xs
xsm
sm
md
lg

พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ ทนายหน้าหอ ปตท.

เผยแพร่:   โดย: บัณรส บัวคลี่

ส.ว.รสนา โตสิตระกูล อัพสเตตัสเฟซบุ๊กเมื่อวันเสาร์พูดถึงนักวิชาการสีแดงที่ชื่อว่า พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ ที่เวลานี้กำลังแก้ต่างเรื่องพลังงานเสมือนเป็นทนายหน้าหอให้กับ ปตท. มีความส่วนหนึ่งดังนี้

“มีคนส่งคลิปรายการ"ผ่าแหลก" ที่พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ ....ออกรายการร่วมกับพิธีกรคนหนึ่ง และพูดเอ่ยอ้างถึงดิฉันโดยตรง เพื่อตอบโต้ข้อมูลสัมปทานปิโตรเลียมที่ทางกรรมาธิการวุฒิสภาได้ศึกษาตรวจสอบ และเผยแพร่ให้สาธารณชนที่จริงดิฉันไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจกับกลุ่มทนายหน้าหอเหล่านี้ก็ได้ เพราะกระทรวงพลังงานไม่กล้าออกมาดีเบตในที่สาธารณะที่เปิดโอกาสให้คนที่มีความข้องใจในข้อมูลของกระทรวงพลังงานได้มีโอกาสซักถามอย่างเปิดเผย คงทำได้แต่อุปโลกน์ใครต่อใครมาเป็นนักวิชาการ มาโต้แย้งแทนตัวเองเพื่อดิสเครดิตคนที่ให้ข้อมูลในด้านที่ก.พลังงานไม่เคยยอมเปิดเผย................คุณพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ช่วยตอบหน่อยได้ไหมว่าที่มาออกรายการ"ผ่าแหลก " วิจารณ์เรื่องพลังงานเป็นตุเป็นตะ รวมไปถึงวิจารณ์พาดพิงดิฉันนั้น ท่านได้ค่าจ้างจัดรายการเท่าไหร่ หรือมีก.พลังงานหรือบริษัทธุรกิจพลังงานใดเป็นสปอนเซอร์หรือไม่จะได้ทราบว่ามาพูดโดยอาสาสมัคร หรือเป็นงานจ้างคะ”

กรณีการออกมาเป็นทนายหน้าหอแก้ต่างเรื่องพลังงานของ พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ ด็อกเตอร์ทางเศรษฐศาสตร์ประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียว เพราะเป็นที่รับรู้กันมาก่อนแล้วว่านักวิชาการคนนี้สีแดงเข้มเขียนวิพากษ์วิจารณ์การเมืองเชียร์พรรคเพื่อไทยและเสื้อแดงมาโดยตลอด มาระยะหลังเขียนบทความว่าด้วยพลังงาน 3 ตอนรวดและยังออกทีวีดาวเทียมช่องเสื้อแดงตอบโต้ข้อมูลของทีมงาน ส.ว.รสนาโดยเฉพาะ

ด็อกเตอร์แดงคนนี้ออกมาปกป้องปตท.ตั้งแต่เดือนมีนาคม สังเกตว่าเขาชูธงพลังงานแบบแดงๆ พร้อมกันทั้งการเขียนบทความเรื่อง การเมืองว่าด้วย “พลังงานไทย”หลายตอน โดยตอนที่1: ขบวนการ “สามทวงคืน” ของพันธมิตรเสื้อเหลืองตีพิมพ์ในโลกวันนี้วันสุข 15 มีนาคม 2556 อีกทางหนึ่งก็ไปออกทีวีดาวเทียมแดงช่อง P&P รายการผ่าแหลกวันที่15 มีนาคมพร้อมกับวันที่บทความตีพิมพ์ (ไปหาดูเอาเองนะครับในประชาไทก็มี)

