xs
xsm
sm
md
lg

ส่องชาวบ้านผ่านอินสตาแกรม

เผยแพร่:   โดย: ดรงค์ ฤทธิปัญญา

"เทคโนโลยีนี่มันดีจริงๆ ทำให้เราได้เห็นโลกแคบลง และสดใหม่ขึ้น" ... อันนี้ไม่ใช่วรรคทองของใคร ผมกล่าวเอง

ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบเล่น อินสตาแกรม ตอนที่เริ่มให้สาวกแอนดรอยด์ได้ใช้งานกันนี่ทำให้ผมถึงกับตะบี้ตะบันถ่ายรูปโชว์กันจนสนุกเลย ยิ่งได้เห็นสมาชิก ทั้งเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่รู้จักกันในโลกแห่งความเป็นจริง รวมทั้งผู้ที่ไม่เคยรู้จักกันแต่แอบย่องมาดูภาพตามที่เราแท็กไว้มากดไลค์นี่ ทำให้เรายิ่งสนุกกับมันไปใหญ่ ... (อันนี้ยอมรับว่าช่วงหนึ่งติดเลยล่ะ)
แอพพลิเคชันอินสตาแกรมในโทรศัพท์มือถือ
สำหรับคนที่ไม่เข้าใจว่าผมกำลังพูดอะไร ก็คงจะต้องขออธิบายสักหน่อยว่า ไอ้เจ้าอินสตาแกรมนี้มันคือแอพพลิเคชันหนึ่งในโทรศัพท์มือถือ ถูกคิดค้นขึ้นมาโดย นายเควิน ซิสตรอม และ นายไมเคิล ไมค์ ครีเกอร์ ชาวอเมริกัน เมื่อราวปี 2553 ได้เปิดตัวบน คลังสินค้าแอพพลิเคชัน ในมือถือและอุปกรณ์สื่อสารค่ายแอปเปิล ก่อนที่จะให้บริการในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เมื่อปี 2555 และต่อมาได้ถูกบริษัทเฟซบุ๊ก โดย นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กชื่อดังซื้อกิจการในราคา 1 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.2 หมื่นล้านบาท

ซึ่งไอ้เจ้าอินสตาแกรมนี้ ทำให้เราได้ โชว์ภาพ ต่างๆ ที่เราถ่ายมาสู่สาธารณะชนทั่วโลก โดยการถ่ายภาพแล้วอัปโหลดลงบนแอพพลิเคชั่นดังกล่าว รูปของเราก็จะเข้าไปในหน้าบล็อกอินสตาแกรมของเรา เมื่อสมาชิกซึ่งได้กด ฟอลโลว์ คือตามติดความเคลื่อนไหวของเราเห็นรูป ถ้ารู้สึกว่าชื่นชอบ ก็จะกด รูปหัวใจ หรือแสดงความคิดเห็นได้

ทั้งนี้เราสามารถตั้งค่าบล็อกดังกล่าวให้เป็นส่วนตัว คือเฉพาะคนที่เป็นเพื่อนมาดูได้ กับปล่อยให้เป็นสาธารณะ คือใครสามารถมาดู มาแสดงความคิดเห็นหรือกดชื่นชอบก็ได้ ซึ่งในแบบที่ 2 นี้จะเสี่ยงต่อพวกที่ชอบเข้ามาโฆษณาขายสินค้า หรือหลอกลวงให้เข้าไปกดติดตามบล็อกของเขาเพื่อแลกกับเงิน

แต่ก็ใช่ว่า ถึงแม้จะตั้งค่าแล้วก็จะป้องกันไอ้คนพวกนี้ได้ เพราะถ้าเราได้ติดแท็กอธิบายในรูปนั้น พวกจอมป่วน ก็ยังคงตามมาได้อยู่ดี พูดกันตรงๆ มันก็เป็นแอพพลิเคชันหนึ่งที่ ไม่มีความเป็นส่วนตัว เสียเลย ยิ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ทางเจ้าของผลิตภัณฑ์ยังจะออกกฎให้สามารถนำรูปของสมาชิกไปขายได้อีกด้วยนี่ ทำเอาคนทั้งโลกด่ากันขรม ก่อนที่จะมาแก้ตัวทีหลังว่า ไม่ใช่ไม่ใช่

