จบสิ้นไปแล้วนะครับ สำหรับการแข่งขันกีฬาสองรายการใหญ่ของมวลมนุษยชาติ ทั้งโอลิมปิก และพาราลิมปิก ซึ่งทั้งสองรายการถือเป็นการแข่งขันกีฬารายการใหญ่สุดของโลก
พาราลิปิกเกมส์ (Paralympic Games) เป็นการแข่งขันกีฬาสำหรับคนพิการหลายประเภทจากทั่วโลก ดำเนินการโดยคณะกรรมการพาราลิมปิกสากล (International Paralympic Committee; IPC) ปัจจุบัน กีฬาพาราลิมปิกจะจัดขึ้น หลังการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสิ้นสุดลง ประเทศเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก จะเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกด้วย
การจัดแข่งขันกีฬาสำหรับคนพิการเดิมทีจัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ เพื่อเป็นการเสริมสร้างฟื้นฟูสมรรถภาพกายและใจ ของทหารผ่านศึก จากสงครามโลกครั้งที่ 2 การจัดแข่งขันในปี ค.ศ. 1952 ที่อังกฤษ มีทหารผ่านศึกชาวดัตช์ เข้าร่วมการแข่งขันด้วย นับเป็นการแข่งขันกีฬาคนพิการ ระดับนานาชาติครั้งแรกของโลก
จนถึงปี ค.ศ. 1988 คณะกรรมการโอลิมปิกสากล และสหพันธ์กีฬาคนพิการนานาชาติ (ปัจจุบันคือ คณะกรรมการพาราลิมปิกสากล) ร่วมกันขอความร่วมมือให้เจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพกีฬาพาราลิมปิก ควบคู่ไปในปีเดียวกัน
กีฬาพาราลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 8 ที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ เมื่อปี ค.ศ. 1988 เป็นการเริ่มต้นกีฬาพาราลิมปิกอย่างเป็นทางการ สำหรับปี 2012 การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนับเป็นครั้งที่ 30 ส่วนพาราลิมปิกนั้นก็เป็นครั้งที่ 14
ผลการแข่งขันของนักกีฬาพาราลิมปิกไทยปีนี้นับเป็นปีทองปีหนึ่ง หลังจากเคยประสพความสำเร็จได้ถึง 5 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ในการแข่งขันพาราลิมปิก ครั้งที่ 11ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ปีนี้ ทัพนักกีฬาพาราลิปิกประสพความสำเร็จเกินกว่าที่คาดหมายกันไว้ คือ สี่เหรียญทอง จากเทเบิล เทนนิส บอคเซียประภททีม และบุคคล และฟันดาบเอเป้บุคคลหญิง สองเหรียญเงินจากกีฬาประเภทวีลแชร์ สองเหรียญทองแดงจากวีลแชร์เรซซิ่ง
จะเห็นได้ชัดเลยนะครับว่าการกีฬาบ้านเราพัฒนาขึ้นมามากขนาดไหน ผลสำเร็จกีฬาหลากหลายประเภทมากขึ้น ชี้ให้เห็นว่า คนไทยมีความสามารถไม่แพ้ชาติไหนในโลก มีจิตใจต่อสู้ อดทนบากบั่น มีศักยภาพอีกมากในการพัฒนา หากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังต่อเนื่อง
นักกีฬาคนพิการจะได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากรัฐบาล ผ่านกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ประกาศอัดฉีดไว้ เหรียญทอง 6 ล้านบาท, เหรียญเงิน 4 ล้านบาท, เหรียญทองแดง 2 ล้านบาท และยังมีเงินอัดฉีดจากภาคเอกชนอีกหลายราย