ฟังดูแล้วชัดเจนว่าขบวนการคนเสื้อแดงเกิดความวิตกกังวลต่อการเคลื่อนไหวของขบวนการทวงคืนปตท.ที่กำลังเติบโตในโซเชี่ยลมีเดีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีกลุ่มคนเสื้อแดงบางกลุ่มที่เข้าร่วมและเห็นด้วยกับปัญหาพลังงานในแนวทางเดียวกับกลุ่มของส.ว.รสนา บทความของพิชิตชิ้นแรก และการออกทีวีก็เพื่อบอกคนเสื้อแดงไม่ให้เข้าร่วมในการรณรงค์ด้านพลังงานเพราะฝ่ายดังกล่าวเป็นเสื้อเหลือง

พิชิตย้ำว่า สิ่งแรกที่ต้องรู้ก่อนคือ “กลุ่มนี้ไม่ใช่ขบวนการทวงคืนปตท.ธรรมดาแต่เป็นขบวนการทางการเมือง โดยย้ำว่าเป็นพวกเหลืองพันธมิตรฯ อย่าได้เผลอเข้าร่วม” ฮา ๆ สิ่งที่พิชิตไม่ได้บอกก็คงหมายว่าให้เสื้อแดงเข้าร่วมกับปตท. และเชื่อข้อมูลของกระทรวงพลังงานเพราะฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายประชาธิปไตยใช่ไหม ? ถ้าเป็นแบบนั้นตรรกะของเขาก็วิบัติเหลือทน

ต่อจากนั้นพิชิตก็สวมบทบาทตัวแทนของปตท.และกระทรวงพลังงานนำเสนอตอบโต้ฝ่ายรณรงค์ด้านพลังงานต่อเนื่องจนมีเทปรายการครั้งที่สองและสามตามมาเป็นผลให้ส.ว.รสนา ต้องเปิดเฟซบุ้คงัดข้อมูลมาตอบโต้รายการผ่าแหลกจนถึงล่าสุด

ไม่ได้ตามไปฟังดูทุกเทปหรอกนะครับ แค่อ่านบทความสามตอนแล้วก็คลิปแรกๆ ก็ไม่อยากทนฟังแล้วโดยสรุปคือฟังดูแล้วก็สมควรแล้วที่เป็นด๊อกเตอร์แดงหัวชนฝา นั่นคือ พอจะมีฐานความรู้พอจะเข้าใจข้อมูลเนื้อหาที่ซับซ้อนของการพลังงานอยู่บ้างและก็มีกลวิธีแยบคายที่จะเลือกนำเสนอข้อมูลมาตอบโต้แต่ก็หัวชนฝายึดมั่นถือมั่นกับสังคมเทพ-มาร ถ้าพวกตัวทำถูกไปหมดเป็นธรรมทั้งสิ้นอีกฝ่ายทำก็ไม่ถูกไปทั้งสิ้น

อยากให้ไปดูรายละเอียดการโต้กันดูข้อมูลจริงที่หน้าวอลล์คุณรสนากันเองนะครับมันเยอะ แต่ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดจากการตามอ่านตามดูก็คือได้เห็นความเป็นพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์มากขึ้น...พิชิตก็ยังเป็นได้แค่ทนายหน้าหอคอยแก้ต่างให้กับปตท.+กระทรวงพลังงานเท่านั้น ยังไม่ก้าวข้ามไปสู่การทำความเข้าใจปัญหาพลังงานเพื่อให้ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์สูงสุด

ย้ำอีกครั้งก็ได้ ! พิชิตก็แค่ทนายหน้าหอคอยแก้ต่างให้กับปตท.เท่านั้น ยังไม่ก้าวไปถึงขั้นนักวิชาการที่ทำความเข้าใจปัญหาพลังงานเพื่อให้ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์สูงสุด

โอเคล่ะ!คนที่เรียนถึงด๊อกเตอร์เป็นอาจารย์สอนในสถาบันมีชื่อเสียงย่อมมีความรู้พื้นฐานมีระบบคิดพอจะทำความเข้าใจเรื่องยากๆแบบเรื่องพลังงานแต่สายตาที่มองเข้าไปนั้นหากยังมืดมัวอยู่กับการจะหาช่องมาโต้มาเอาชนะแถมยังเติมอคติลงไป ด้วยสายตาพร่ามัวเช่นนั้นย่อมยากจะเข้าใจซึ้งถึงการเรียนรู้ศึกษาเรื่องราวเพื่อประโยชน์ของสังคมที่แท้จริง

