ประเด็นแผนการลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ที่ยังเป็นปริศนาอยู่ก็คือ ใครอยู่เบื้องหลังในการบงการ และมีแผนการที่เป็นรูปธรรมอย่างไร มีใครเกี่ยวข้องอยู่บ้าง เรื่องนี้ดูจะมืดมนจนจับต้นชนปลายไม่ได้ เพราะแทบไม่มีข่าวสารที่น่าเชื่อถือได้เลย
ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าคนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงก็เถียง แต่คนที่รู้ข้อเท็จจริงจะไม่เถียง เรื่องนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕ ได้รายงานยืนยันมายังตนแล้ว ทั้งนี้ในช่วงบ่ายตนจะประชุมเพื่อหาข้อมูลเรื่องนี้ และวันที่ ๙ พ.ย. ตนจะเดินทางไปที่ด่านแม่สาย จ.เชียงรายเพื่อไปพบแหล่งข่าว เมื่อถามว่าที่จะเดินทางไปเพื่อไปสอบถามคือข้อมูลเชิงลึก ใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ใช่ หากฝ่ายค้านจะยื่นกระทู้สดถามให้รอเป็นสัปดาห์หน้าจะดีกว่า เพราะจะได้ข้อมูลที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่มีใครสร้างกระแสขึ้นมา หากจะกลบการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นคนละเรื่อง ต้องอย่าลืมว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีการถ่ายทอดสด
ที่รัฐสภา นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยและแกนนำนปช.กล่าวว่า ข่าวการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ามีจริง มีกระแสข่าวแจ้งว่ามีการลงขันร่วมกันจากกลุ่มน้ำเมา ๖ พันล้านบาท อีก ๒ พันล้านบาท มีนักการเมืองอักษรย่อ “ส” และ “น” ร่วมลงขันด้วยโดยแบ่งเงินจำนวน ๑๐ ล้านบาท ให้กับทหารพรานแถบ อ.แม่สะเรียง ๗. แม่ฮ่องสอนผ่าน “หมอดำ” และ “จ่าเริง”ซึ่งมีการพูดโยงถึงนักการเมือง “น”ว่ามีส่วนวางแผนล้มรัฐบาลส่วนนักการเมือง “ส” ใช้เงินจ้างมวลชนคนละ ๑,๐๐๐ บาท จาก ๗. ชุมพร เพชรบุรี สุราษฏร์ธานีให้ได้จังหวัดละ ๑ พันคน แต่เขาต้องการระดมให้ได้ถึง ๕ หมื่นคน ดังนั้นการชุมนุมของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม รัฐบาลไม่ควรประมาทและขอเรียกร้องให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตยมาร่วมกันแสดงพลังปราบกบฏต้านรัฐประหารปกป้องรัฐบาลในวันที่ ๑๖ พ.ย. ที่จังหวัดขอนแก่น เชื่อว่าจะมีประชาชนมารวมพลังนับแสนคนและในวันที่ ๑๘ พ.ย.ที่อ.บางพลี สมุทรปราการเชื่อว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมกว่า ๕ หมื่นคน
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงฯ กล่าวถึงความคืบหน้าตรวจสอบข่าวลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะเดินทางมาท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่าหลังจับกุมชาวไทยใหญ่เชื้อสายพม่าซุกซ่อนอาวุธสงครามไว้เป็นจำนวนมากว่า อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมโดยการประสานไปยังพม่า แต่หลังจากผู้ต้องหากลับคำให้การกลายเป็นอุปสรรคทำให้การประเมินว่ามีการเชื่อมโยงการลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ เป็นไปด้วยความยากลำบากและยากต่อการเพิ่มข้อกล่าวหา นอกจากการลอบขนอาวุธ ก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ส่วนที่ฝ่ายทหารระบุว่าไม่พบข้อมูลลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ในแง่คิดความมั่นคงต้องแยกข้อเท็จจริง ฟังในทุกมิติทุกหน่วยงาน และต้องนำมาวิเคราะห์แยกกับการปฏิบัติในเมื่อทหารบอกไม่มีข้อมูลตรงนี้ก็ต้องยอมรับ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการจับอาวุธสงครามที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ที่มีการเชื่อมโยงการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีว่าดูเหมือนกองทัพบกและสภาความมั่นคงมีข้อมูลไม่ตรงกัน หน่วยงานด้านความมั่นคงต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพและระมัดระวังไม่ให้การเมืองเข้าแทรกแซง เพราะงานด้านความมั่นคงส่งผลกระทบกับความน่าเชื่อถือทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ส่วนกรณีที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคง ระบุข้อมูลไม่ตรงกับตอนแรกภายหลังเข้าพบ ร.