xs
xsm
sm
md
lg

“ปล้นนะครับ” ยุคข้าวยากหมากแพง

เผยแพร่:   โดย: กิตตินันท์ นาคทอง


ช่วงนี้เวลาที่ผมอ่านหนังสือพิมพ์รายวัน หรือดูข่าวชาวบ้านตามเว็บไซต์ต่างๆ พักสายตาระหว่างทำงาน มักจะพบกับคดีอาชญากรรมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง บางเหตุการณ์ก็เป็นเรื่องสะเทือนขวัญ เต็มไปด้วยความสูญเสียของผู้บริสุทธิ์ ซึ่งผมเชื่อว่าคุณผู้อ่านก็คงคิดไม่ต่างกันว่า มันไม่ได้ไกลตัวไปจากชีวิตประจำวันเลย

ข่าวชิ้นหนึ่งที่ผมอ่านแล้วรู้สึกสะเทือนใจที่สุด เกิดขึ้นเมื่อ 3 มิถุนายน 2556 หญิงสาววัย 23 ปีคนหนึ่ง ถูกคนร้ายบุกประชิดตัวใช้มีดจี้และล็อกคอขณะขึ้นรถเพื่อชิงทรัพย์ ภายในอาคารจอดรถห้างเทสโก้ โลตัส สาขาบางกะปิ เมื่อขัดขืนจึงถูกมีดปาดคอเสียชีวิต จากนั้นนำศพไปทิ้งที่ห้องน้ำในโรงแรมม่านรูดย่านถนนราชพฤกษ์ก่อนหลบหนีแต่ไปไม่รอด

คนร้ายเป็นชายวัย 26 ปี สารภาพว่า ทำงานโรงงานเครื่องสำอางย่านบางพลี แต่เกิดติดค่างวดรถมอเตอร์ไซค์ 3 เดือน ถูกไฟแนนซ์ยึดไป จึงวางแผนปล้นทรัพย์เพื่อนำรถยนต์และทรัพย์สินไปขายดาวน์รถมอเตอร์ไซค์คันใหม่ ไม่ได้หวังเอาชีวิตและข่มขืน ส่วนที่นำศพไปทิ้งโรงแรมนั้นเพราะนึกขึ้นได้ว่าเคยพาแฟนมาหลับนอนช่วงที่เป็นทหารเกณฑ์

ไม่นานนักเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นอีก เมื่อ 20 มิถุนายน 2556 นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยย่านบางเขน ถูกคนร้ายใช้มีดจี้คอขณะขึ้นรถ ที่จอดภายในห้างเทสโก้ โลตัส สาขาบางเขน ก่อนไล่นักศึกษาลงจากรถแล้วขับหลบหนีไป แต่โชคดีที่เธอไม่เป็นอะไร ต่อมาก็พบรถจอดอยู่หน้าแฟลตทหารอากาศสัญญาบัตร 4 หลังโรงพยาบาลภูมิพล

นักศึกษาคนนี้กล่าวว่า ตนยังโชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่านี้ หลังเกิดเหตุยังรู้สึกช็อกอยู่มาก นึกถึงคดีฆ่าชิงรถก่อนหน้านี้ขึ้นมาทันที ส่วนคนร้ายลักษณะคล้ายคนเสพยาเสพติด ใช้เวลาในการก่อเหตุเร็วมาก จึงขอฝากว่าเวลาจะไปไหนมาไหนถ้าไปคนเดียวให้ระวังตัว ทำอะไรต้องมีสติ ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่เปลี่ยว หรือมีคนพลุกพล่านก็ต้องระวังตัวไว้

เป็นที่น่าสังเกตว่าห้างสรรพสินค้าหลายแห่งโดยเฉพาะห้างค้าปลีกนั้น ในระยะหลังมักจะไม่แจกบัตรจอดรถ เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยมีคดีฟ้องร้องเกี่ยวกับการจอดรถ หากมีบัตรจอดรถและเสียค่าจอดรถ ศาลมักจะพิจารณาให้ผู้จอดรถเป็นฝ่ายชนะ จึงหันมาใช้วิธีจับภาพจากกล้องวงจรปิดแทน ยกเว้นบางสาขาในกรุงเทพฯ ที่ยังคิดค่าจอดรถอยู่

