การที่หมู่คนมารวมกันเป็นกลุ่มก้อนองค์กรเดียวกันแล้วแตกออกมันเป็นเรื่องธรรมชาติน่ะครับ ไม่ใช่เฉพาะแค่แดงหรอกสีอื่นๆ ทั้ง เหลือง น้ำเงิน เขียว ฟ้า หรือกากีรวมกันได้ก็แตกได้ทั้งนั้น..แต่ที่เจาะจงพูดถึงแดงก็เพราะสถานการณ์ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมมากสำหรับการแตกของขบวนการสีแดง
แดงรวมกันได้เหนียวแน่นเพราะต้องการล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่เมื่อได้อำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์มารับตำแหน่งเมื่อกลาง 2554 ก็เท่ากับว่า ขบวนการแดงเป็นมวลชนฝ่ายที่อยู่ข้างผู้มีอำนาจมา 1 ปีกว่าๆ เช่นกัน ระยะเวลานานขนาดนี้มันมากพอที่คนจะได้รู้เช่นเห็นชาติ เรียนรู้ลักษณะนิสัยเป้าหมายวิธีการทำงานไปจนกระทั่งเรียนรู้การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์แบบใดที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับตัวเอง ปัจจัยกับเวลาและปัจจัยประโยชน์ที่ไม่ตรงกันก็จะเริ่มสุกงอมปรากฏชัดขึ้นทุกขณะ
ขบวนแดงใหญ่ นปช.นั้นเริ่มปริมาตั้งแต่ธิดา ถาวรเศรษฐ์รับตำแหน่งประธานอย่างเป็นทางการแล้ว ถ้าจำได้พอเริ่มฮึ่มๆ กันไม่เท่าไหร่ก็มีการไกล่เกลี่ยปรามว่าความในไม่ให้นำออก แต่ที่สุดแล้วแกนนำแดงที่ไม่เห็นด้วยกับการนำของธิดา อาทิเช่น ชินวัฒน์ หาบุญพาด ดารณี กฤตบุญญาลัย ฯลฯ ก็มาปรากฏตัวที่การชุมนุมของแนวร่วม 29 มกรา หน้าลานพระรูปเมื่อวันก่อนซึ่งจะว่าไปจริงๆ แนวร่วมทั้งหลายที่ปรากฏชื่อในแนวร่วม 29 มกรานั้นน่ะถือเป็นแดงอิสระที่แปลก(แยก)จากการนำของ ธิดา-เต้น-ตู่ มานานแล้วทั้งนั้น
แดง 29 มกราคุยชูธงว่าหมื่นปลดปล่อยแต่เอาเข้าจริงก็มาไม่ถึงหมื่น แต่จำนวนคนไม่ใช่ประเด็นใหญ่ เพราะการเคลื่อนไหวที่แหลมคมบางคราไม่จำเป็นต้องมีคนมากก็ได้อย่างเช่นการสัมมนาของคณะนิติราษฏร์ในหลายๆ ครั้งก่อนหน้า หรือแม้แต่การเคลื่อนไหวของขบวนการแก้กฎหมายม. 112 ที่แท้งไปแล้ว แต่กว่าจะแท้งก็แหลมไม่ใช่เล่นทั้งๆที่มีคนไม่มาก
จุดอ่อนของแดงแนวร่วม 29 มกราจึงไม่ใช่เรื่องที่นปช.ไม่ออกมาร่วม หรือมีแกนนำแดงออกมาเหน็บบ้างด่าบ้าง และอันที่จริงการที่แสดงตนไม่เกี่ยวกับนปช.จะดูเหมือนเป็นจุดแข็งของแนวร่วม 29 มกราเสียอีกด้วยซ้ำ
จุดอ่อนของแนวร่วม 29 มกราไม่ใช่ปริมาณแต่กลับคือจุดแข็งที่สุดของพวกเขานั่นเอง !