หากพิชิตมีความคิดพื้นฐานว่าฝ่ายที่เป็นปตท.เป็นกระทรวงพลังงานคือฝ่ายประชาธิปไตย และฝ่ายที่กำลังรณรงค์ทวงคืน-รณรงค์ให้เกิดนโยบายพลังงานที่เป็นธรรมต้องเป็นฝ่ายเผด็จการตามกรอบคิดสำเร็จรูปแยกฝ่ายสังคมเป็นเทพ-มารสั่วๆ ที่ฝังหัวมาโดยตลอด เมื่อนั้นพิชิตก็ไม่ไปไหนเขาจะหลงอยู่กับข้อมูลตัวเลขโต้วาทีและก็เชื่อเป็นตุเป็นตะว่านี่คือสัจธรรมด้านพลังงานที่ ปตท.พูดอะไรมาย่อมเป็นจริงตามนั้น

คนที่เป็นนักวิชาการเพื่อประชาชนนั้นต้องเอาเอาความรู้ทางวิชาการของตนมารับใช้ชาติประชาชนและสังคมโดยรวม

ถามว่า พิชิตเป็นนักวิชาการประเภทนั้นจริงหรือ ? หรือทึกทักตัวเองว่าเป็น ?

พิชิตเขียนในบทความการเมืองว่าด้วยพลังงานไทยตอนที่ 1 ว่า “คนพวก (พันธมิตรและเครือข่ายทวงคืนพลังงาน) นี้อาศัยความสลับซับซ้อนของธุรกิจพลังงาน บวกกับความผิดพลาดในนโยบายพลังงานและภาษีของรัฐบาลไทยที่ตกทอดกันมาตั้งแต่ยุค 2520 ถึงปัจจุบัน ใช้เป็นจุดอ่อนในการโจมตีและบิดเบือนความจริง”

อ้าว !! ในเมื่อด๊อกเตอร์ทางเศรษฐศาสตร์สถาบันใหญ่ของประเทศผู้แหลมคมมองเห็นว่า มีความผิดพลาดในนโยบายพลังงานและภาษีของรัฐบาลไทยที่ตกทอดกันมาตั้งแต่ยุค 2520 ถึงปัจจุบันตามที่เขียนในฐานะนักวิชาการที่ก้าวหน้ารักประชาธิปไตยได้นำเสนอข้อผิดพลาดดังกล่าวนั้นต่อรัฐบาลเพื่อให้มีการแก้ไขให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุดหรือไม่ อย่างไร?

ปรากฏว่าก็แค่เป็นประโยคลอยๆ เอาไว้กล่าวหาฝ่ายตรงกันข้ามแล้วก็เงียบหายไปเฉยๆ ไม่ปรากฏในเทปหรือบทความอื่นใดหลังจากนั้น...ทั้งๆ ที่หากว่ารัฐบาลนี้ซึ่งเป็นพวกสีแดงด้วยกันได้แก้ไขความผิดพลาดต่อเนื่องจากปี 2520 มาถึงปัจจุบันจริง ก็ไม่แน่ว่าประชาชน (ที่มีคนเสื้อแดงเป็นคนส่วนใหญ่) จะได้ประโยชน์จากราคาพลังงานที่เป็นธรรม

อะไรล่ะครับความผิดพลาดที่ว่า ?

ได้นำเสนอออกมาให้รัฐรู้เพื่อประชาชนคนเสื้อแดงได้ประโยชน์รึยังครับ ?

หรือแค่พูดลอยๆเอาไว้ตอบโต้คุณรสนากล่าวหาพันธมิตรแล้วก็อมพะนำต่อเพราะหากแก้แล้วจะมีผลต่อรัฐบาลกระเทือน ปตท. ?