พูดถึงเรื่องนี้แล้ว อดเขียนถึงคุณตันนักการตลาดที่หยิบฉวยโอกาสตามกระแสสถานการณ์ไม่ได้ กรณีให้เงินอัดฉีดโอลิมปิกแล้วไม่ให้เงินอัดฉีดพาราลิมปิกในตอนแรก ก่อนจะกลับลำมาอัดฉีดพาราลิมปิกด้วย ที่คุณตันบอกว่าไม่สามารถทำบุญได้ทุกวัด อันนี้พอเข้าใจการทำบุญหวังผลการตลาด แต่ผมว่าคุณตันก็เลือกทำบุญวัดที่ลำบาก วัดที่ด้วยโอกาสกว่าและต้องการการพัฒนาปรับปรุง ก็ได้นะครับ
คงต้องเริ่มที่นโยบายและการบริหารงานภาครัฐ ซึ่งมีงบประมาณมากมายจากภาษีของประชาชนเจ้าของประเทศนี้ ทำไมต้องเอากระทรวงกีฬามารวมกับการท่องเที่ยว ผมว่าสองอย่างนี้ควรจะแยกออกจากกัน เพราะหลักการเป้าหมายวัตถุประสงค์ในการทำงานการบริหารและการจัดการ แตกต่างกัน
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะผลประโยชน์ของนักการเมืองใช่หรือไม่ หรือเขาคิดแผลงๆว่าจะเอานักมวยของเรามาเป็นไกด์นำเที่ยว แล้วเอานักกีฬาที่ได้เหรียญทองหรือเหรียญรางวัลมาเป็นพรีเซนเตอร์กันหรืออย่างไร
บทบาทของกระทรวงไม่ชัดเจนแบบนี้แล้วเราจะหวังอะไรกับกระทรวงนี้ได้อีก ดูจากการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาวงการกีฬาอันน้อยนิดถ้าเทียบกับงบด้านอื่น ทั้งที่การกีฬามีบทบาทสำคัญต่อเยาวชนอนาคตของสังคมไทย และสุขภาพพลานามัยของคนทั้งประเทศ ยังดีที่กีฬาบางประเภทมีการพัฒนาด้วยตัวเองและภาคเอกชนมากขึ้น ไม่งั้นคงแย่
เมื่อเราคาดหวังอะไรจากกระทรวงได้ไม่มากนัก สิ่งที่ต้องจับตามองคือสมาคมกีฬาประเภทต่างๆ สำหรับสมาคมกีฬาที่มีผลงานในโอลิมปิกดีมาต่อเนื่อง อย่างสมาคมมวย สมาคมยกน้ำหนัก เทควันโด เป็นต้น ก็จะมีงบและมีการสนับสนุนมากกว่าสมาคมอื่นๆ
จริงๆเราคววรมีการเฉลี่ยงบประมาณ เกลี่ยให้ใกล้เคียงกัน อย่างน้อยทุกสมาคมควรมีเงินสนับสนุนขั้นต่ำปีละเท่าๆกัน แล้วส่วนที่เหลือจะมีการหารายได้ด้วยการจัดการแข่งขันหรือทำกิจกรรมระดมทุนอื่นๆก็ค่อยมาคิดกัน แต่ไม่ใช่อัดเงินไปที่บางสมาคมมาก จนกลายเป็นการเปิดช่องให้มีฝูงเหลือบรุมทึ้งเข้าไปทุจริตคอรัปชั่นกันเหมือนที่ผ่านๆมา
ผลงานของนักกีฬาโอลิมปิกปีนี้ถือว่าตกลงไปมาก ไม่ว่าจะมวย ไม่ว่าจะยกน้ำหนัก ที่เราเคยทำผลงานชนิดที่ว่าได้ลุ้นตลอด แต่ปีนี้ไม่ได้เลยสักเหรียญทองเดียว ก็เข้าใจว่านักกีฬาไทยทุ่มสุดตัวแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าเราแพ้จริงๆแล้วหันกลับมามองว่าจะแก้ไขและพัฒนากันอย่างไร อย่ามัวโทษกรรมการ อย่าเอาแต่โทษคนอื่น บางทีก็อาจจะต้องหันกลับมามองตัวเราเองเป็นหลักบ้างเหมือนกัน
ปีนี้นักกีฬาพาราลิมปิกของเราทำผลงานได้ดีกว่านักกีฬาโอลิมปิก อันนี้ต้องนับถือนักกีฬาพาราลิมปิกเลยละครับว่า ถึงสภาพร่างกายของพวกเขาอาจจะดูไม่พร้อม แต่ใจนี่สู้เกินร้อยจริงๆ