นั่นก็คือความมีแกนหลักเป็นแดงสายวิชาการที่พูดจามีน้ำหนักน่าเชื่อถือในหลักการเหตุผลทฤษฎีแต่ทว่าในความเป็นวิชาการก็อ่อนด้อยขาดประสบการณ์ทางการเมือง หรือหากจะเรียกด้วยภาษาเกรียนเขาใช้ว่าฟันน้ำนมอ่ะครับ
ตอนเย็นวันที่ 29 ตอนที่รัฐบาลส่งตัวแทนก็คือ พล.ต.ต. ธวัช บุญเฟื่องรองเลขาธิการนายกฯ มาพบ ตอนแรก พล.ต.ต.ธวัชแกเหมือนจะเก๋าคือรับปากลอยๆ ว่าจะเร่งโดยเร็วอะไรประมาณนั้น แล้วก็มีตัวแทนแนวร่วม 29 มกราเสียงแจ๋วๆ ออกไมโครโฟนต่อรองตั้งเงื่อนไขว่ากฎหมายต้องเข้าสภาก่อนปิดสมัยประชุมเดือนเมษายน ตอนนั้นผมคิดในใจว่าแกนนำแนวร่วม 29 มกราแหลมคมใช้ได้รู้จักต่อรองใช้โอกาสที่มีการถ่ายทอดด้วย สื่อมวลชนมามากมายเพื่อให้ตนเองได้เปรียบจน พล.ต.ต.ธวัชดิ้นไม่ออกอ้อมแอ้มรับปากว่าจะเร่งให้ทันตามที่ตั้งเงื่อนไขมา
ต่อจากนั้นบรรดาแกนนำแดงสาย นปช.และอำมาตย์แดง ก็แห่ตามขวัญชัย ไพรพนา ใช้ลมปากถล่มแนวร่วม 29 มกราเสียหายไปหลายแสนกีบ ฯพณฯส.ส.เหวง สามีประธาน นปช.เล่นเจ็บมากประมาณแกบอกว่า บางคนสถาปนาตัวเองเป็นแกนนำแล้วถีบเสื้อแดงเฉย เป็นการเคลื่อนไหวช่วยศัตรูให้มาฆ่ามิตร ฯลฯ ว่าไปโน่น ในที่สุดก็มาถึงคิวของอาจารย์หวาน สุดา รังกุพันธุ์ แกนนำแนวร่วม 29 มกรา ออกมาบอกสื่อแบบอ่อยๆ ถอยสุดว่าแนวร่วมฯ จะเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงานจนสิ้นสมัยประชุมสภา แล้วก็หยอดท้ายหวังว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องที่ตัวเองและพวกอุตส่าห์ตีปิ๊บโหมประโคมจัดเวทีเอิกเกริกใหญ่โตนะ
สรุปว่าแนวร่วม 29 มกราก็ยอมถอยปลดเงื่อนไขกดดันรัฐบาลออกไปสมใจแกนนำสาย นปช. เต้น เหวง ขวัญชัย ไพรพนา
เสร็จจากงานนี้ เชื่อได้ว่าความแปลกแยกของแดงนอก นปช. ที่รวมตัวในนามแนวร่วม 29 มกราคมก็จะยังคงปรากฏต่อไป แต่ก็ไม่ได้หมายถึงแนวร่วม 29 มกราจะเป็นคนละพวกกับรัฐบาลเพราะเนื้อแท้แล้วการแสดงออกที่ลานพระรูปทั้งหมดยังคงดำเนินแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ระหว่างที่แกน นปช.บอกว่าพวกนี้ไม่ใช่แดงและไม่มีช่องทีวีแดงหลักมาถ่ายทอด แต่ก็ยังมีเว็บไซต์ Thaivoice.org มาถ่ายทอดสตรีมมิ่งให้ เว็บดังกล่าวเหมือนจะมีแนวทางแดงอิสระจากรัฐบาลแต่ว่ามีฐานหลักอยู่ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว ลองถามสมหวัง อัสราษีดูเผื่อจะรู้จัก นั่นก็หมายความว่าแม้การเคลื่อนไหวนั้นจะไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์หลักของรัฐบาลในทางเปิดแดงกุมอำนาจไม่หนุน ไม่รับรู้ ไม่ให้ร่วมขบวนแดง แต่ในทางปิดก็มีการโอบอุ้มอะลุ้มอล่วยกันพอสมควร
