xs
xsm
sm
md
lg

คิดแบบซ้ายอกหักสร้างประชาธิปไตยไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: บัณรส บัวคลี่

ผู้ที่คิดฝันอยากให้ประเทศของเราเป็นประชาธิปไตย ประชาชนมีอำนาจจริง มีความสุขจริง มีความเป็นธรรมจริง ต้องตัดแนวความคิดเรื่อง "ยึดอำนาจรัฐ" ออกจากสมอง เพราะความคิดแบบนี้เป็นแบบซ้ายเข้าป่า พวกซ้ายอกหักที่ยังปฏิวัติสังคมไม่เลิก เพราะคนที่คิดแบบนี้จะผูกติดความคิดว่าต้องได้อำนาจรัฐเสียก่อนจึงจะปฏิวัติสังคมตามที่ตัวเองคิดได้

ธิดา เหวง รวมไปถึงนักการเมืองอาชีพซ้ายหลอกต้มส.ส.รัฐมนตรีที่สวามิภักดิ์ทุนอีกหลายคนก็ถือทฤษฎีนี้แหละเรียกหาแรงสนับสนุนจากเครือข่ายซ้ายเก่าด้วยกัน และไม่เท่านั้นความคิดแบบนี้ยังอยู่ในสื่ออีกด้วยอย่างใบตองแห้งนี่ชัดเจน

คนที่เคยเข้าป่าเคยชินกับคำว่า “ยึดอำนาจรัฐไทย” มาแต่เริ่มความฝันของหนุ่มสาวยุคนั้นคือโค่นล้มระบบศักดินาชนชั้นสถาปนาความเท่าเทียม มีช่วงหนึ่งในคอมมิวนิสต์รุกหนักมากคนในป่าลำพองใจนับคืนวันรอคอยการได้ชัยชนะเข้าสู่เมืองกัน..แต่ฟ้าสีทองของพวกเขายังไม่เคยผ่องอำไพสักที เพิ่งจะมาอำไพกันตอนสวามิภักดิ์ทักษิณนี่เอง

เมื่อออกจากป่าซ้ายบางส่วนเลือกเข้าสู่วงการเมืองได้ส้องเสพอำนาจรัฐอันหอมหวานแถมยังได้เกลือกกลั้วกับทุนนิยมที่หอมหวานกว่าร่ำรวย+มากบารมีไปตามๆกัน คนเหล่านี้มักจะใช้ข้ออ้างสามัคคีกับทุนเพื่อล้มล้างศักดินาบ้าง หลอกใช้นักการเมืองนายทุนแล้วค่อยสามัคคีประชาชนโค่นนายทุนต่อบ้าง ฯลฯ ล้วนแต่เป็นข้ออ้างเชิงอุดมการณ์ไว้หลอกตัวเองและหลอกเพื่อนพ้องเท่านั้นเอง

เพราะมันไม่มีทางสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงได้ !

กรอบความคิดแบบปฏิวัติสังคมมีแก้วสามประการพรรค-มวลชนและกองกำลังเพื่อโค่นล้มและยึดอำนาจรัฐนั้นเป็นโมเดลของรัฐเผด็จการเมื่อได้อำนาจรัฐมาอำนาจนั้นจะยังคงผูกขาดวนเวียนอยู่ภายในแวดวงกรรมการพรรคเจ้าหน้าที่พรรคนายทุนพรรคนั่นแหละไม่ได้ลงมาถึงประชาชนอะไรหรอกประเทศเพื่อนบ้านที่เขาปฏิวัติสังคมสำเร็จอย่างลาว เขมร เวียดนามเป็นยังไงล่ะ?

ซ้ายเก่าอกหักเหล่านี้กอดแนวคิดปฏิวัติสังคมไม่เลิกไม่รู้ว่าเพราะมันฝังอยู่ในหัวหรือคิดแบบอื่นไม่เป็นเมื่อมาประยุกต์ใช้กับสังคมเปิดแบบประชาธิปไตยเข็มมุ่งของพวกเขาก็ยังคงอยู่ที่เอาชนะเพื่อได้มาซึ่งอำนาจรัฐให้ได้

ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเลือกหนุน "พรรค" ให้ได้อำนาจ เอาตัวเองไปผูกกับการได้อำนาจ รวมถึงป้องกันไม่ให้พรรคการเมืองหรือขุมข่ายการเมืองอีกฝ่ายได้อำนาจ ทั้งๆ ที่โลกเคลื่อนมายุคนี้แล้วโซเวียตล่มสลาย หมดสงครามเย็น จีนก็เล่นบทนายทุนไปแล้วจะปฏิวัติอะไรอีกล่ะ? นอกเสียจากมีเป้าหมายแฝงปฏิวัติระบอบและโครงสร้างระบอบพุ่งเป้าไปที่สถาบันหนึ่งใดโดยเฉพาะ? ซึ่งนี่ก็เป็นแนวคิดเฉพาะกลุ่มที่ไม่มีทางเป็นไปได้เพราะนายทุนนักการเมืองไม่เอาด้วย

สหายปูน ธิดา ถาวรเศรษฐ เคยเป็นถึงกรรมการสำรองกรรมการกลาง พคท.แม่นยำทฤษฎีและอุดมการณ์ไพร่ระดับที่เป็นกุนซือบอกบทสงครามไพร่-อำมาตย์ บอกบทให้เต้นปราศรัยเรื่องรามายณะฉบับไพร่(ตีความพระรามให้เป็นผู้ปกครองกดขี่ไม่เป็นธรรมพวกยักษ์เป็นไพร่ที่ถูกปราบ) กระทบชิ่งไปยังสถาบันที่ถือกันว่าเป็นนารายณ์อวตาร เมื่อนชป.เป็นขาหนึ่งที่ทำให้พรรคเพื่อไทยได้อำนาจรัฐมา 2 ปีแล้ว

ถามว่าได้สร้างความก้าวหน้าอะไรให้กับประชาธิปไตยของสังคมนี้บ้างนอกเหนือจากการมีเลือกตั้งให้พรรคการเมืองมาบริหาร?

นปช.ยุคสหายปูนซ้ายเก่าก็แค่การกล่อมคนให้ท่องประชาธิปไตยๆๆ ผูกตัวเองอยู่กับพรรคการเมือง เป็นกำลังหนุนให้พรรคได้อำนาจรัฐตามทฤษฎีปฏิวัติสังคมด้วยแก้วสามประการ ได้อำนาจมาแล้วก็เป็นกองกำลังปกป้องอำนาจรัฐให้กับพรรค ไม่ได้คิดเรื่องสิทธิประชาชนอันเป็นรากฐานของประชาธิปไตยแม้แต่น้อย

รัฐบาลปกปิดข้อมูลก็เฉย!

รัฐบาลมีเมกกะโปรเจ็คต์ไม่สอบถามประชาชนก่อนก็เฉย!

รัฐบาลมีโกงเรื่องข้าวยิ่งอยู่ยิ่งชัดและสารภาพแล้วว่ามีโกงจริงก็เฉย!

เฉยไปหมดกับการใช้อำนาจรัฐทั้งๆ ที่ตอนแรกประกาศว่าจะอยู่เพื่อตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐก็แค่ประกาศเท่ๆตามหลักการเท่านั้นแหละ

คนเหล่านี้มักจะอ้างว่าเป้าหมายประชาธิปไตยที่แท้จริงของคนพวกนี้คือการได้แก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยเป้าหมายที่คนพวกนี้ต้องการแก้คือลดอำนาจตรวจสอบถ่วงดุล ลดอำนาจศาล องค์กรอิสระซึ่งนี่ก็จะมีผลต่อการโน้มเอียงไปสู่เผด็จการรัฐสภา (Majoritarianism) ได้ง่ายมาก แต่เนื่องจากพวกเขาสะกดจิตตัวเองมาแต่ต้นว่าการต่อสู้คือการได้มาซึ่งอำนาจรัฐขจัดอำนาจเก่าฝ่ายตรงกันข้ามเขาจึงหัวปักหัวปำกับแนวทางนี้คือแนวทางช่วงชิงความได้เปรียบระหว่างชนชั้นผู้ปกครองฝ่ายตนและฝ่ายตรงกันข้าม

ไม่มีความคิดเรื่องอำนาจประชาชนคนเดินดินเจ้าของประเทศอยู่ในหัวเลยแม้แต่น้อย !