วิธีการแบบเดียวกันนี้พิชิตก็เอามาใช้อีกในบทความตอนที่ 2 พารากราฟสุดท้ายโดยเขียนว่า “ส่วนความจริงที่ว่า ราคาน้ำมันบางชนิดในประเทศไทยมีราคาแพงเพราะนโยบายบิดเบือนราคาของรัฐบาลนั้น ก็เป็นความจริง ซึ่งก็ต้องวิจารณ์กันบนข้อเท็จจริง ไม่ใช่บนนิยายที่แต่งขึ้นมาหลอกกันเอง”

ผมอยากได้ยินพิชิตอธิบายความที่ว่า “ราคาน้ำมันบางชนิดในประเทศไทยมีราคาแพงเพราะนโยบายบิดเบือนราคาของรัฐบาล” ในรายการผ่าแหลก เพื่อให้พี่น้องเสื้อแดงที่ตามรับฟังได้เข้าใจ อะไรคือนโยบายที่บิดเบือน อย่าบอกนะว่า มีนโยบายบิดเบือนให้ถูกลง เพราะเบนซิน 95 ที่มันแพงลิ่วมาโดยตลอดในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นกำไรที่ไม่ควรได้ของปตท. นั้นก็มาจากนโยบายบิดเบือนเช่นเดียวกัน

นักวิชาการขวัญใจไพร่ ทำเพื่อคนส่วนใหญ่ของสังคมชื่อพิชิต เคยลงรายละเอียดพูดเรื่องนี้บ้างมั้ยในรายการผ่าแหลก หรือในบทความว่าด้วยพลังงานชิ้นอื่น

หรือแค่กล่าวลอยๆ ให้ตัวเองดูดี แค่พูดขึ้นมาไว้กล่าวหาผู้อื่นแล้วก็อมพะนำต่อไปเฉยๆ เพราะมันกระเทือนกับปตท.โดยตรงหรือเปล่า?

ถ้าไม่เคยนำเสนอสิ่งเหล่านี้เลยก็สมควรแล้วล่ะครับที่คุณรสนาเรียกว่าทนายหน้าหอ เพราะแค่ทำหน้าที่เอาข้อมูลอีกด้านมาเถียงแทน แล้วก็ใช่ว่าจะถูกต้องนะ ผมฟังเทปรายการผ่าแหลกที่พิชิตบอกว่า “ปตท.เมื่อก่อนเป็นรัฐวิสาหกิจชื่อการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยที่มีป๊มน้ำมันตราสามทหารแล้วมาแปรรูปในปี 2544” มันผิดนะครับ (นาทีที่44.30)

ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจ เป็นการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยจริง แต่ไม่ใช่ปั๊มตราสามทหารนะครับ มันคนละยุคกัน ปั๊มสามทหารเกิดก่อนการตราพรบ.การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2521 ครับ ปตท.เกิดได้เพราะยุบรวมหน่วยงานหลายหน่วยแล้วก็มีโลโก้ใหม่เค้าไม่ใช้ตราสามทหารที่เป็นขององค์การเชื้อเพลิง - -โปรดเข้าใจตามนั้น เสียชื่อด๊อกเตอร์กูรูด้านพลังงานหมด

เอาล่ะ ! โดยรวมมันก็ดีนะที่มีตัวแทนข้อมูลของรัฐบาล กระทรวงพลังงาน หรือปตท.ออกสื่อมาโต้เถียงกับทีมงานส.ว.รสนา เพราะยิ่งเถียงจะยิ่งรู้เช่นเห็นชาติว่าฝ่ายใดทำเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่จริง ฝ่ายไหนแค่เล่นลิ้นปกป้องประโยชน์ให้ทุนสามานย์ขาดธรรมาภิบาล

สังคมที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้นไม่ใช่แค่มีรัฐบาลจากเลือกตั้งเท่านั้นนะด็อกเตอร์ สังคมประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องเป็นสังคมแบบเปิดไม่มีการปิดบังข้อมูล มีความเป็นธรรมในการบริหารกิจการอย่างที่ท่านปรีดีท่านพูดไว้ว่าต้องมีความเป็นประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจด้วย

ดีครับ เชิญทนายหน้าหอเขียนและพูดเรื่องพลังงานต่อไปเถอะครับ ยิ่งเขียนยิ่งพูดประชาชนจะได้ประโยชน์ จะได้เห็นชัดยิ่งขึ้นว่าใครฝ่ายไหนทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมจริงกันแน่ !
กำลังโหลดความคิดเห็น