มีคำกล่าวว่าความยุ่งยากทางการเมืองที่สุดไม่ได้ใช่การต่อสู้แย่งชิงให้ได้มาซึ่งอำนาจแต่อยู่ที่การรักษาอำนาจ และในบรรดาท่วงทำนองแห่งการรักษาอำนาจนั้น...การจัดสรรผลประโยชน์ให้พวกเดียวกันเกิดความพึงพอใจถ้วนหน้าเป็นเรื่องยากลำบากที่สุด
แดงอิสระ แนวร่วม 29 มกราถือเป็นพวกเดียวกันอยู่แล้วล่ะ ปัญหาคือผู้มีอำนาจฝ่ายเดียวกันเขาจัดลำดับการตอบสนองให้พึงพอใจไว้ที่ลำดับใด การตอบสนองนั้นมันยากบอกแล้วไงไม่เชื่อไปถามตู่ จตุพรดูก็ได้ว่ามันยาก
ในบรรดาแดงที่หลากหลายที่เข้าไปร่วมในแนวร่วม 29 มกรา มีแดงที่น่าสนใจองค์กรหนึ่งชื่อวิทยุชุมชน 90.25 Mhz ผู้กล้าประชาธิปไตย แดงกลุ่มนี้เริ่มขับเคลื่อนประเด็นนโยบายพลังงานที่ไม่เป็นธรรม(ที่ผู้มีอำนาจแดงไม่แตะต้องยุ่งเกี่ยวเลย) เมื่อวันก่อนก็จัดสัมมนาเรื่องพลังงานโดยเชิญ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรีซึ่งเป็นอนุกรรมาธิการในคณะของ ส.ว.รสนา โตสิตระกูลไปเป็นวิทยากรและก็ออกรายการเอเอสทีวีบ่อยๆ แดงกลุ่มนี้มีจุดยืนประกาศชัดว่าปัญหาความไม่เป็นธรรมเรื่องการพลังงานสะสมผ่านมาหลายรัฐบาล ไม่ใช่เป็นเรื่องที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องรับผิด เอาเป็นว่าทางหนึ่งก็ปลอบประโลมมวลชนว่าเล่นเรื่องพลังงานไม่ได้หาเรื่องยิ่งลักษณ์นะแต่เป็นการปกป้องประโยชน์ของประชาชน
ซึ่งก็ดีครับแดงอิสระที่แสดงออกซึ่งความเป็นอิสระโดยแท้จริง เพราะที่สุดแล้วผลประโยชน์ของ ปตท.นั้นถูกผู้มีอำนาจไม่ว่ายุคอำมาตย์ ยุคนักการเมืองเลือกตั้งไม่ว่าพรรคไหนต่างก็ได้ประโยชน์สมประโยชน์กันเฉพาะพวกเขา แดงอิสระก็น่าจะรู้ว่า แกนนำ นปช. อย่างเต้น ก่อแก้ว ฯลฯ นั้นพัวพันกับผลประโยชน์ ปตท.กันยังไง
แต่เมื่อพูดเรื่อง ปตท.แล้ว ยังมีแดงอีกกลุ่มนั่นก็คือแดงดาราที่สังกัดสมาพันธ์ชุมชนหมู่บ้านเสื้อแดง อย่างทอม ดันดี เป็นอีกคนที่พยายามจะหยิบประเด็นความไม่เป็นธรรมด้านการพลังงานมาเล่นแต่กลับเล่นได้ไม่เข้าท่า ออกทะเลไปเพราะข้อมูลผิด แกจึงกลายเป็นนักโกหกชาวบ้านไปเสียเฉยๆ ซะงั้น (ดูคลิปประกอบ) เช่น
นาที 6.27 ทอมพูดว่า...ปตท.เป็นของใครครับ ก็ของเปรม ติณสูลานนท์ไง