ต.อ.เฉลิม นั้น เป็นเรื่องที่ที่ พล.ท.ภราดรต้องชี้แจงว่าเป็นเพราะอะไร เหตุใดถึงมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งที่ สมช.ต้องยึดมั่นข้อมูล
น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้กรณี ส.ส.เพื่อไทยเชื่อมโยงเรื่องการลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม โดยพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีแนวคิดลอบฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่รู้จะลอบฆ่าทำไมเพราะแค่ปล่อยให้บินวนเวียนเข้าประเทศไม่ได้ก็จะตรอมใจตายแล้ว และการลอบฆ่าที่ชายแดนโดยใช้อาร์พีจีเป็นความคิดที่โง่สิ้นดี เพราะพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ทั่วโลก ฆ่าที่ไหนก็ได้ นอกจากนั้นส.ส.เพื่อไทยยังมีการกล่าวหาว่าผู้ที่ออกมาชุมนุมเป็นกบฏเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง พรรคเพื่อไทยเริ่มหวั่นไหวในข้อมูลที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผย และหวั่นไหวในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีหรือนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ก็คงหวั่นไหวเช่นกัน เลยออกมาแก้ด้วยการเอาข่าวลอบสังหารมาเป็นการปลุกม็อบเพื่อกลบกระแสการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ครับ สรุปได้ว่าข่าวการลอบสังหารยังคงดำมืดหาข้อเท็จจริงเป็นรูปธรรมไม่ได้ ทั้งนี้เพราะข้อมูลทางพม่าไม่มีอะไรคืบหน้าและข้อมูลทางฝั่งไทยเป็นแค่ข่าวลือเชื่อถือไม่ได้เท่านั้นเอง
ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าคนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงก็เถียง แต่คนที่รู้ข้อเท็จจริงจะไม่เถียง เรื่องนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๕ ได้รายงานยืนยันมายังตนแล้ว ทั้งนี้ในช่วงบ่ายตนจะประชุมเพื่อหาข้อมูลเรื่องนี้ และวันที่ ๙ พ.ย. ตนจะเดินทางไปที่ด่านแม่สาย จ.เชียงรายเพื่อไปพบแหล่งข่าว เมื่อถามว่าที่จะเดินทางไปเพื่อไปสอบถามคือข้อมูลเชิงลึก ใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ใช่ หากฝ่ายค้านจะยื่นกระทู้สดถามให้รอเป็นสัปดาห์หน้าจะดีกว่า เพราะจะได้ข้อมูลที่ชัดเจน อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่มีใครสร้างกระแสขึ้นมา หากจะกลบการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็เป็นคนละเรื่อง ต้องอย่าลืมว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีการถ่ายทอดสด
ที่รัฐสภา นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยและแกนนำนปช.กล่าวว่า ข่าวการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ามีจริง มีกระแสข่าวแจ้งว่ามีการลงขันร่วมกันจากกลุ่มน้ำเมา ๖ พันล้านบาท อีก ๒ พันล้านบาท มีนักการเมืองอักษรย่อ “ส” และ “น” ร่วมลงขันด้วยโดยแบ่งเงินจำนวน ๑๐ ล้านบาท ให้กับทหารพรานแถบ อ.แม่สะเรียง ๗. แม่ฮ่องสอนผ่าน “หมอดำ” และ “จ่าเริง”ซึ่งมีการพูดโยงถึงนักการเมือง “น”ว่ามีส่วนวางแผนล้มรัฐบาลส่วนนักการเมือง “ส” ใช้เงินจ้างมวลชนคนละ ๑,๐๐๐ บาท จาก ๗. ชุมพร เพชรบุรี สุราษฏร์ธานีให้ได้จังหวัดละ ๑ พันคน แต่เขาต้องการระดมให้ได้ถึง ๕ หมื่นคน ดังนั้นการชุมนุมของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม รัฐบาลไม่ควรประมาทและขอเรียกร้องให้ประชาชนที่รักประชาธิปไตยมาร่วมกันแสดงพลังปราบกบฏต้านรัฐประหารปกป้องรัฐบาลในวันที่ ๑๖ พ.ย. ที่จังหวัดขอนแก่น เชื่อว่าจะมีประชาชนมารวมพลังนับแสนคนและในวันที่ ๑๘ พ.ย.ที่อ.บางพลี สมุทรปราการเชื่อว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมกว่า ๕ หมื่นคน