ล่าสุดห้างเทสโก้ โลตัส มีคำชี้แจงออกมาว่า รู้สึกเสียใจยิ่งกับเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ดำเนินการทบทวนและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ล่าสุดได้เพิ่มจำนวน รปภ. ในสาขาที่มีลูกค้าจำนวนมากในช่วงค่ำไปแล้ว และกำลังติดตั้งปุ่มสัญญาณฉุกเฉิน รวมทั้งจัดให้มีโซนจอดรถสำหรับผู้หญิงตามสาขาต่างๆ

แม้จะถูกมองว่าเป็นมาตรการแบบวัวหายล้อมคอก ผมยังนึกไม่ออกว่าการติดตั้งปุ่มสัญญาณฉุกเฉินตามเสาที่จอดรถจะช่วยได้จริงหรือ เพราะคนร้ายมักจะประชิดตัวระหว่างผู้เสียหายกำลังจะขึ้นรถ ผมกลับคิดว่าเจ้าหน้าที่ รปภ. น่าจะคอยสังเกตลูกค้าสุภาพสตรีที่มาคนเดียวเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องให้โอกาสแก้ไขกันไป

ในบางครั้งเหตุอาชญากรรมอาจจะไม่ได้มีเพียงแค่ข่าวที่เกิดขึ้นทุกวันเสมอไป วันดีคืนดีอาจจะเกิดขึ้นกับเพื่อนหรือคนใกล้ตัว วันก่อนระหว่างนั่งทำงานอยู่ในออฟฟิศก็ทราบข่าวในทวิตเตอร์ว่า มีคนร้ายปล้นธนาคารที่เพื่อนผมทำงานอยู่ ด้วยความตกใจและเป็นห่วงจึงโทรศัพท์ไปหาแต่ไม่รับสาย กระทั่งช่วงดึกเธอมาบ่นในเฟซบุ๊ก บ่นว่าวันนี้วุ่นวายมาก

เธอเล่าว่าช่วงนั้นเป็นเวลาพักพอดี อยู่ในห้องเล็กๆ ถัดจากเคาน์เตอร์ จึงไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ช่วงนั้นคนร้ายซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ส่งกระดาษเขียนข้อความภาษาอังกฤษว่า “I have gun and knife fill the bag with money quietly”ด้วยความตกใจจึงนำเงินจากลิ้นชักใส่กระเป๋า ได้ไป 3.7 แสนบาทก่อนเร่งเครื่องมอเตอร์ไซค์หลบหนีไป

2-3 วันต่อมาผมได้ข่าวว่าตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว เป็นครูสอนภาษาอังกฤษชาวอเมริกันวัย 62 ปี ซึ่งสาเหตุที่ปล้นเพราะเงินขาดมือไม่พอใช้จ่าย ผมโทรศัพท์คุยกับเพื่อนอีกครั้ง เธอบอกกับผมว่าคนร้ายให้การวกไปวนมา ทีแรกบอกปฏิเสธ พอเจอหลักฐานก็รับสารภาพ ไม่ทันไรก็ปฏิเสธอีก ผมก็ได้แต่บอกว่าหลักฐานขนาดนี้ตำรวจคงเอาผิดได้เองแหละ

อาจเรียกได้ว่า ใครที่ทำงานธนาคารหรืออาชีพที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเงินๆ ทองๆ นอกจากโจรปล้นธนาคารดูเหมือนจะเยอะขึ้นแล้ว เพื่อนที่ทำงานธนาคารอีกคนหนึ่งก็เปรยกับผมว่า ยังมีลูกค้าบางคนปลอมเอกสารมาขอกู้เงิน ซึ่งหากเกิดพลาดขึ้นมาผลเสียจะตกอยู่กับพนักงาน บางครั้งมีบุคคลภายนอกมาไถเงินแบบดื้อๆ ก็มี เรียกได้ว่าสารพัดรูปแบบ

วันหนึ่งผมเกิดคำถามในใจว่า ทำไมช่วงนี้มีข่าวปล้นธนาคารบ่อยครั้ง จึงลองสืบค้นข่าวเก่า พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ผมเขียนต้นฉบับ มีคดีปล้นธนาคารแล้ว 13 คดี แบ่งออกเป็นปล้นทรัพย์ต่อหน้าเคาน์เตอร์ธนาคาร 9 คดี ปล้นรถขนเงินที่จอดหน้าธนาคาร 1 ครั้ง งัดตู้เอทีเอ็ม 2 ครั้ง และงัดตู้เซฟ