นาที 36.38 ทอมพูดชักจูงเอาผลประโยชน์มาล่อซึ่งตัวเลขก็ไม่ถูกอีกโดยบอกทำนองว่าผลประโยชน์ที่จัดสรรนั้นควรตกเป็นของประชาชน ที่ควรได้คนละ 3-8 ล้านบาท/ปี “ประชาชนอย่างเราต้องได้ปันผลปีละ 3 ล้านถึง 8 ล้าน ที่ต้องปันให้คนไทย เพราะมันเป็นทรัพย์สินธรณี เป็นของคนไทยทุกคน”
โดยสรุปคือแม้แดงดารากลุ่ม ทอม/โด่ง ในนามสมาพันธ์ชุมชนหมู่บ้านเสื้อแดง จะเคลื่อนไหวโดยอิสระ ไปเที่ยวจัดตั้งหมู่บ้านที่โน่นที่นี่และเหมือนจะไม่ลงให้กับการนำของ นปช. แต่ก็ต่างกันสิ้นเชิงในเนื้อหาสาระที่แดงผู้กล้าประชาธิปไตยเคลื่อนไหวเพราะแดงทอม ดันดี มั่วข้อมูลไปคนละทางกับแดงผู้กล้าประชาธิปไตย และแน่นอนว่าแดงอิสระที่กล่าวมาทั้งสองชื่อไปคนละทางกับบ่อผลประโยชน์ที่แกนนำนปช.ได้จากปตท. เอาเฉพาะปตท.เรื่องเดียว มวลชนแดงก็แยกกันไปอย่างน้อย 3 แนวทางซะแล้วนับประสาอะไรกับเรื่องอื่น
ยังมีอีกแดงที่ต้องพูดถึง เพราะเป็นรูปธรรมของแดงแตกที่ชัดเจนที่สุดและน่าจับตาต่อไปว่าจะรุ่งหรือร่วงในปีนี้ เห็นจะเป็นแดงอานนท์ แสนน่าน ผู้เคยก่อปูพรมตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงขึ้นมาแข่งบารมีกับขวัญชัย ไพรพนา
อานนท์ แสนน่าน เคยเป็นแดงใต้ปีกขวัญชัยมาก่อนและใช้จังหวะที่ขวัญชัยติดคุกขยายอาณาจักรตัวเองกลายเป็นสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดง อันที่จริงเกือบจะวัดรอยเท้าสำเร็จแล้วมาพลาดตอนเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี วิบากกรรมซ้ำซัดเพราะมีคนเสื้อแดงลำปางไปแจ้งความจับข้อหาโกงเงิน เรื่องของเรื่องคืออานนท์ไปหลอกคนเสื้อแดงลำปางว่าสามารถจะได้งาน SML จากผู้ใหญ่ ทางลำปางหลงเชื่อโอนเงินให้ก็ถูกเชิดไป และเมื่อปลายปีที่ผ่านมา อานนท์ แสนน่านก็ถูกพรรคพวกเดียวกันในสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงปลดออกจากตำแหน่ง นัยว่าแอบอ้างใช้ชื่อองค์กรไปหากิน อานนท์ก็เลยต้องมาตั้งองค์กรแดงใหม่ชื่อว่า สมัชชาหมู่บ้านเสื้อแดง ไปขอบารมีนักการเมืองตู้เย็นแถวเชียงรายสร้างผลงานต่อ ล่าสุดเห็นว่าพยายามจะปักธงสมัชชาหมู่บ้านเสื้อแดงในภาคใต้ให้เป็นผลงานเป็นหน้าเป็นตาให้ได้
ที่ยกเรื่องนี้มาเพราะล่าสุดเลยกลายเป็นเกิดมีองค์กรแดงมากมาย จากการแตกคอ แตกความคิดจิปาถะมีคนพยายามปลอบใจกันว่าแยกกันเดินรวมกันตีก็เอาเถอะครับจะรอดูว่าปี 2556 จะแยกออกมาเป็นอีกกี่องค์กร
ยิ่งเวลาผ่าน ความหลากหลายเป็นลักษณะเฉพาะ มีเป้าหมาย มีอุดมการณ์และประโยชน์เฉพาะส่วนก็ยิ่งชัดขึ้น
