โฆษกศาลรัฐธรรมนูญแถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า ที่ประชุมได้พิจารณาคำร้องของนายอดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)คณาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และนักศึกษา รวมทั้งสิ้น ๑๔๘ รายชื่อ ขอให้วินิจฉัยพิจารณายับยั้งหรือยุติโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่าโครงการดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญมาตรา ๔๓ และมาตรา๘๔ (๑)โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาและเห็นว่า การที่จะรับคำร้องใดไว้พิจารณาวินิจฉัย จะต้องมีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและกฎหมายให้อำนาจไว้ แต่คำร้องนี้เป็นการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญยับยั้งหรือยุติโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งเป็นกรณีที่ไม่อยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบกับผู้ร้องยังมิใช่บุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพ อันสืบเนื่องมาจากบทบัญญัติแห่งกฎหมายและมิใช่เป็นการขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ คำร้องนี้จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๑๒ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณา
เมื่อถามว่าคำร้องนี้ถือว่าตกไปเลยหรือไม่ โฆษกศาลรัฐธรรมนูญกล่าวว่า ตกไปในส่วนของศาลรัฐธรรมนูญเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชัดว่า ไม่มีอำนาจพิจารณามาตรา ๘๔ (๑) ตามที่ผู้ร้องได้ร้องมา เป็นแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาวินิจฉัย อีกทั้งผู้ร้องไม่มีอำนาจในการยื่นตรงต่อศาล ผู้ร้องต้องไปศึกษาว่านโยบายดังกล่าว อยู่ในอำนาจการพิจารณาขององค์กรใด และหากองค์กรนั้นพิจารณาแล้วเห็นว่า โครงการรับจำนำข้าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็สามารถส่งเรื่องต่อมาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป
ต่อมาที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่า เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันจะให้กระทรวงพาณิชย์แถลงข่าวชี้แจงอีกครั้งหนึ่งว่า การจำนำข้าวที่เราขายข้าวแบบจีทูจี ๘ ล้านตัน มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง โดยหลักๆ คงจะให้ชี้แจงเป็นกลุ่มว่า ตั้งแต่เริ่มการเซ็นสัญญาเอ็มโอยูกับประเทศใด และจากนั้นไปขั้นตอนการทำสัญญาเปิดแอลซี และการส่งมอบจะให้ชี้แจงรายละเอียดให้ทราบ เมื่อถามว่ากระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งกับนายกฯ หรือไม่ว่ามีการทำจีทูจีกับประเทศใด เหตุใดจึงยังเปิดเผยตอนนี้ไม่ได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า เดี๋ยวจะมีการเปิดเผยเพราะว่าบางอย่างจะเป็นขั้นตอนของเนื้อหาที่เป็นความลับในการซื้อขาย แต่เราจะทำให้มากที่สุดเท่าที่ให้ได้เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันว่า ทุกอย่างมีขั้นตอนมีรายละเอียดและทำทุกอย่างโดยโปร่งใส
สำหรับเรื่องปัญหาทุจริตในโครงการว่า จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่าเรื่องปัญหาทุจริตต้องมองหลายๆ ขั้นตอนในเชิงนโยบายคงทราบแล้วว่า จากผลการสำรวจของโพลเป็นการช่วยดูแลความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน เกษตรกรแต่ในเรื่องระเบียบมีการเติมในส่วนต่างๆ ที่มีข้อห่วงใยในขั้นตอนการปฏิบัติอยู่ที่การตรวจจับให้มากที่สุด ได้ตั้งร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ไปสำรวจตรวจตรา และจะเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด กับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ลงไปทำงานอย่างใกล้ชิดให้เกิดความโปร่งใสและสบายใจ ไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายมองว่า นโยบายของรัฐบาลดี แต่ระบบตรวจสอบควรมีตั้งแต่แรก ไม่ควรให้เกิดเหตุแล้วมาตรวจสอบตอนหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า ต้องเรียนว่ากระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบอยู่แล้ว แต่เราอยากให้โครงการนี้โปร่งใสมากขึ้น เลยเพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบเข้าไป เมื่อถามว่าวันนี้พบว่ามีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในการทุจริตหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงว่าไม่เอาเรื่องอื่นแล้วเหรอ เอาเรื่องข้าวอย่างเดียวใช่ไหม
ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของคณาจารย์นิด้าที่ยื่นเรื่องให้วินิจฉัยว่า โครงการรับจำนำข้าวขัดรัฐธรรมนูญมาตรา ๘๔ ว่า ได้บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าถึงอย่างไรศาลก็ไม่รับฟ้องแน่นอน เพราะเป็นเรื่องนโยบาย และหากมีการยื่นศาลปกครองก็เชื่อว่า ศาลไม่น่ารับฟ้องเช่นกัน เพราะหากรับฟ้องต้องเป็นเรื่องที่รัฐมีคำสั่งหรือรัฐกระทำ การกระทำของอาจารย์นิด้า ถือเป็นพวกกลุ่มสี่สุ่มหก ไม่มีงานทำ ถ้าอยากลงเล่นการเมืองก็ให้ลาออกจากอาจารย์ แล้วมาลงสมัครเลือกตั้งและรัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากการปฏิวัติ แต่มาจากเสียงประชาชนและเมื่อศาลไม่รับฟ้องเช่นนี้จะเอาอะไรมาคลุมหัวเอาปี๊ปหรือไม่
