ้นมาเองเพื่อกลั่นแกล้งสร้างกระแส
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตรฟันธงในเช้ารุ่งขึ้นทันทีว่าเป็นคลิปกลั่นแกล้งไม่ใช่อัลกออิดะห์จริง โดยชี้ประเด็นว่าอัลกออิดะห์ไม่มายุ่งเรื่องภาคใต้ พฤติกรรมการแถลงข่าวก่อนหน้าของกลุ่มนี้ไม่เคยเปิดหน้าโชว์ นอกจากนั้นยังสังเกตว่าจังหวะการปล่อยคลิปตรงกับวันเกิดทักษิณ ชินวัตรพอดี การแถลงของพล.ท.ภราดรในเรื่องการปล่อยคลิปมาจากต่างประเทศตรงกับ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผบก.กองปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท) แถลงภายหลัง
ถ้าเป็นไปตามนี้กลไกของรัฐมองเป็นเรื่องการเมืองภายในไม่ใช่เรื่องการก่อการร้ายของจริง จึงใช้วิธีปฏิเสธแล้วก็ไม่ขยายความให้เกิดกระพือข่าวต่อ นพดล ปัทมะ แถลงสั้นๆ ทำนองปฏิเสธเจ้านายลั้ลลาสบายดีนี่ก็เป็นชั้นเชิงปกติทางการเมืองที่ใช้กัน
หากเป็นไปตามทฤษฏีแรกต้องยกนิ้วให้ฝ่ายต่อต้านไม่ชอบขี้หน้าทักษิณ ชินวัตรที่มีเครือข่ายกว้างไกลขนาดให้คนอาหรับออกมาแสดงผ่านสื่อแถมเปิดหน้าโชว์อีกต่างหาก โปรดักชั่นก็ยอดเยี่ยมคอสทูมนี่อาหรับแท้ๆ ขนาดนาฬิกาเรือนทองตามแบบอาหรับนิยมก็สมจริงมาก ที่สำคัญคือเลือกพื้นที่อัพคลิปในเขตประเทศอาหรับอีกต่างหาก ข่าวที่ออกมาก่อนหน้าว่าอัพคลิปที่มาเลเซียไม่น่าใช่หรอกครับเพราะป่านนี้คงตรวจพบแล้ว ภาษาเขียนผ้าโพก ภาษาที่อ่านเป็นภาษาอาหรับทั้งสิ้น
คนที่กำกับบทยังยอดเยี่ยมขึ้นไปอีกด้วยการกำหนดให้ชายคนกลางปลดผ้าคลุมหน้าโชว์หนวดเคราแบบอาระเบียนครึ้มเพื่อยืนยันว่านี่อาหรับแท้ๆ นะ ไม่เพียงเท่านั้นยังสร้างเงื่อนงำให้สับสนเข้าไปอีกว่าไอ้หมอนี่น่ะใคร? เช้ารุ่งขึ้นมีผู้เทียบใบหน้าของชายในคลิปกับภาพผู้นำอัลกออิดะห์กันยกใหญ่
แต่นั่นล่ะครับ หน้าตาชาวอาหรับมีหนวดเคราหน้าเข้มคมแขกละม้ายคล้ายกันไปเสียทั้งหมดถ้าไม่คุ้นจริงๆ ดูยากครับ ก็เหมือนฝรั่งให้มาจำแนกคนตาชั้นเดียวโพกผ้าสักคนว่าเป็นจีน ญี่ปุ่น เกาหลีแล้วคนไหนเป็นคนไหนก็ยากเหมือนกันนั่นแหละ ก็เลยมีการชี้ว่าเป็นคนนั้นบ้างคนนี้บ้างเป็นข่าวคราวให้เดากันต่อ
นี่คงต้องยกความดีความชอบให้กับผู้กำกับคลิปที่นอกจากสร้างโปรดักชั่นได้อย่างแนบเนียนแล้วยังเติมแก๊กเปิดหน้าให้คนหมกมุ่นคลำหาความจริงกันต่ออีกต่างหาก
ต่อให้เป็นไปตามทฤษฎีมีฝ่ายค้านไม่ชอบขี้หน้าทักษิณทำขึ้นมาแกล้งจริงก็เหอะ แต่ด้วยท่าทีปล่อยให้นิ่งไม่ตอบโต้เดี๋ยวก็ซาไปเองของภาครัฐ บวกกับฝีมือของผู้กำกับคลิปทำให้ยังมีคนไม่เชื่อพล.ท.ภราดร นพดล ปัทมะ อีกไม่น้อยล่ะครับ
ทฤษฎีที่สอง - ขบวนการก่อการร้ายทำขึ้นเองจริง โดยผ่านการประสานงานของเครือข่ายในพื้นที่ภาคใต้ โดยถือฤกษ์งามยามดีวันเกิดทักษิณประกาศคำสั่งตาย
เฟซบุ๊กของ ส.ว.คำนูณ สิทธิสมาน ตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ไว้ว่า...