บอกแล้วไงครับว่าการแตกมันเป็นธรรมชาติ-อย่ากลัวเลย เพราะเมื่อปัจจัยเวลากับปัจจัยประโยชน์ไม่ตรงกันถึงพร้อมอะไรก็เอาไม่อยู่หรอก แกนนำผู้กุมอำนาจรัฐก็คงซึ้งสัจธรรมการเมืองข้อนี้ดีไอ้ที่พยายามหล่อเลี้ยงดึงๆ ไว้ก็ทำกันไป แต่หากถึงเวลานั้นมาถึงจริงๆ ก็คงจะมีการตัดหางแดงออกจากขบวนอย่างเป็นทางการให้ดูกันสักแดงสองแดง
29 มกรายังจึงไม่ใช่การตัดหางหรอกครับ มันเป็นแค่ปาหี่ผัวเมียละเหี่ยใจ แฟนละครซาดิสม์ที่อยากเห็นการหย่าร้างหรือการกระทืบกันแบบสมจริงยังต้องรออีกสักพัก
แดงรวมกันได้เหนียวแน่นเพราะต้องการล้มรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่เมื่อได้อำนาจรัฐบาลยิ่งลักษณ์มารับตำแหน่งเมื่อกลาง 2554 ก็เท่ากับว่า ขบวนการแดงเป็นมวลชนฝ่ายที่อยู่ข้างผู้มีอำนาจมา 1 ปีกว่าๆ เช่นกัน ระยะเวลานานขนาดนี้มันมากพอที่คนจะได้รู้เช่นเห็นชาติ เรียนรู้ลักษณะนิสัยเป้าหมายวิธีการทำงานไปจนกระทั่งเรียนรู้การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์แบบใดที่เหมาะหรือไม่เหมาะกับตัวเอง ปัจจัยกับเวลาและปัจจัยประโยชน์ที่ไม่ตรงกันก็จะเริ่มสุกงอมปรากฏชัดขึ้นทุกขณะ
ขบวนแดงใหญ่ นปช.นั้นเริ่มปริมาตั้งแต่ธิดา ถาวรเศรษฐ์รับตำแหน่งประธานอย่างเป็นทางการแล้ว ถ้าจำได้พอเริ่มฮึ่มๆ กันไม่เท่าไหร่ก็มีการไกล่เกลี่ยปรามว่าความในไม่ให้นำออก แต่ที่สุดแล้วแกนนำแดงที่ไม่เห็นด้วยกับการนำของธิดา อาทิเช่น ชินวัฒน์ หาบุญพาด ดารณี กฤตบุญญาลัย ฯลฯ ก็มาปรากฏตัวที่การชุมนุมของแนวร่วม 29 มกรา หน้าลานพระรูปเมื่อวันก่อนซึ่งจะว่าไปจริงๆ แนวร่วมทั้งหลายที่ปรากฏชื่อในแนวร่วม 29 มกรานั้นน่ะถือเป็นแดงอิสระที่แปลก(แยก)จากการนำของ ธิดา-เต้น-ตู่ มานานแล้วทั้งนั้น
แดง 29 มกราคุยชูธงว่าหมื่นปลดปล่อยแต่เอาเข้าจริงก็มาไม่ถึงหมื่น แต่จำนวนคนไม่ใช่ประเด็นใหญ่ เพราะการเคลื่อนไหวที่แหลมคมบางคราไม่จำเป็นต้องมีคนมากก็ได้อย่างเช่นการสัมมนาของคณะนิติราษฏร์ในหลายๆ ครั้งก่อนหน้า หรือแม้แต่การเคลื่อนไหวของขบวนการแก้กฎหมายม. 112 ที่แท้งไปแล้ว แต่กว่าจะแท้งก็แหลมไม่ใช่เล่นทั้งๆที่มีคนไม่มาก
จุดอ่อนของแดงแนวร่วม 29 มกราจึงไม่ใช่เรื่องที่นปช.ไม่ออกมาร่วม หรือมีแกนนำแดงออกมาเหน็บบ้างด่าบ้าง และอันที่จริงการที่แสดงตนไม่เกี่ยวกับนปช.จะดูเหมือนเป็นจุดแข็งของแนวร่วม 29 มกราเสียอีกด้วยซ้ำ
จุดอ่อนของแนวร่วม 29 มกราไม่ใช่ปริมาณแต่กลับคือจุดแข็งที่สุดของพวกเขานั่นเอง !