รัฐธรรมนูญหมวดที่สำคัญที่สุดหมวดหนึ่ง เป็นหมวดซึ่งเป็นรากฐานของประชาธิปไตยคือหมวดว่าด้วยสิทธิเสรีภาพของประชาชนเจ้าของประเทศ แต่คนพวกนี้รวมถึงรัฐบาลซึ่งใช้อำนาจที่มาจากประชาชนไม่ได้สนใจ อย่างเรื่องโครงการน้ำ 3.5 แสนล้านที่เขาให้บอกกล่าวกับประชาชนเสียก่อนนี่คือการรับรองสิทธิ/และปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานที่สุดของประชาชน

รัฐบาลรวมถึงนปช.ตลอดจนนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยจ๋าดันเบี่ยงประเด็นกลายเป็นอำมาตย์หาช่องแกล้งรัฐบาลไปเสียฉิบ

ก็เพราะคนพวกนี้มีแต่ต่อสู้เพื่อ “อำนาจรัฐ” อยู่ในหัว

ไม่เคยมีความคิดจะต่อสู้เพื่อ “อำนาจประชาชน” ซึ่งนี่ต่างหากคือ “หัวใจ” ของการสร้างสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริง

ที่ถูกแล้วต้องโยนทิ้งความคิด "ยึดอำนาจรัฐ/ได้อำนาจรัฐ"ลงถังขยะไป แล้วมาคิดเรื่องเพิ่ม"อำนาจประชาชนเป็นหลักสำคัญ

พอมาคิดเรื่องอำนาจประชาชนเป็นหัวใจแล้ว ก็จะมองเห็นสิทธิ/เสรีภาพ/ที่ต้องคุ้มครอง การละเมิดสิทธิ การใช้อำนาจเกินขอบเขตตามมาอีกมากมาย และก็จะมองเห็นความจำเป็นต้อง "ลดอำนาจรัฐ" ลงมา

คนที่คิดหวังจะเห็นสังคมประชาธิปไตยเห็นสังคมเปิดที่มีสุขภาพดีมีธรรมาภิบาลอย่าเอาตัวเองผูกติดกับการชิงอำนาจรัฐพรรคไหนเลย

ความคิดแบบนี้มันเชยแล้วอย่าไปตามซ้ายอกหักปากหวานก้นเปรี้ยวเลยครับ!

ให้ถือเอาประชาชนเป็นตัวตั้ง เลือกตั้งทีนึงจะเลือกหนุนพรรคไหนที่ดีก็ตามใจท่านแต่เมื่อถึงเวลาที่เขาบริหารหากทำไม่ได้ต้องตะโกนดังๆรับไม่ได้ ถ้าทำไม่ดีมากๆก็ต้องไล่ลงไป อย่าผูกตัวเองเป็นทาสพรรคการเมืองเพราะทำเช่นนี้ไม่ได้สร้างประชาธิปไตยอะไรเลย เป็นแค่ไพร่ราบทหารเลวให้กับผู้มีอำนาจเขาชิงอำนาจกันเท่านั้นแหละ

หากคนไทยจำนวนมากถือเอา “อำนาจประชาชน”เป็นหลัก เชื่อในหลักการว่าประชาชนต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองมีสิทธิเสรีภาพและเป็นเจ้าของทรัพยากรเมื่อถึงเวลานั้นไม่ว่ากลุ่มใดพรรคไหนได้รับเลือกขึ้นมาจะต้องเคารพสิทธิพื้นฐานประชาชน เคารพอำนาจที่ประชาชนให้ไป สร้างกรอบชนิดใหม่ขึ้นมาบีบบังคับผู้เล่นทุกกลุ่มในภาคการเมืองให้ได้

เหมือนบราซิลที่นับจากนี้ไปรัฐบาลใดขึ้นมามีอำนาจต้องเกรงใจประชาชนในระดับสำคัญจะคิดโกงหรือทำเมกะโปรเจ็กต์จัดสรรงบประมาณแบบไหนต้องคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะให้มากเข้าไว้ด้วยเกรงคนเรือนล้านจะออกจากบ้านมาทวงสิทธิของตนจากรัฐบาล(ที่มาจากการเลือกตั้ง)อีกรอบ

ลบความคิดเรื่องเข้าสู่อำนาจรัฐออกไป ช่วยกันเพิ่มอำนาจประชาชนโดยไม่ต้องอ้างหรืออิงอำนาจรัฐ นี่ต่างหากคือทางออก!!!

ส่วนความเชื่อแบบซ้ายสวาปามที่ว่าต้องหนุนต้องช่วยพรรคได้อำนาจรัฐเพื่อสร้างประชาธิปไตยน่ะ เป็นนิยายหลอกรับประทานของพวกแกนนำ...ไว้หลอกมวลชนเป็นฐานอำนาจเพื่อเสวยสุขกันเฉพาะกลุ่มเท่านั้นเอง...!
กำลังโหลดความคิดเห็น