“คลิปอัลกออิดะห์ขู่ฆ่าทักษิณ ชินวัตรจะเป็นจริงหรือไม่ ไม่ทราบ ทราบแต่ว่าหนึ่งในสองเรื่องที่ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญตัวจริงคนนี้ตั้งใจจะทำให้สำเร็จคือการดับไฟใต้โดยใช้แรงกดดันจากปัจจัยภายนอกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากโลกมุสลิม ด้วยการให้มาเลเซียเป็นตัวกลางเจรจา และเริ่มเจรจาต่อเนื่องไปยังอินโดนิเซียที่เชื่อกันว่าเป็นแหล่งฝึกกำลัง สุดท้ายก็การพูดคุยกับซาอุดิอาระเบียที่เชื่อว่าเป็นแหล่งสนับสนุนทางการเงิน
ทิศทางนี้ไม่ใช่ความลับค่อนข้างจะชัดเจนเสียด้วยซ้ำว่าผู้บัญชาการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ตัวจริงเสียงจริงคือใครขบวนการก่อการร้ายรุ่นใหม่ในพื้นที่มีหรือจะไม่รู้ เมื่อรู้แล้วได้รับผลกระทบหรือไม่ เมื่อได้รับผลกระทบแล้วจะตอบโต้ถึงต้นตอหรือไม่
บอกแล้วว่าไม่ทราบ แต่มันชวนคิดอย่างยิ่ง !”
คนวงในการเมืองการเมืองระดับคีย์แมนเค้าคุยกันเรื่องความสัมพันธ์ของทักษิณ กับ ซาอุดิอาระเบียมานานพอสมควรแล้วครับ ทักษิณนั้นเคยโพสต์ภาพตนเองนั่งล้อมวงกินข้าวหมกร่วมถาดกับชาวซาอุดี้เมื่อเมษายนปี 2010 บรรยายภาพว่าไปริยาด กับเจดดาห์ เพื่อคุยธุรกิจสร้างเมืองใหม่
ดูวันที่สิครับ..ในเวลานั้นเป็นช่วงที่คนเสื้อแดงนปช.กำลังบุกใหญ่ยึดกรุงเทพฯ ในมหกรรมเผาบ้านเผาเมืองอยู่พอดี
ทักษิณส่งสัญญาณมาถึงเมืองไทยว่าเกิดอะไรขึ้นเขายังมีสายสัมพันธ์กับซาอุดิอาระเบียซึ่งมีปัญหาความสัมพันธ์ทางการทูตมาร่วม 20 ปีแล้ว ต่อจากนั้นเมื่อมีการเลือกตั้งใหญ่ทักษิณได้ประกาศชัดเจนว่ารัฐบาลเพื่อไทยจะสานสัมพันธ์ทางการทูตกับซาอุดิอาระเบีย
ทักษิณ ชินวัตร เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาก่อนเขาชอบตำแหน่งนี้ และเพิ่มความเชี่ยวชาญในวงการเมืองระหว่างประเทศมากขึ้นๆ ที่จริงทักษิณนั่นแหละที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตัวจริงของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ส่วนนายปึ้งที่แม่ไม่ได้เป็นเมียฝรั่งนั้นบทบาทเป็นแค่เสมียนรัฐมนตรีคอยเป็นหุ่นเชิดให้กับนายใหญ่ต่างหากดังจะเห็นจากทักษิณเดินทางไปปูทางให้กับยิ่งลักษณ์ก่อนจะเยือนต่างประเทศก่อนแทบทุกครั้ง
และต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์ด้านทูตกับซาอุดิอาระเบียมีการขยับตัวขึ้นมาจริงเพราะมีการพบปะเจรจาอย่างเป็นทางการระดับเจ้าหน้าที่สองประเทศที่ตึกยูเอ็น กรุงนิวยอร์คเมื่อราวปีกลาย
ทักษิณซึ่งคิดว่าตัวเองเป็นมือวางด้านการต่างประเทศ เจรจากับทั้งมาเลเซียก่อนหน้ายิ่งลักษณ์ เฉลิม ภราดรไปเยือน เจรจากับซาอุดิอาระเบียในบางระดับจนมั่นใจว่าแรงกดดันของประเทศมุสลิมที่ว่าจะมีผลต่อสถานการณ์สามจังหวัดภาคใต้จึงเกิดการเจรจาหยุดยิงระหว่างรอมฎอนตามที่เป็นข่าวทราบกันดี