นั่นก็คือความมีแกนหลักเป็นแดงสายวิชาการที่พูดจามีน้ำหนักน่าเชื่อถือในหลักการเหตุผลทฤษฎีแต่ทว่าในความเป็นวิชาการก็อ่อนด้อยขาดประสบการณ์ทางการเมือง หรือหากจะเรียกด้วยภาษาเกรียนเขาใช้ว่าฟันน้ำนมอ่ะครับ
ตอนเย็นวันที่ 29 ตอนที่รัฐบาลส่งตัวแทนก็คือ พล.ต.ต. ธวัช บุญเฟื่องรองเลขาธิการนายกฯ มาพบ ตอนแรก พล.ต.ต.ธวัชแกเหมือนจะเก๋าคือรับปากลอยๆ ว่าจะเร่งโดยเร็วอะไรประมาณนั้น แล้วก็มีตัวแทนแนวร่วม 29 มกราเสียงแจ๋วๆ ออกไมโครโฟนต่อรองตั้งเงื่อนไขว่ากฎหมายต้องเข้าสภาก่อนปิดสมัยประชุมเดือนเมษายน ตอนนั้นผมคิดในใจว่าแกนนำแนวร่วม 29 มกราแหลมคมใช้ได้รู้จักต่อรองใช้โอกาสที่มีการถ่ายทอดด้วย สื่อมวลชนมามากมายเพื่อให้ตนเองได้เปรียบจน พล.ต.ต.ธวัชดิ้นไม่ออกอ้อมแอ้มรับปากว่าจะเร่งให้ทันตามที่ตั้งเงื่อนไขมา
ต่อจากนั้นบรรดาแกนนำแดงสาย นปช.และอำมาตย์แดง ก็แห่ตามขวัญชัย ไพรพนา ใช้ลมปากถล่มแนวร่วม 29 มกราเสียหายไปหลายแสนกีบ ฯพณฯส.ส.เหวง สามีประธาน นปช.เล่นเจ็บมากประมาณแกบอกว่า บางคนสถาปนาตัวเองเป็นแกนนำแล้วถีบเสื้อแดงเฉย เป็นการเคลื่อนไหวช่วยศัตรูให้มาฆ่ามิตร ฯลฯ ว่าไปโน่น ในที่สุดก็มาถึงคิวของอาจารย์หวาน สุดา รังกุพันธุ์ แกนนำแนวร่วม 29 มกรา ออกมาบอกสื่อแบบอ่อยๆ ถอยสุดว่าแนวร่วมฯ จะเปิดโอกาสให้รัฐบาลได้ทำงานจนสิ้นสมัยประชุมสภา แล้วก็หยอดท้ายหวังว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญกับเรื่องที่ตัวเองและพวกอุตส่าห์ตีปิ๊บโหมประโคมจัดเวทีเอิกเกริกใหญ่โตนะ
สรุปว่าแนวร่วม 29 มกราก็ยอมถอยปลดเงื่อนไขกดดันรัฐบาลออกไปสมใจแกนนำสาย นปช. เต้น เหวง ขวัญชัย ไพรพนา
เสร็จจากงานนี้ เชื่อได้ว่าความแปลกแยกของแดงนอก นปช. ที่รวมตัวในนามแนวร่วม 29 มกราคมก็จะยังคงปรากฏต่อไป แต่ก็ไม่ได้หมายถึงแนวร่วม 29 มกราจะเป็นคนละพวกกับรัฐบาลเพราะเนื้อแท้แล้วการแสดงออกที่ลานพระรูปทั้งหมดยังคงดำเนินแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย ระหว่างที่แกน นปช.บอกว่าพวกนี้ไม่ใช่แดงและไม่มีช่องทีวีแดงหลักมาถ่ายทอด แต่ก็ยังมีเว็บไซต์ Thaivoice.org มาถ่ายทอดสตรีมมิ่งให้ เว็บดังกล่าวเหมือนจะมีแนวทางแดงอิสระจากรัฐบาลแต่ว่ามีฐานหลักอยู่ที่อิมพีเรียลลาดพร้าว ลองถามสมหวัง อัสราษีดูเผื่อจะรู้จัก นั่นก็หมายความว่าแม้การเคลื่อนไหวนั้นจะไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์หลักของรัฐบาลในทางเปิดแดงกุมอำนาจไม่หนุน ไม่รับรู้ ไม่ให้ร่วมขบวนแดง แต่ในทางปิดก็มีการโอบอุ้มอะลุ้มอล่วยกันพอสมควร