พูดถึงการติด "แท็ก (Tag)" แล้วก็ต้องอธิบายกันเพิ่มเสียหน่อย สมาชิกส่วนมากเมื่อถ่ายรูปแล้วก็มักจะติดแท็กให้ชาวบ้านได้รับรู้ ในสถานที่ สิ่งของ กิจกรรม รวมไปถึงอารมณ์ของผู้ถ่ายในเวลานั้นด้วย ซึ่งเราสามารถค้นหาหรือดูรูปต่างๆผ่านแท็กในสิ่งๆ นั้น เช่น อยากจะดูรูปเกี่ยวกับ "อาหารไทย" ก็พิมพ์ค้นหาว่า "Thaifood" ก็จะเจอบรรดารูปต่างๆ ที่ชาวสมาชิกได้ถ่ายมาแล้วติดแท็กในข้อความนั้น รูปที่ส่งมาส่วนใหญ่จะค่อนข้างสด และใหม่มากๆ เพราะหลายคนก็ถ่ายรูปปั๊บแล้วอัปขึ้นปุ๊บ บ้างก็เอารูปจากในกล้องที่ไม่ใช่โทรศัพท์มาลงก็มี

ผมชอบไปดูตามแท็กต่างๆ ที่ผมสนใจ เช่น เรื่องอาหารแต่ละชนิด อย่างอาหารไทย ของหวานไทย บะหมี่ อาหารจีน ควบ ญี่ปุ่น (!?) เวลาเข้าไปดูก็จะได้เห็น ก๋วยเตี๋ยว ขนมไทย ข้าวแกง ผัดกะเพรา ผัดไทย ฯลฯ และก็บ่อยครั้งที่มักจะได้เจออะไรที่ไม่ได้เกี่ยวกันเลยกับหัวข้อนั้นๆ

ช่วงแรกดาราในบ้านเรานี่ก็ฮิตกันมากครับ ไปไหนมาไหนก็ถ่าย ไปถ่ายแบบ กินข้าว เข้ากองถ่าย เล่นกับหมา แม้กระทั่งจะทำฟันก็ยังถ่าย ซึ่งนั้นเป็นเรื่องดีของมนุษย์ชอบสาระแนเรื่องดารามากๆ (ผมก็เป็นในเวลานั้น) ที่ได้เห็นไลฟ์สไตล์ของพวกเขาแบบจริงๆ ที่ปราศจากการสร้างภาพ

จนผมนึกย้อนไปถึงวิวัฒนาการ แห่งแฟนคลับดาราที่สมัยก่อนกว่าจะได้ดูรูปคนที่ตัวเองชอบสักที่ก็ต้องตามนิตยสารรายปักษ์ รายเดือนโน้น พอมา พ.ศ.นี้สบายเลย ได้เห็นตลอด 24 ชั่วโมง แถมยังสามารถชื่นชม พูดคุยกับคนที่ตัวเองโปรดปรานโดยไม่ต้องผ่านการเขียนจดหมายอีกด้วยนะ ......
เนย วงเนโกะจัมพ์ นักร้องค่ายอาร์เอส ในอิริยาบถแบบสบายๆ ไปซื้อของที่ห้าง จากอินสตาแกรม @butter_neko
ต่อมาก็เริ่มดาราบางคนเริ่มเห็นว่า เฮ้ย นี่มันช่องทางทำเงินได้เลยนี่หว่า เลยอาศัยแอพฯ นี้ นอกจากจะโปรโมทละคร หนัง เพลงของตัวเอง ก็เพิ่มโฆษณาแฝง เช่น สินค้าบางชนิด อย่างปรากฏการณ์ไอศกรีม "แม็กนั่ม" นี่ก็ทำให้ชาวบ้าน ชาวช่องแห่ไปหามากินกัน ที่มาก็มาจากอันนี้เลย ไหนจะเป็นผู้นำเทรนด์ใหม่ สินค้าใหม่ อย่าง ล่าสุดนี่ "ตุ๊กตาเฟอร์บี้" ก็กำลังฮิตในหมู่ดารา ทำเอาผู้ค้าต้องระดมนำเข้ามาจากต่างประเทศกันให้เพียบ ... อย่างบางคนก็ช่วยแนะนำกิจการของเพื่อน ของพรรคพวกตัวเอง ก็มี ... บางคนนี่เอาเสื้อผ้าของตัวเองที่มีอยู่เยอะแยะในตู้มาเปิดร้านขายเสื้อผ้ามือ 2 ด้วย ใช้ตัวเองเป็นแบบเลย โอ้ ไอเดียเริ่ดแท้ๆ ... รวยกันเป็นแถบ
ชมพู่ อารยา นักแสดงชื่อดัง กับตุ๊กตาเฟอร์บี้ที่กำลังฮิต จากอินสตาแกรม @chomismaterialgirl
แต่ส่วนตัวแล้ว ความรู้สึกของคนที่ติดตามนี่บางทีก็รู้สึกเบื่อหน่ายเหมือนกัน ที่เราจะต้องมาดูโฆษณา (แบบไม่เนียน) ที่เขาพยายามยัดเหยียดมาให้เราดู ทั้งๆ ที่ จริงๆ แล้ว เราอยากเห็นเพียงการใช้ชีวิตของเขาเท่านั้น

วิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือ .... เลิกติดตามชีวิตเขาครับ

แต่ถามว่า ตอนนี้ผมยังฟอลโลว์ พวกเขาอยู่ไหม ก็ยังคงติดตามอยู่บ้าง เพราะบางคนเขาเจ๋งจริงๆ รูปถ่ายแต่ละรูป เราก็เข้าใจว่าผ่านการตกแต่งด้วยโปรแกรมมาแล้ว แต่มันก็ได้เห็นมุมมองของเขาดีทีเดียว เช่น ภาพวิว ภาพสถานที่ต่างๆ
พระที่นั่งอนันตสมาคม ที่ถ่ายโดยบุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ นักร้อง จากอิสตาแกรม @burinbunvisut
ประโยชน์ของอินสตาแกรมสำหรับดารานอกจากที่ว่ามาแล้ว ตอนนี้ยังสามารถสร้าง และ ชี้แจงข่าวได้ด้วย ... คนเป็นนักข่าวสายบันเทิงนี่ในปัจจุบันต้องตามดูยิ่งกว่าแฟนคลับ ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งในการทำงานเลยล่ะ อย่างวันดีคืนนี้ เขาอาจจะอัพรูปรถโดนชน ของหาย คั่วเพศตรงข้าม หรือบ่นระบายความในใจ จนเป็นข่าวได้ง่ายๆ เลยทีเดียว ผมเห็นบางคนก็ชอบที่จะแชร์เรื่องของชาวบ้านด้วย ในที่นี้หมายถึงพวก รูปตามหาคนหาย ช่วยบริจาคโลหิต นี่ก็มีให้เห็นบ่อยๆ ซึ่งเชื่อไหมว่าแรงกระแสการบอกกล่าวของเขาเหล่านั้นสามารถตอบสนองให้คนๆ นั้น ได้รับการบริจาคด้วย ^ ^

กลับมาที่เรื่องของผมดีกว่า อย่างช่วงหนึ่งผมเคยตามดูแท็กคำว่า "Bangkok" ผมได้เห็นบางมุมที่ไม่ได้มองของกรุงเทพฯ เยอะเลยทีเดียว ทั้งในมุมของคนไทยด้วยกัน ที่บ้างก็เป็นสิ่งที่เราเคยเห็นในชีวิต แต่เราไม่ได้สนใจ ไม่ได้ใส่ใจ เช่น ภาพถ่ายอาคารที่ทำงานของตัวเอง ภาพของเมืองยามตะวันตกดิน ภาพรถติดในตอนเช้า หรืออย่างในมุมมองของต่างชาติ ที่มาเที่ยวหรือมาอาศัย
สี่แยกอโศก ถ่ายโดยชาวต่างชาติระหว่างการมาเที่ยวกรุงเทพ
อย่างผมเคยเจอสมาชิกชาวรัสเซียถ่ายรูปนักศึกษานุ่งสั้น แล้วก็พิมพ์เป็นภาษาชาติเขาว่า นักเรียน!! (ผมไม่ได้เก่งภาษารัสเซียนนะ แค่ใช้อากู๋ช่วยเท่านั้นเอง) ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ผมนำมาวิพากษ์กับเพื่อนๆ พอสมควรว่า เขาชื่นชม หรือตกใจกับสาวนักศึกษากลุ่มนั้นกันแน่? เคยเจอต่างชาติบางรายก็ถ่ายรูปผลไม้รถเข็น แล้วบอกว่า มีผลไม้อยู่ทุกที่ ^ ^ อันนี้ก็บ่งบอกได้เหมือนกันว่าเขารู้สึกอย่างไรกับบ้านเมืองเรา ……

ตรงนี้ท่านผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.น่าจะลองไปสำรวจบ้างคงจะดีไม่น้อย
นักศึกษาไทย จากอินสตาแกรมของชาวรัสเซีย
ไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ เท่านั้น ตอนผมไปเที่ยวระยอง ผมก็ลองถ่ายรูปแล้วติดแท็ก "Rayong" พอกดเข้าไปดู ก็ได้เห็นรูปในสถานที่ต่างๆ ของจังหวัด ในมุมมองทั้งของคนในจังหวัด และผู้มาเยือนได้อย่างน่าสนใจเลยล่ะ ผมว่ามันคือข้อดีมากๆ เลยสำหรับอินสตาแกรม ที่ต้องขอบคุณที่เปิดโลกให้ผมได้เห็นอะไรมากขึ้นจริงๆ

