xs
xsm
sm
md
lg

นิรโทษกรรม เอาจะร่างไหน ประเทศไทยก็แพ้

เผยแพร่:   โดย: พระบาท นามเมือง

ไม่น่าเชื่อว่า การต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ง่ายๆ ด้วยหน้ากากกาย ฟอว์กส์ จากภาพยนตร์เรื่อง V for Vendetta จะส่งผลสะเทือนระดับใหญ่ขนาดที่รัฐบาลและชาวเสื้อแดงยังต้องหนาว แต่ความที่ได้เขียนถึงเรื่องนี้ไปแล้วจึงไม่อยากเล่นซ้ำ นอกจากรายงานข่าวคร่าวๆ ว่า นอกจากพวกรัฐบาลแดงจะกระโดดเป็นถูกเหยียบหาง อ้างกฎหมายมั่วๆ หาทางเอาผิดกับการที่ชาวเน็ตแสดงสัญลักษณ์หน้ากากขาวแล้ว ยังใช้กองทัพไซเบอร์ของฝ่ายแดง เปลี่ยนตัวเองเป็นพวกหน้ากากแดง เข้าโจมตีเพจของฝ่ายประชาชนที่รู้ทันจนโดนปิดเพจไปก็มี เช่น เพจของ คนละหมัด เดอะ ซีรีย์

รวมถึงความพยายามให้พวก “แดงนักวิชาการ” หรือ “แดงนักประวัติศาสตร์” พยายามอ้างประวัติศาสตร์แบบขาดตอน เพื่อเชื่อมโยงทำให้เชื่อว่า หน้ากาก กาย ฟอว์กส์ นี้ คือหน้ากากของพวกล้มเจ้า หวังปลงพระชนม์พระมหากษัตริย์ของอังกฤษ หวังให้คนที่ใช้หน้ากากขาว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นเลิกใช้เสีย

นั่นแสดงให้เห็นว่า การต่อสู้เชิงสัญลักษณ์ด้วยหน้ากากต้านทรราชย์นั้นทรงพลังแค่ไหน ด้วยหลักพิจารณาง่ายๆ คือ ถ้ายาไม่แรงพอ พญาธิไม่ดิ้น นี่ก็เห็นแล้วว่าดิ้นกันตั้งแต่ระดับอำนาจรัฐ พวกแก๊งแดงตามแห่ และแดงวิชาการ

หรือเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวชุมนุมหน้ากากขาวที่ออกมาจากโลกไซเบอร์ มาแสดงพลังเป็นตัวตนให้เห็นนับเป็นพันๆ ที่ย่านราชประสงค์จนถึงปทุมวัน ก็ได้รับการต้อนรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ร้อนถึงพวกแดงต้องรีบแก้เกมด่วนๆ เกณฑ์กำลัง “หน้ากากแดง” ออกมายืนเคารพธงชาติกันสักสิบกว่าคนเพื่อแก้เกี้ยว เรียกได้ว่า ขุมพลังทุกขุมของฝ่ายแดงรวมกำลังกันต้านปรากฏการณ์หน้ากากนี้

เป้าหมายสำคัญของหน้ากากขาว คือการป้องกันการยึดอำนาจครองประเทศด้วยเผด็จการทุนและกองกำลังฝูงชนในอาณัติ เรื่องที่เราจะต้องเฝ้าระวังเพราะถือว่าเป็นเป้าหมายสำคัญของคนกลุ่มนี้ คือ “กฎหมายฟอกผิด” ไม่ว่าจะเรียกชื่อว่า “กฎหมายนิรโทษกรรม” หรือ “กฎหมายปรองดอง” ใดๆ ก็ตาม

ท่านที่ติดตามข่าวการเมืองคงรู้ว่า ร่างกฎหมายฟอกผิดนี้ มีสองร่างใหญ่ๆ คือ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของ นายวรชัย เหมะ อันนี้เราไม่รับร่างเละๆ เพี้ยนๆ อื่นๆ ที่ตกไปแล้ว หรือไม่มีวันทำได้จริง เช่น ของนิติราษฎร์ที่พวกเล่นของสูงให้แก้เป็นการนิรโทษกรรมในระดับรัฐธรรมนูญกันเลย