ส่วนธนาคารที่เกิดเหตุอาชญากรรมมากที่สุด ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ 4 คดี กสิกรไทย 4 คดี กรุงไทย 3 คดี นอกนั้นเป็นไทยพาณิชย์ และ ธกส. โดยทำเลที่ถูกปล้นธนาคารมากที่สุดส่วนใหญ่เป็นสาขาในห้างค้าปลีกอย่างเทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี รวม 7 คดี ซึ่งมีจุดอ่อนตรงที่การรักษาความปลอดภัยหละหลวม ต้องพึ่งพา รปภ.ห้างนั้นๆ ดูแล

ในบรรดาคดีปล้นธนาคารทั้งหมดนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว 4 คดี เหตุจูงใจไล่ตั้งแต่ถูกไล่ออกจากงาน ต้องการนำเงินมาใช้จ่าย ติดหนี้ไฮโลและบัคคาราออนไลน์ ชอบเที่ยว ดื่มสุราแล้วเกิดเงินขาดมือ ไม่พอใช้ หรือมีปัญหาขาดเงินผ่อนรถกระบะและใช้หนี้ อย่างไรก็ตาม พบว่ามีอยู่ 2 รายที่เคยถูกคุมขังในเรือนจำมาก่อนด้วย

คดีที่ระทึกขวัญมากที่สุด คือเหตุการณ์ที่คนร้ายประมาณ 15 คน คาดว่าเป็นผู้ก่อความไม่สงบ ใช้รถกระบะ 2 คัน ปล้นรถขนเงินที่จอดอยู่หน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาปาลัส อ.มายอ จ.ปัตตานี ตั้งอยู่ใจกลางชุมชนใหญ่ ระหว่างขนถุงบรรจุเงินสดใส่รถ ได้เงินประมาณ 5 ล้านบาท มีการต่อสู้จนมีผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่ รปภ. 1 ราย และคนร้ายอีก 1 ราย

นอกจากคดีปล้นธนาคารแล้ว ร้านทองถือเป็นอีกเป้าหมายหนึ่งในการก่ออาชญากรรมเพื่อชิงทรัพย์ ผมลองสืบค้นข่าวเก่าอีกครั้ง พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ผมเขียนต้นฉบับ มีคดีปล้นร้านทองแล้ว 5 คดี จับคนร้ายได้แล้ว 3 คดี ส่วนอีก 2 คดียังจับคนร้ายไม่ได้ และวิธีการของคนร้ายมีตั้งแต่ใช้อาวุธปืนจี้ ไปจนถึงการขว้างระเบิด

คดีที่สร้างความสะเทือนขวัญมากที่สุด เกิดขึ้นกับร้านทองภายในห้างสรรพสินค้า เทสโก้ โลตัส สาขาภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2556 คนร้ายได้ทองคำ 106 บาท มูลค่ากว่า 2.3 ล้านบาท แถมยิงลูกค้าที่มาซื้อทองขณะขัดขวางเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จนถึงขณะนี้ตำรวจภูเก็ตก็ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายรายนี้มาได้ แม้จะตั้งค่าหัวสูงถึง 4 แสนบาทก็ตาม

จากสถิติที่กล่าวมา ที่น่าตกใจคือในเดือนพฤษภาคม มีคดีปล้นธนาคารเกิดขึ้นมากถึง 5 คดี และเดือนมิถุนายนเกิดขึ้นแล้ว 4 คดี ขณะที่คดีปล้นร้านทอง เฉพาะเดือนมีนาคมเกิดขึ้น 3 คดี แม้ตัวเลขดูเหมือนจะเล็กน้อยเมื่อเทียบกับคดีจี้ชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์อื่นๆ แต่วัดจากพฤติกรรมถือเป็นการกระทำที่อุกอาจมาก