สิ่งนึงที่ผมอยากฝากสำหรับผู้ที่ชอบเล่นก็คือการติดแท็กมั่วครับ ผมเคยเจอบางคนติดแท็กรูปทะเลว่า "Bangkok" ผมถึงกับตกใจมาก เฮ้ย ... กรุงเทพมีทะเลสวย ขนาดนี้เลยเหรอวะ??? แล้วที่สำคัญคือ ไอ้คนที่ติดแท็กดันเป็นคนไทยด้วย ก็เลยไม่รู้ว่าเขาทำแค่ต้องการเรียกเรตติ้งให้คนมากดไลค์รูปโดยลืมเรื่องข้อข้อเท็จจริงกันเลยหรืออย่างไรหนอ

ที่ไม่ชอบอีกอย่างหนึ่งคือการเข้าไปแสดงความคิดเห็นเพื่อโฆษณาสินค้า ผมก็เข้าใจนะว่าอยากจะขายของกัน แต่ก็อยากให้ลองคิดในมุมกลับว่า ถ้าสมมุติรูปส่วนตัวของเรามีใครสักคนมาโพสต์โฆษณาบ้างจะรู้สึกกันอย่างไร และไอ้ที่แย่มากๆ คือ บางคนก็เข้าไปต่อว่า ดาราบางคนในรูปที่เธอโพสต์ เช่น นักร้องลูกทุ่งสุดเซ็กซี่คนหนึ่งโพสต์รูปที่ค่อนข้างวาบหวิว ก็ถูกสมาชิกบางคนเข้ามาต่อว่าต่อขานอย่างรุนแรง บางทีก็เหมือนกับเป็นการทดสอบขันติของเธอได้เหมือนกัน แต่บางครั้งเราก็เห็นใจนะ .... นี่มันอินสตาแกรมฉันทำไมต้องมาจุ้นกันด้วย ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องติดตามสิ ทำอย่างกับว่าด่าแล้วจะทำให้เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างนั้นล่ะ

หรืออีกกรณีก็คือแฟนคลับดาราอีกคนตามไปแสดงความเห็นจิกหัวด่าดาราที่เป็นโจทก์กัน .... ผมก็แค่สงสัยว่า .... เขาทะเลาะกันแล้วมันเกี่ยวอะไรกับชีวิตพวกคุณวะ?

ก็ไม่รู้ว่าที่เล่ามานี่ จะทำให้ท่านผู้อ่าน อยาก หรือ เมิน ที่จะลองสัมผัสแอพพลิเคชั่นชิ้นนี้ได้เพียงไหน แต่สำหรับผมก็คงต้องใช้มันต่อไป เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้ผมได้ "เห็น" อะไรมากขึ้นกว่าการนั่งแชทหน้าจอโทรศัพท์ล่ะครับ

ปล.ช่วงนี้ผมกำลังทำรีวิวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ถ้าใครสนใจร่วมแสดงความคิดเห็น ก็ไปตามชมกันได้ที่ #reviewnoodle ซึ่งในโอกาสต่อไป (ถ้ามี) ผมจะมาเล่าให้ฟังว่า ทำไม อะไร ต้องทำให้ผมมารีวิว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารพื้นฐานของคนทุกชนชั้นด้วย ....

*********************************************
ว่าแต่ .... ผมต้องแนะนำตัวใช่ไหม??


จริงๆ ผมไม่มีคำแนะนำตัว เอาเป็นว่า ถ้าคุณอ่านไปเรื่อยๆ คุณก็จะรู้จักผมเองล่ะ .... ขอบคุณทุกท่านที่ทนอ่าน คอลัมน์ของผมอาจจะมีคำคะนองบ้าง หยาบคายบ้าง ส่วนหนึ่งเพื่ออรรถรสแห่งการอ่าน อีกส่วนหนึ่งคือสันดานเห็นความเป็นจริงของชีวิต ที่ทุกคนมันต้องมีมุมแบบนี้อยู่ล่ะ ชีวิตมันถึงจะมีสีสันบ้าง (ถ้าใครไม่มีก็ต้องขออภัย) สิ่งที่เขียนขึ้นส่วนใหญ่มากจากเรื่องที่ผมพบเห็นและคิด วิเคราะห์ วิพากษ์ ด้วยปัญญาส่วนตัวที่อยากให้ส่วนรวมได้อ่านและได้คิดตาม หรือสัมผัสได้ (คุ้นๆ นะคำๆ นี้) แน่นอนว่าอาจทำให้ท่านผู้อ่านชอบ หรือไม่ชอบ ตรงนี้ ผมขอน้อมรับเอาไว้ซึ่งด้วยแห่งการกระทำทั้งปวง
กำลังโหลดความคิดเห็น