มีคำกล่าวว่าความยุ่งยากทางการเมืองที่สุดไม่ได้ใช่การต่อสู้แย่งชิงให้ได้มาซึ่งอำนาจแต่อยู่ที่การรักษาอำนาจ และในบรรดาท่วงทำนองแห่งการรักษาอำนาจนั้น...การจัดสรรผลประโยชน์ให้พวกเดียวกันเกิดความพึงพอใจถ้วนหน้าเป็นเรื่องยากลำบากที่สุด
แดงอิสระ แนวร่วม 29 มกราถือเป็นพวกเดียวกันอยู่แล้วล่ะ ปัญหาคือผู้มีอำนาจฝ่ายเดียวกันเขาจัดลำดับการตอบสนองให้พึงพอใจไว้ที่ลำดับใด การตอบสนองนั้นมันยากบอกแล้วไงไม่เชื่อไปถามตู่ จตุพรดูก็ได้ว่ามันยาก
ในบรรดาแดงที่หลากหลายที่เข้าไปร่วมในแนวร่วม 29 มกรา มีแดงที่น่าสนใจองค์กรหนึ่งชื่อวิทยุชุมชน 90.25 Mhz ผู้กล้าประชาธิปไตย แดงกลุ่มนี้เริ่มขับเคลื่อนประเด็นนโยบายพลังงานที่ไม่เป็นธรรม(ที่ผู้มีอำนาจแดงไม่แตะต้องยุ่งเกี่ยวเลย) เมื่อวันก่อนก็จัดสัมมนาเรื่องพลังงานโดยเชิญ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรีซึ่งเป็นอนุกรรมาธิการในคณะของ ส.ว.รสนา โตสิตระกูลไปเป็นวิทยากรและก็ออกรายการเอเอสทีวีบ่อยๆ แดงกลุ่มนี้มีจุดยืนประกาศชัดว่าปัญหาความไม่เป็นธรรมเรื่องการพลังงานสะสมผ่านมาหลายรัฐบาล ไม่ใช่เป็นเรื่องที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องรับผิด เอาเป็นว่าทางหนึ่งก็ปลอบประโลมมวลชนว่าเล่นเรื่องพลังงานไม่ได้หาเรื่องยิ่งลักษณ์นะแต่เป็นการปกป้องประโยชน์ของประชาชน
ซึ่งก็ดีครับแดงอิสระที่แสดงออกซึ่งความเป็นอิสระโดยแท้จริง เพราะที่สุดแล้วผลประโยชน์ของ ปตท.นั้นถูกผู้มีอำนาจไม่ว่ายุคอำมาตย์ ยุคนักการเมืองเลือกตั้งไม่ว่าพรรคไหนต่างก็ได้ประโยชน์สมประโยชน์กันเฉพาะพวกเขา แดงอิสระก็น่าจะรู้ว่า แกนนำ นปช. อย่างเต้น ก่อแก้ว ฯลฯ นั้นพัวพันกับผลประโยชน์ ปตท.กันยังไง
แต่เมื่อพูดเรื่อง ปตท.แล้ว ยังมีแดงอีกกลุ่มนั่นก็คือแดงดาราที่สังกัดสมาพันธ์ชุมชนหมู่บ้านเสื้อแดง อย่างทอม ดันดี เป็นอีกคนที่พยายามจะหยิบประเด็นความไม่เป็นธรรมด้านการพลังงานมาเล่นแต่กลับเล่นได้ไม่เข้าท่า ออกทะเลไปเพราะข้อมูลผิด แกจึงกลายเป็นนักโกหกชาวบ้านไปเสียเฉยๆ ซะงั้น (ดูคลิปประกอบ) เช่น
นาที 6.27 ทอมพูดว่า...ปตท.เป็นของใครครับ ก็ของเปรม ติณสูลานนท์ไง
นาที 36.38 ทอมพูดชักจูงเอาผลประโยชน์มาล่อซึ่งตัวเลขก็ไม่ถูกอีกโดยบอกทำนองว่าผลประโยชน์ที่จัดสรรนั้นควรตกเป็นของประชาชน ที่ควรได้คนละ 3-8 ล้านบาท/ปี “ประชาชนอย่างเราต้องได้ปันผลปีละ 3 ล้านถึง 8 ล้าน ที่ต้องปันให้คนไทย เพราะมันเป็นทรัพย์สินธรณี เป็นของคนไทยทุกคน”