สำหรับผมไม่ว่านักกีฬาโอลิมปิกหรือพาราลิมปิกก็เป็นฮีโร่เหมือนๆกัน เราควรมีการอัดฉีดรางวัลให้กับสมาคมและผู้ที่ได้เหรียญรางวัลจากโอลิมปิกและพาราลิมปิกให้เท่าๆอย่างเท่าเทียม ไม่แบ่งเกรดชั้น ด้วยฐานคิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน
โดยเฉพาะนักกีฬาพาราลิมปิก พวกเขาควรได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเวลาไม่มีแข่งก็ให้พวกเขาต้องไปขายลลอตเตอรีอยู่ข้างถนน คนเหล่านี้มีศักยภาพมากกว่านั้น และสามารถทำอะไรได้อีกเยอะหากสังคมให้โอกาส
กีฬาเป็นเหมือนดนตรี เหมือนศิลปะ มีความเป็นสากล เป็นการออกกำลังกาย การละเล่นและแข่งขัน เป็นการดึงเอาความสามารถทางร่างกาย คนจะยิงธนูสายตาไม่ดีก็ยิงไม่แม่น คนวิ่งไม่เร็วก็คงไม่ได้รับการคัดเลือก ส่งมาเป็นนักกีฬาวิ่งแข่ง เป็นสุขภาพทางร่างกาย และยังมีผลสำคัญต่อสุขภาพจิตใจอารมณ์ด้วย
กีฬามันสอนอะไรเราได้มากกว่าแค่รู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย ทุกวันนี้เบี่ยงเบนไปทางผลประโยชน์ ทั้งเรื่องเงินทองและอำนาจ กีฬาสมัยนี้มีการเมืองเข้ามามีเอี่ยวเกี่ยวข้องด้วยตลอดเวลา ทำให้ความสุข ความสนุกและคุณค่าที่แท้จริงของกีฬาบางประเภทลดน้อยลงไป
กีฬาควรเป็นกีฬาจริงๆ เป็นการแข่งขันกีฬาที่ไม่มีการเมือง ไม่มีผลประโยชน์และอำนาจแอบแฝง ไม่มีการพนัน ไม่มีการฟอกเงิน ไม่มีการโกงกินเข้ามาแทรกได้ เพราะกีฬามีคุณค่าต่อความเป็นมนุษย์ ถือเป็นอีกหนึ่งในพื้นฐานสำคัญขอการพัฒนาประเทศ
พาราลิปิกเกมส์ (Paralympic Games) เป็นการแข่งขันกีฬาสำหรับคนพิการหลายประเภทจากทั่วโลก ดำเนินการโดยคณะกรรมการพาราลิมปิกสากล (International Paralympic Committee; IPC) ปัจจุบัน กีฬาพาราลิมปิกจะจัดขึ้น หลังการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสิ้นสุดลง ประเทศเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก จะเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกด้วย
การจัดแข่งขันกีฬาสำหรับคนพิการเดิมทีจัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ เพื่อเป็นการเสริมสร้างฟื้นฟูสมรรถภาพกายและใจ ของทหารผ่านศึก จากสงครามโลกครั้งที่ 2 การจัดแข่งขันในปี ค.ศ. 1952 ที่อังกฤษ มีทหารผ่านศึกชาวดัตช์ เข้าร่วมการแข่งขันด้วย นับเป็นการแข่งขันกีฬาคนพิการ ระดับนานาชาติครั้งแรกของโลก
จนถึงปี ค.ศ. 1988 คณะกรรมการโอลิมปิกสากล และสหพันธ์กีฬาคนพิการนานาชาติ (ปัจจุบันคือ คณะกรรมการพาราลิมปิกสากล) ร่วมกันขอความร่วมมือให้เจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพกีฬาพาราลิมปิก ควบคู่ไปในปีเดียวกัน
กีฬาพาราลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 8 ที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ เมื่อปี ค.ศ. 1988 เป็นการเริ่มต้นกีฬาพาราลิมปิกอย่างเป็นทางการ สำหรับปี 2012 การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกนับเป็นครั้งที่ 30 ส่วนพาราลิมปิกนั้นก็เป็นครั้งที่ 14
ผลการแข่งขันของนักกีฬาพาราลิมปิกไทยปีนี้นับเป็นปีทองปีหนึ่ง หลังจากเคยประสพความสำเร็จได้ถึง 5 เหรียญทอง 4 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ในการแข่งขันพาราลิมปิก ครั้งที่ 11ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย
ปีนี้ ทัพนักกีฬาพาราลิปิกประสพความสำเร็จเกินกว่าที่คาดหมายกันไว้ คือ สี่เหรียญทอง จากเทเบิล เทนนิส บอคเซียประภททีม และบุคคล และฟันดาบเอเป้บุคคลหญิง สองเหรียญเงินจากกีฬาประเภทวีลแชร์ สองเหรียญทองแดงจากวีลแชร์เรซซิ่ง
จะเห็นได้ชัดเลยนะครับว่าการกีฬาบ้านเราพัฒนาขึ้นมามากขนาดไหน ผลสำเร็จกีฬาหลากหลายประเภทมากขึ้น ชี้ให้เห็นว่า คนไทยมีความสามารถไม่แพ้ชาติไหนในโลก มีจิตใจต่อสู้ อดทนบากบั่น มีศักยภาพอีกมากในการพัฒนา หากได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังต่อเนื่อง
นักกีฬาคนพิการจะได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากรัฐบาล ผ่านกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่ประกาศอัดฉีดไว้ เหรียญทอง 6 ล้านบาท, เหรียญเงิน 4 ล้านบาท, เหรียญทองแดง 2 ล้านบาท และยังมีเงินอัดฉีดจากภาคเอกชนอีกหลายราย
พูดถึงเรื่องนี้แล้ว อดเขียนถึงคุณตันนักการตลาดที่หยิบฉวยโอกาสตามกระแสสถานการณ์ไม่ได้ กรณีให้เงินอัดฉีดโอลิมปิกแล้วไม่ให้เงินอัดฉีดพาราลิมปิกในตอนแรก ก่อนจะกลับลำมาอัดฉีดพาราลิมปิกด้วย ที่คุณตันบอกว่าไม่สามารถทำบุญได้ทุกวัด อันนี้พอเข้าใจการทำบุญหวังผลการตลาด แต่ผมว่าคุณตันก็เลือกทำบุญวัดที่ลำบาก วัดที่ด้วยโอกาสกว่าและต้องการการพัฒนาปรับปรุง ก็ได้นะครับ
คงต้องเริ่มที่นโยบายและการบริหารงานภาครัฐ ซึ่งมีงบประมาณมากมายจากภาษีของประชาชนเจ้าของประเทศนี้ ทำไมต้องเอากระทรวงกีฬามารวมกับการท่องเที่ยว ผมว่าสองอย่างนี้ควรจะแยกออกจากกัน เพราะหลักการเป้าหมายวัตถุประสงค์ในการทำงานการบริหารและการจัดการ แตกต่างกัน
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะผลประโยชน์ของนักการเมืองใช่หรือไม่ หรือเขาคิดแผลงๆว่าจะเอานักมวยของเรามาเป็นไกด์นำเที่ยว แล้วเอานักกีฬาที่ได้เหรียญทองหรือเหรียญรางวัลมาเป็นพรีเซนเตอร์กันหรืออย่างไร
บทบาทของกระทรวงไม่ชัดเจนแบบนี้แล้วเราจะหวังอะไรกับกระทรวงนี้ได้อีก ดูจากการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาวงการกีฬาอันน้อยนิดถ้าเทียบกับงบด้านอื่น ทั้งที่การกีฬามีบทบาทสำคัญต่อเยาวชนอนาคตของสังคมไทย และสุขภาพพลานามัยของคนทั้งประเทศ ยังดีที่กีฬาบางประเภทมีการพัฒนาด้วยตัวเองและภาคเอกชนมากขึ้น ไม่งั้นคงแย่