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงฯ กล่าวถึงความคืบหน้าตรวจสอบข่าวลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่จะเดินทางมาท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่าหลังจับกุมชาวไทยใหญ่เชื้อสายพม่าซุกซ่อนอาวุธสงครามไว้เป็นจำนวนมากว่า อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมโดยการประสานไปยังพม่า แต่หลังจากผู้ต้องหากลับคำให้การกลายเป็นอุปสรรคทำให้การประเมินว่ามีการเชื่อมโยงการลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ เป็นไปด้วยความยากลำบากและยากต่อการเพิ่มข้อกล่าวหา นอกจากการลอบขนอาวุธ ก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ส่วนที่ฝ่ายทหารระบุว่าไม่พบข้อมูลลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ในแง่คิดความมั่นคงต้องแยกข้อเท็จจริง ฟังในทุกมิติทุกหน่วยงาน และต้องนำมาวิเคราะห์แยกกับการปฏิบัติในเมื่อทหารบอกไม่มีข้อมูลตรงนี้ก็ต้องยอมรับ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการจับอาวุธสงครามที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ที่มีการเชื่อมโยงการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ อดีตนายกรัฐมนตรีว่าดูเหมือนกองทัพบกและสภาความมั่นคงมีข้อมูลไม่ตรงกัน หน่วยงานด้านความมั่นคงต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพและระมัดระวังไม่ให้การเมืองเข้าแทรกแซง เพราะงานด้านความมั่นคงส่งผลกระทบกับความน่าเชื่อถือทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ส่วนกรณีที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคง ระบุข้อมูลไม่ตรงกับตอนแรกภายหลังเข้าพบ ร.ต.อ.เฉลิม นั้น เป็นเรื่องที่ที่ พล.ท.ภราดรต้องชี้แจงว่าเป็นเพราะอะไร เหตุใดถึงมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งที่ สมช.ต้องยึดมั่นข้อมูล
น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ แถลงตอบโต้กรณี ส.ส.เพื่อไทยเชื่อมโยงเรื่องการลอบสังหารพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม โดยพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลังว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีแนวคิดลอบฆ่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่รู้จะลอบฆ่าทำไมเพราะแค่ปล่อยให้บินวนเวียนเข้าประเทศไม่ได้ก็จะตรอมใจตายแล้ว และการลอบฆ่าที่ชายแดนโดยใช้อาร์พีจีเป็นความคิดที่โง่สิ้นดี เพราะพ.ต.ท.ทักษิณอยู่ทั่วโลก ฆ่าที่ไหนก็ได้ นอกจากนั้นส.ส.เพื่อไทยยังมีการกล่าวหาว่าผู้ที่ออกมาชุมนุมเป็นกบฏเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง พรรคเพื่อไทยเริ่มหวั่นไหวในข้อมูลที่พรรคประชาธิปัตย์เปิดเผย และหวั่นไหวในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีหรือนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ก็คงหวั่นไหวเช่นกัน เลยออกมาแก้ด้วยการเอาข่าวลอบสังหารมาเป็นการปลุกม็อบเพื่อกลบกระแสการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ครับ สรุปได้ว่าข่าวการลอบสังหารยังคงดำมืดหาข้อเท็จจริงเป็นรูปธรรมไม่ได้ ทั้งนี้เพราะข้อมูลทางพม่าไม่มีอะไรคืบหน้าและข้อมูลทางฝั่งไทยเป็นแค่ข่าวลือเชื่อถือไม่ได้เท่านั้นเอง