แต่ปัญหาไม่ได้มีแค่นั้น มีเรื่องอีกมากมายที่ไม่ได้อยู่ในความควบคุมของทักษิณและกลไกที่เขาใช้
อย่างน้อยที่สุดสถานการณ์ภาคใต้ระหว่างรอมฎอนก็ไม่ได้สงบจริง
มุสลิมรุ่นใหม่ที่มีสายสัมพันธ์กับซีเรียระแวงทักษิณไม่เชื่ออเมริกา ระหว่างที่อเมริกาเปิดบ้านรับทักษิณเข้าประเทศเมื่อปีกลายก็มีกระแสไม่พอใจเกิดขึ้น โลกมุสลิมที่ไม่พอใจอเมริกาโยงประเทศไทยเข้าไปผูกกับเซฟเฮ้าส์ CIA ศูนย์สอบสวนผู้ก่อการร้ายอัล-กออิดะห์ บทความของ Bikyanews - Torture in Thailand :Sponsored by America ที่นำลิงค์มาเสนอเป็นแค่ตัวอย่างหนึ่ง ให้สังเกตวันที่ตีพิมพ์เดือนเมษายน 2556 ที่ผ่านมานี้เอง
นั่นแสดงว่ามีมุสลิมที่สนใจปัญหาก่อการร้ายมองว่าไทยผูกพันกับอเมริกาและเป็นปัญหากับอัล-กออิดะห์มาก่อนแล้ว มันมีมูลมาก่อนหน้าไม่ใช่เพิ่งจะมีอุปโลกน์เรื่องราวคิดทำกันตอนวันเกิดทักษิณเสียที่ไหน
หากทักษิณ(ผู้ซึ่งคิดว่าตนมีความชำนาญต่างประเทศ) มีความมุ่งมั่นจะแก้ปัญหาภาคใต้ตามแนวทางที่ตัวเองคิดทำได้ดำเนินการทางการทูตกับประเทศมุสลิมทั้งอินโดนีเซีย มาเลเซียและซาอุดิอาระเบียจริง
เป็นไปได้ไหมที่เครือข่ายก่อการร้ายที่ไม่เห็นด้วยไม่พอใจแรงกดดันที่รัฐบาลไทย(โดยทักษิณ)ดำเนินการก่อนและระหว่างรอมฎอน จึงคิดตอบโต้เพื่อทำลาย “ดีล” ที่ทักษิณดำเนินการอยู่
โดยการชี้เป้า ขุดข้อหาดั้งเดิมมาชูขึ้น และประกาศข้อหาความผิดที่พัวพันกับการฆ่าพี่น้องมุสลิมในภาคใต้ นี่เป็นที่มาของคำสั่งฆ่าตามกฎหมายอิสลาม เลือดต้องล้างด้วยเลือด !
ซึ่งนี่ก็คือแรงปฏิกิริยาที่มีต่อการขยับรุกในแนวรบสามจังหวัดภาคใต้ของทักษิณนั่นเอง
หากเรื่องราวเป็นไปตามทฤษฎีนี้จริง ชายคลุมหน้าสามคนย่อมต้องเป็นเครือข่ายก่อการร้ายที่สัมพันธ์กับผู้ก่อการร้ายภาคใต้ ดังที่ทราบกันอยู่ว่าปัญหาภาคใต้มีส่วนเชื่อมอย่างแยกไม่ออกกับโลกอาหรับอย่างน้อยก็มีผู้คนนักศึกษาและสายสัมพันธ์สืบกันมายาวนาน
และที่สำคัญวงการความมั่นคงก็ยอมรับกันอยู่แล้วว่าอิทธิพลของอัล-กออิดะห์นั้นแผ่มาถึงภูมิภาคเอเชียอะวันออกเฉียงใต้อย่างแน่นอนอย่างกลุ่มกบฎแยกดินแดนในฟิลิปปินส์และรัฐซาบาห์ของมาเลเซียก็ใช่ แม้พล.ท.ภราดร จะบอกว่าอัล-กออิดะห์ไม่เคยสนใจภาคใต้ของไทยมาก่อน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายว่าการที่ไม่เคยสนใจมาก่อนจะเป็นหลักประกันตายตัวว่าอัล-กออิดะห์จะไม่เปลี่ยนใจเริ่มหันมาสนใจในตอนนี้
ถ้ายังสืบสาวหาข้อมูลที่ชัดเจนคลิปนี้โหลดที่ไหน ชายเปิดหน้าคือใคร อะไรคือสาเหตุของคำประกาศ เอาความเป็นไปได้ต่างๆ มาวางแบวิเคราะห์กัน โดยไม่ตัดประเด็นไหนทิ้งไปก่อนน่าจะดีกว่าทำเฉยไม่ให้น้ำหนักเพราะเรื่องนี้จะเกี่ยวกับสถานการณ์สามจังหวัดชายแดนใต้ด้วย
และที่สำคัญสามจังหวัดชายแดนใต้ของประเทศไทยมีความสำคัญกว่าเสถียรภาพทางการเมืองของใคร และก็สำคัญกว่าชีวิตของทักษิณ ชินวัตรอย่างแน่นอนขอรับ !