ส่วนการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวนั้น อยู่ระหว่างดำเนินคดี บางส่วนอยู่ในข่ายต้องสงสัย ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีการทุจริต ๑ หมื่นล้านบาท
เมื่อถามว่า นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย นำข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตมาเปิดเผยว่า มีอดีตนายทหารวงแผนเพื่อหวังล้มรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ยังไม่ได้รับข้อมูล นายพร้อมพงศ์ไปได้มาจากไหนตนไม่ทราบ แต่ผู้ถูกดำเนินคดีขณะนี้เป็นเพียงระดับผู้ปฏิบัติหรือข้าราชการซีเล็กๆ แต่รัฐบาลชุดนี้ล้มยากถ้าไม่มีทุจริต
เมื่อถามว่าคำร้องนี้ถือว่าตกไปเลยหรือไม่ โฆษกศาลรัฐธรรมนูญกล่าวว่า ตกไปในส่วนของศาลรัฐธรรมนูญเพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชัดว่า ไม่มีอำนาจพิจารณามาตรา ๘๔ (๑) ตามที่ผู้ร้องได้ร้องมา เป็นแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาวินิจฉัย อีกทั้งผู้ร้องไม่มีอำนาจในการยื่นตรงต่อศาล ผู้ร้องต้องไปศึกษาว่านโยบายดังกล่าว อยู่ในอำนาจการพิจารณาขององค์กรใด และหากองค์กรนั้นพิจารณาแล้วเห็นว่า โครงการรับจำนำข้าวขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็สามารถส่งเรื่องต่อมาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป
ต่อมาที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์โครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่า เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันจะให้กระทรวงพาณิชย์แถลงข่าวชี้แจงอีกครั้งหนึ่งว่า การจำนำข้าวที่เราขายข้าวแบบจีทูจี ๘ ล้านตัน มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง โดยหลักๆ คงจะให้ชี้แจงเป็นกลุ่มว่า ตั้งแต่เริ่มการเซ็นสัญญาเอ็มโอยูกับประเทศใด และจากนั้นไปขั้นตอนการทำสัญญาเปิดแอลซี และการส่งมอบจะให้ชี้แจงรายละเอียดให้ทราบ เมื่อถามว่ากระทรวงพาณิชย์ได้แจ้งกับนายกฯ หรือไม่ว่ามีการทำจีทูจีกับประเทศใด เหตุใดจึงยังเปิดเผยตอนนี้ไม่ได้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า เดี๋ยวจะมีการเปิดเผยเพราะว่าบางอย่างจะเป็นขั้นตอนของเนื้อหาที่เป็นความลับในการซื้อขาย แต่เราจะทำให้มากที่สุดเท่าที่ให้ได้เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันว่า ทุกอย่างมีขั้นตอนมีรายละเอียดและทำทุกอย่างโดยโปร่งใส
สำหรับเรื่องปัญหาทุจริตในโครงการว่า จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่าเรื่องปัญหาทุจริตต้องมองหลายๆ ขั้นตอนในเชิงนโยบายคงทราบแล้วว่า จากผลการสำรวจของโพลเป็นการช่วยดูแลความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน เกษตรกรแต่ในเรื่องระเบียบมีการเติมในส่วนต่างๆ ที่มีข้อห่วงใยในขั้นตอนการปฏิบัติอยู่ที่การตรวจจับให้มากที่สุด ได้ตั้งร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ไปสำรวจตรวจตรา และจะเรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด กับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ลงไปทำงานอย่างใกล้ชิดให้เกิดความโปร่งใสและสบายใจ ไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายมองว่า นโยบายของรัฐบาลดี แต่ระบบตรวจสอบควรมีตั้งแต่แรก ไม่ควรให้เกิดเหตุแล้วมาตรวจสอบตอนหลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า ต้องเรียนว่ากระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบอยู่แล้ว แต่เราอยากให้โครงการนี้โปร่งใสมากขึ้น เลยเพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบเข้าไป เมื่อถามว่าวันนี้พบว่ามีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในการทุจริตหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยกล่าวเพียงว่าไม่เอาเรื่องอื่นแล้วเหรอ เอาเรื่องข้าวอย่างเดียวใช่ไหม
ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องของคณาจารย์นิด้าที่ยื่นเรื่องให้วินิจฉัยว่า โครงการรับจำนำข้าวขัดรัฐธรรมนูญมาตรา ๘๔ ว่า ได้บอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าถึงอย่างไรศาลก็ไม่รับฟ้องแน่นอน เพราะเป็นเรื่องนโยบาย และหากมีการยื่นศาลปกครองก็เชื่อว่า ศาลไม่น่ารับฟ้องเช่นกัน เพราะหากรับฟ้องต้องเป็นเรื่องที่รัฐมีคำสั่งหรือรัฐกระทำ การกระทำของอาจารย์นิด้า ถือเป็นพวกกลุ่มสี่สุ่มหก ไม่มีงานทำ ถ้าอยากลงเล่นการเมืองก็ให้ลาออกจากอาจารย์ แล้วมาลงสมัครเลือกตั้งและรัฐบาลนี้ไม่ได้มาจากการปฏิวัติ แต่มาจากเสียงประชาชนและเมื่อศาลไม่รับฟ้องเช่นนี้จะเอาอะไรมาคลุมหัวเอาปี๊ปหรือไม่
ส่วนการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวนั้น อยู่ระหว่างดำเนินคดี บางส่วนอยู่ในข่ายต้องสงสัย ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีการทุจริต ๑ หมื่นล้านบาท
เมื่อถามว่า นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย นำข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตมาเปิดเผยว่า มีอดีตนายทหารวงแผนเพื่อหวังล้มรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ยังไม่ได้รับข้อมูล นายพร้อมพงศ์ไปได้มาจากไหนตนไม่ทราบ แต่ผู้ถูกดำเนินคดีขณะนี้เป็นเพียงระดับผู้ปฏิบัติหรือข้าราชการซีเล็กๆ แต่รัฐบาลชุดนี้ล้มยากถ้าไม่มีทุจริต