สาระสำคัญของร่างกฎหมายล้างผิดแบบเหลิมๆ มีสาระสำคัญหลักๆ คือ การนิรโทษกรรมให้ทุกฝ่าย นอกจากฝ่ายผู้ชุมนุมเสื้อแดงแล้ว ยังรวมไปถึงกลุ่มพันธมิตรฯ และแกนนำ และรวมไปจนถึงฝ่ายก่อการทั้งฝ่ายแดงที่เผาอาคาร ทรัพย์สิน และสถานที่ราชการ รวมถึงฝ่ายรัฐบาลเดิมกับฝ่ายทหารที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อยและกระชับพื้นที่ครั้งใหญ่ในช่วงเมษาถึงพฤษภา 53

แต่ที่แสบกว่านั้น คือ ร่างของเฉลิมนี้ อยู่ในมาตรา 4 ที่ว่า “บรรดาการกล่าวหาการกระทำความผิดบุคคลใดๆ ที่เกิดจากคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งได้ยึดอำนาจการปกครองแผ่นดินเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ฯลฯ ไม่ว่าเป็นการกล่าวหาในข้อหาใด ให้ถือว่าเป็นการกล่าวหาในความผิดทางการเมือง และให้การกล่าวหาการกระทำความผิดนั้นเป็นอันระงับไป โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เป็นผู้กระทำความผิด”

อันนี้ใครอ่านภาษาไทยออก อ่านแล้วก็เข้าใจได้ทันทีว่าหมายถึงอะไร นั่นคือกระบวนการยุติธรรมที่ได้ดำเนินต่อทักษิณกับพวกหลังการปฏิวัติ 19 กันยา 2549 เป็นอันระงับ และถือว่า “ผู้นั้นมิได้เป็นผู้กระทำความผิด”

เรียกว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้มาฉบับเดียว ล้างไปได้หมด ไม่ว่าจะเป็นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเพื่อไทย พรรคอะไหล่ และพรรคร่วมอุดมการณ์อื่น คำพิพากษาศาลฎีกาลงโทษในความผิดคดีให้เมียซื้อที่ดินรัชดาฯ คำพิพากษาศาลฎีกาให้ยึดทรัพย์ เรียกว่า นอกจากจะไม่เอาผิดแล้วยังคืนเงินด้วย หลายคนอ่านแล้วส่ายหัวว่า ไม่สั่งว่าให้จ่ายดอกเบี้ยช่วงที่ยึดหรืออายัดทรัพย์ด้วยก็เมตตากับกระบวนยุติธรรมเท่าไรแล้ว

แม้แต่เสื้อแดงส่วนหนึ่งที่ยังมีความคิดมีสติปัญญาหรืออุดมการณ์อยู่ ก็ร้องยี้กับร่างนี้ เพราะความที่นิรโทษกรรมให้กับทหารและรัฐบาลเก่าด้วย ซึ่งพวกเขาเชื่อว่า ถ้าต่อสู้คดีกันแล้ว มีทางที่จะเอาผิด หรือให้ทหารและรัฐบาลเก่าถูกลงโทษได้ ยิ่งฮือฮากันเข้าไปใหญ่เมื่อศาลอาญามีคำสั่งว่า ฟาบิโอ โปเลงกี้ เสียชีวิตเพราะกระสุนจากแนวทหาร ก็ยิ่งไชโยโห่หิ้ว ว่าคราวนี้ละมึง จะเอาฆาตกรมาลงโทษได้แน่ๆ ทั้งที่จริงๆ ศาลท่านสั่งว่า “กระสุนมาจากแนวทหาร” นะครับ ไม่ได้บอกว่าทหารยิงหรือใครยิง แต่พอเสื้อแดงเอาไปเล่าต่อ ไหงกลายเป็นเรื่องว่า “ศาลสั่งว่าทหารยิง” ไปเสียก็มิทราบ จนกระทั่งอธิบดีศาลอาญาท่านต้องออกมาเตือนว่า การเอาคำพิพากษาของศาลไปบิดเบือนขยายผล ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล

เพราะเชื่อกันอย่างนี้ ทำให้เสื้อแดงกลุ่มที่ว่านี้เห็นว่า ถ้า “สู้สุดซอย” ก็ชนะขาดเลยก็ได้ ก็เลยจะสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ ส.ส.วรชัย เหมะ เสียมากกว่า เพราะเป็นการนิรโทษกรรมเฉพาะฝ่ายผู้ชุมนุม ไม่รวมแกนนำ และผู้สั่งการ

สำหรับกลุ่มเสื้อแดงแล้ว จะร่างไหน ก็ชนะทั้งนั้น ชนะมาก ชนะน้อย ชนะเสร็จเด็ดขาด ชนะแบบได้ทั้งเงินทั้งเอาฝ่ายตรงข้ามไปลงโทษ ชนะแบบได้ค่าทดแทนการเจ็บการตาย หรือชนะแบบเจ๊าๆ ไม่มีคืนเงิน หรือชนะแบบเจ๊าแต่คืนเงิน สำหรับเสื้อแดงและเครือข่ายทักษิณแล้ว “ชนะ” ทั้งนั้น ทุกประตู

แต่สำหรับประเทศชาติและกระบวนยุติธรรมล่ะครับ มีแต่แพ้ครับ

คำพิพากษาและการพิจารณาของศาลที่ยาวนาน ด้วยพยานหลักฐานนับพันนับหมื่น ใช้งบประมาณแผ่นดินไปมากมายเพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ จะถูกเป่าหายวับไปด้วยกฎหมายเพียง 5 บรรทัด 7 บรรทัด

การเช็กบิลผู้เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ซึ่งไม่รู้ว่าจะไปสุดที่ไหน เพราะเสื้อแดงบางกลุ่มเช่น กวป.ก็พยายามจะโยงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางท่านเข้าไปในกลุ่มผู้ร่วมก่อการรัฐประหารด้วย

หลักนิติรัฐจะเป็นอย่างไร ถ้าผู้ใดชิงอำนาจเด็ดขาดมาได้ ก็สามารถกำหนดกฎหมายอะไรก็ได้ เพื่อประโยชน์แก่ตนเอง

และการนิรโทษกรรมผู้ชุมนุมที่ก่อความลำบากเดือดร้อน ทั้งทำลายเศรษฐกิจ ทำลายทรัพย์สินทั้งของเอกชนและทางราชการ ทำลายชีวิตและครอบครัวคนหากินสุจริตชนมากมาย จะกลายเป็นบรรทัดฐานต่อไปว่า การสร้าง “กองทัพส่วนตัว” นั้นทำได้ แม้จะถูกจับดำเนินคดี แต่ถ้าวันใดที่คุณสามารถยึดและเอาชนะ ครอบครองอำนาจรัฐได้ คุณก็สามารถออกกฎหมายมา “ปล่อย” กองกำลังที่คุณสร้าง ไพร่พลทั้งหลายที่เป็นมือเป็นเท้าออกจากคุกได้ แถมค่าทดแทนค่าป่วยการให้ด้วย

มันน่ากลัวยิ่งกว่าการทำให้รัฐประหารชอบธรรมเป็นไหนๆ และการสร้าง “กองกำลังประชาชน” ก่อความวุ่นวาย ทำลายอำนาจการปกครอง และนำไปสู่การยึดอำนาจรัฐด้วยกลไกรัฐสภาและการเลือกตั้งแบบบิดเบี้ยวรูปแบบนี้

มันจะไปสุดที่จุดไหนก็ไม่รู้นะครับ

นี่คือสิ่งที่ชาวหน้ากากขาว และคนไทยที่รักชาติรักแผ่นดินทุกคนที่ตระหนักและยังไม่อยากเห็นประเทศเปลี่ยนโฉมพลิกหน้าไป จะต้องคอยระวังและจับตาให้ดี!
กำลังโหลดความคิดเห็น