โดยสรุปคือแม้แดงดารากลุ่ม ทอม/โด่ง ในนามสมาพันธ์ชุมชนหมู่บ้านเสื้อแดง จะเคลื่อนไหวโดยอิสระ ไปเที่ยวจัดตั้งหมู่บ้านที่โน่นที่นี่และเหมือนจะไม่ลงให้กับการนำของ นปช. แต่ก็ต่างกันสิ้นเชิงในเนื้อหาสาระที่แดงผู้กล้าประชาธิปไตยเคลื่อนไหวเพราะแดงทอม ดันดี มั่วข้อมูลไปคนละทางกับแดงผู้กล้าประชาธิปไตย และแน่นอนว่าแดงอิสระที่กล่าวมาทั้งสองชื่อไปคนละทางกับบ่อผลประโยชน์ที่แกนนำนปช.ได้จากปตท. เอาเฉพาะปตท.เรื่องเดียว มวลชนแดงก็แยกกันไปอย่างน้อย 3 แนวทางซะแล้วนับประสาอะไรกับเรื่องอื่น
ยังมีอีกแดงที่ต้องพูดถึง เพราะเป็นรูปธรรมของแดงแตกที่ชัดเจนที่สุดและน่าจับตาต่อไปว่าจะรุ่งหรือร่วงในปีนี้ เห็นจะเป็นแดงอานนท์ แสนน่าน ผู้เคยก่อปูพรมตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงขึ้นมาแข่งบารมีกับขวัญชัย ไพรพนา
อานนท์ แสนน่าน เคยเป็นแดงใต้ปีกขวัญชัยมาก่อนและใช้จังหวะที่ขวัญชัยติดคุกขยายอาณาจักรตัวเองกลายเป็นสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดง อันที่จริงเกือบจะวัดรอยเท้าสำเร็จแล้วมาพลาดตอนเลือกตั้งนายกอบจ.อุดรธานี วิบากกรรมซ้ำซัดเพราะมีคนเสื้อแดงลำปางไปแจ้งความจับข้อหาโกงเงิน เรื่องของเรื่องคืออานนท์ไปหลอกคนเสื้อแดงลำปางว่าสามารถจะได้งาน SML จากผู้ใหญ่ ทางลำปางหลงเชื่อโอนเงินให้ก็ถูกเชิดไป และเมื่อปลายปีที่ผ่านมา อานนท์ แสนน่านก็ถูกพรรคพวกเดียวกันในสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงปลดออกจากตำแหน่ง นัยว่าแอบอ้างใช้ชื่อองค์กรไปหากิน อานนท์ก็เลยต้องมาตั้งองค์กรแดงใหม่ชื่อว่า สมัชชาหมู่บ้านเสื้อแดง ไปขอบารมีนักการเมืองตู้เย็นแถวเชียงรายสร้างผลงานต่อ ล่าสุดเห็นว่าพยายามจะปักธงสมัชชาหมู่บ้านเสื้อแดงในภาคใต้ให้เป็นผลงานเป็นหน้าเป็นตาให้ได้
ที่ยกเรื่องนี้มาเพราะล่าสุดเลยกลายเป็นเกิดมีองค์กรแดงมากมาย จากการแตกคอ แตกความคิดจิปาถะมีคนพยายามปลอบใจกันว่าแยกกันเดินรวมกันตีก็เอาเถอะครับจะรอดูว่าปี 2556 จะแยกออกมาเป็นอีกกี่องค์กร
ยิ่งเวลาผ่าน ความหลากหลายเป็นลักษณะเฉพาะ มีเป้าหมาย มีอุดมการณ์และประโยชน์เฉพาะส่วนก็ยิ่งชัดขึ้น
บอกแล้วไงครับว่าการแตกมันเป็นธรรมชาติ-อย่ากลัวเลย เพราะเมื่อปัจจัยเวลากับปัจจัยประโยชน์ไม่ตรงกันถึงพร้อมอะไรก็เอาไม่อยู่หรอก แกนนำผู้กุมอำนาจรัฐก็คงซึ้งสัจธรรมการเมืองข้อนี้ดีไอ้ที่พยายามหล่อเลี้ยงดึงๆ ไว้ก็ทำกันไป แต่หากถึงเวลานั้นมาถึงจริงๆ ก็คงจะมีการตัดหางแดงออกจากขบวนอย่างเป็นทางการให้ดูกันสักแดงสองแดง
29 มกรายังจึงไม่ใช่การตัดหางหรอกครับ มันเป็นแค่ปาหี่ผัวเมียละเหี่ยใจ แฟนละครซาดิสม์ที่อยากเห็นการหย่าร้างหรือการกระทืบกันแบบสมจริงยังต้องรออีกสักพัก