เมื่อเราคาดหวังอะไรจากกระทรวงได้ไม่มากนัก สิ่งที่ต้องจับตามองคือสมาคมกีฬาประเภทต่างๆ สำหรับสมาคมกีฬาที่มีผลงานในโอลิมปิกดีมาต่อเนื่อง อย่างสมาคมมวย สมาคมยกน้ำหนัก เทควันโด เป็นต้น ก็จะมีงบและมีการสนับสนุนมากกว่าสมาคมอื่นๆ
จริงๆเราคววรมีการเฉลี่ยงบประมาณ เกลี่ยให้ใกล้เคียงกัน อย่างน้อยทุกสมาคมควรมีเงินสนับสนุนขั้นต่ำปีละเท่าๆกัน แล้วส่วนที่เหลือจะมีการหารายได้ด้วยการจัดการแข่งขันหรือทำกิจกรรมระดมทุนอื่นๆก็ค่อยมาคิดกัน แต่ไม่ใช่อัดเงินไปที่บางสมาคมมาก จนกลายเป็นการเปิดช่องให้มีฝูงเหลือบรุมทึ้งเข้าไปทุจริตคอรัปชั่นกันเหมือนที่ผ่านๆมา
ผลงานของนักกีฬาโอลิมปิกปีนี้ถือว่าตกลงไปมาก ไม่ว่าจะมวย ไม่ว่าจะยกน้ำหนัก ที่เราเคยทำผลงานชนิดที่ว่าได้ลุ้นตลอด แต่ปีนี้ไม่ได้เลยสักเหรียญทองเดียว ก็เข้าใจว่านักกีฬาไทยทุ่มสุดตัวแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าเราแพ้จริงๆแล้วหันกลับมามองว่าจะแก้ไขและพัฒนากันอย่างไร อย่ามัวโทษกรรมการ อย่าเอาแต่โทษคนอื่น บางทีก็อาจจะต้องหันกลับมามองตัวเราเองเป็นหลักบ้างเหมือนกัน
ปีนี้นักกีฬาพาราลิมปิกของเราทำผลงานได้ดีกว่านักกีฬาโอลิมปิก อันนี้ต้องนับถือนักกีฬาพาราลิมปิกเลยละครับว่า ถึงสภาพร่างกายของพวกเขาอาจจะดูไม่พร้อม แต่ใจนี่สู้เกินร้อยจริงๆ
สำหรับผมไม่ว่านักกีฬาโอลิมปิกหรือพาราลิมปิกก็เป็นฮีโร่เหมือนๆกัน เราควรมีการอัดฉีดรางวัลให้กับสมาคมและผู้ที่ได้เหรียญรางวัลจากโอลิมปิกและพาราลิมปิกให้เท่าๆอย่างเท่าเทียม ไม่แบ่งเกรดชั้น ด้วยฐานคิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน
โดยเฉพาะนักกีฬาพาราลิมปิก พวกเขาควรได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่ว่าเวลาไม่มีแข่งก็ให้พวกเขาต้องไปขายลลอตเตอรีอยู่ข้างถนน คนเหล่านี้มีศักยภาพมากกว่านั้น และสามารถทำอะไรได้อีกเยอะหากสังคมให้โอกาส
กีฬาเป็นเหมือนดนตรี เหมือนศิลปะ มีความเป็นสากล เป็นการออกกำลังกาย การละเล่นและแข่งขัน เป็นการดึงเอาความสามารถทางร่างกาย คนจะยิงธนูสายตาไม่ดีก็ยิงไม่แม่น คนวิ่งไม่เร็วก็คงไม่ได้รับการคัดเลือก ส่งมาเป็นนักกีฬาวิ่งแข่ง เป็นสุขภาพทางร่างกาย และยังมีผลสำคัญต่อสุขภาพจิตใจอารมณ์ด้วย
กีฬามันสอนอะไรเราได้มากกว่าแค่รู้แพ้รู้ชนะรู้อภัย ทุกวันนี้เบี่ยงเบนไปทางผลประโยชน์ ทั้งเรื่องเงินทองและอำนาจ กีฬาสมัยนี้มีการเมืองเข้ามามีเอี่ยวเกี่ยวข้องด้วยตลอดเวลา ทำให้ความสุข ความสนุกและคุณค่าที่แท้จริงของกีฬาบางประเภทลดน้อยลงไป
กีฬาควรเป็นกีฬาจริงๆ เป็นการแข่งขันกีฬาที่ไม่มีการเมือง ไม่มีผลประโยชน์และอำนาจแอบแฝง ไม่มีการพนัน ไม่มีการฟอกเงิน ไม่มีการโกงกินเข้ามาแทรกได้ เพราะกีฬามีคุณค่าต่อความเป็นมนุษย์ ถือเป็นอีกหนึ่งในพื้นฐานสำคัญขอการพัฒนาประเทศ