นอกจากนี้ เราจะเห็นคดีค้ายาบ้าที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ช่วงหนึ่งผมติดหนังสือศาลาคนเศร้า นิตยสารรายเดือนที่รวบรวมบันทึกเกี่ยวกับความรักที่ไม่สมหวังจากผู้อ่านทางบ้าน หนึ่งในนั้นมีคอลัมน์ “เสียงจากคนข้างใน” ซึ่งมีบันทึกจากผู้ต้องขังที่กล่าวถึงชีวิตของตัวเองอยู่ด้วย โดยเฉพาะแฟนหรือคนรักหายไปจากชีวิตในช่วงระหว่างถูกจำคุกในเรือนจำ

ที่น่าสนใจคือ นักโทษที่เขียนบันทึกส่งไปลงตีพิมพ์นั้น ส่วนใหญ่ต้องโทษคดียาเสพติดมากที่สุด นอกนั้นจะมีคดีฉ้อโกงกับฆ่าคนตายเข้ามาบ้าง เมื่ออ่านไปถึงเหตุจูงใจในการค้ายาเสพติด นักโทษส่วนใหญ่มักจะกล่าวว่า ที่ตนค้ายาเสพติดก็เพราะต้องการเงินจำนวนมาก เนื่องจากมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ และอยากให้ตัวเอง รวมทั้งแฟนหรือคนรักสุขสบาย

หากมองกันดีๆ จะเห็นว่ายิ่งมีข่าวลักจี้ชิงปล้นทำนองนี้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่าเป็นยุคข้าวยากหมากแพงเท่านั้น เพราะคนเราเวลาก่อเหตุต่างก็มีแรงจูงใจที่จะกระทำ เช่น อาจเป็นเพราะตกงาน ใช้จ่ายเกินตัวกระทั่งเงินไม่พอใช้ หรือมีหนี้สินล้นพ้นตัวเมื่อหาทางออกไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องไปปล้นไปจี้ แม้จะเสี่ยงกับการติดคุกติดตะรางก็ตาม

หรือจะเป็นเพราะความหย่อนยานในการบังคับใช้กฎหมายและดำเนินคดีผ่านกระบวนการยุติธรรม แม้กฎหมายจะเขียนอัตราโทษสูงสุดเท่าใด แต่หลายครั้งความเมตตากรุณาของศาลโดยหวังที่จะให้โอกาส กลับทำให้ผู้กระทำความผิดขาดความสำนึก และเป็นเยี่ยงอย่างให้ผู้กระทำความผิดคนอื่นๆ เพราะมองว่าเวลาติดคุกจริงก็ไม่นาน เดี๋ยวก็พ้นโทษแล้ว

สิ่งเหล่านี้จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเพียงอย่างเดียวก็ทำไม่ถูก ยิ่งตอนนี้กระแสสังคมต่างไม่แฮปปี้กับการทำงานของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ วันๆ หนึ่งมีแต่ภาพของการตั้งด่านรีดไถ ถูกรายงานในเฟซบุ๊กมีด่านบอกด้วย มากกว่าทำผลงานจับกุมคดีอาชญากรรมเสียอีก ไม่นับรวมภาพของการรับใช้การเมืองของตำรวจหลายนายจนหมดศรัทธา

ผมนึกถึงตำรวจในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นายหนึ่ง เคยถามเขาว่าที่นั่นอันตรายมากไหม เขาตอบผมว่า คงไม่ฟันธงว่าที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้จะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดระเบิดหรือมีเหตุยิงกันทุกที่ ทุกเวลา เมื่อฟังได้ดังนี้ผมมีความรู้สึกว่า แม้จะมีบางสิ่งบางอย่างดูเหมือนไม่มีทางออก แต่บางทีก็มีทางออกเสมอ

ทางออกที่ว่าคือการใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท มีสติ และรู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในยามคับขัน

ถึงเวลาแล้วที่จะต้องอยู่อย่างระมัดระวังในยามเศรษฐกิจฝืดเคือง ผู้คนออกลักจี้ชิงปล้นไม่เว้นแต่ละวัน แม้จะมีตำรวจ หรือกล้องวงจรปิดเป็นตัวช่วย แต่ก็ต้องรู้จักเผื่อใจไว้บ้าง เพราะบางครั้งถึงเวลาคับขันจริงก็ช่วยไม่ได้ ตำรวจงี่เง่า กล้องวงจรปิดเสีย ต้องมานั่งเสียใจที่ไม่ได้ระวังตัวเอง เกิดการสูญเสียอย่างคาดไม่ถึง



กำลังโหลดความคิดเห็น