ฝ่ายค้านโดย นายจุลินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน แถลงการณ์บริหารงานของรัฐบาล ๑ ปีในหัวข้อ ”๑ปีรัฐบาลยิ่งลักษณ์โกหกสีขาว ๑๙ เรื่อง” โดยวันแรกกล่าวว่าเปิด ๔ เรื่อง คือ ๑.เจตนาปั้นตัวเลขส่งออกหลอกประชาชน ๒.ฝันค้างคนกทม.รอรถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย ๓.ปั้นน้ำยางเป็นตัว ๑๒๐ บาทต่อกก. ๔.ปรองดองจอมปลอมที่แท้ล้างผิดคืนเงินสิทธิให้คนคนเดียว
นายสรรเสริญ สมะลาภาส.ส.กทม. กล่าวว่าการโกหกตัวเลขการส่งออกของนายกิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกฯ และรมว.คลังเป็นการโกหกซ้ำซากทำลายความน่าเชื่อถือตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกโดยภาครัฐและผิดประมวลจริยธรรม ขอเรียกร้องให้นายกิตติรัตน์ลาออกแสดงความรับผิดชอบ หากไม่ลาออก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ต้องลงโทษร้ายแรงตามประมวลจริยธรรมทางการเมือง ถ้าไม่ทำ นายกฯ เข้าข่ายร่วมมือโกหกประชาชน
ส่วนนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่ารถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย รัฐบาลระบุว่าโครงการนี้ต้องรอให้รถไฟฟ้าเสร็จทั้งหมด ๑๐ สายก่อนถึงจะทำได้ เห็นว่าจะเสร็จในปี ๒๕๖๒ แต่รัฐบาลชุดนี้มีอายุแค่ปี ๒๕๕๘ เท่านั้น เรื่องนี้กลายเป็นฝันค้างของคนกทม.
น.พ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง กล่าวว่าสมัยประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลราคายางพาราอยู่ที่ ๑๘๓.๖๔ บาทต่อกก. จนถึงเมื่อวันที่ ๓ ก.ย. ๕๕ ราคาตกลงมาอยู่ที่ ๗๒ บาทต่อกก. ถือว่ารัฐบาลโกหกชาวสวนยางหน้าด้านๆ ว่าจะทำให้ยางพารามีราคา ๑๒๐ บาทต่อกก.โดยเร็ว ทำให้สูญเสียงบกว่า ๑ หมื่นล้านบาท เพื่อแทรกแซงแต่ก็ล้มเหลว ราคาลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะไม่มีประสบการณ์ ประเทศสูญเสียรายได้ส่งออกยางพารา ๑-๖ เดือนแรกกว่า ๑.๒ แสนล้านบาท ชาวยางพาราเสียผลประโยชน์กว่า ๘ หมื่นล้านบาท จนถึงสิ้นปีอาจสูญเสียถึง ๑ แสนล้านบาท
นายจุลินทร์กล่าวว่าโกหกสีขาวปรองดองจอมปลอม แม้รัฐบาลยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.ปรองดองฯ ให้เป็นเรื่องของสภาฯ แต่ครม.มีมติเมื่อวันที่ ๑ พ.ค.๕๕ รับทราบการดำเนินการตามข้อเสนอของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ตามที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และรมว.มหาดไทยประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้นหาข้อเท็จจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) เห็นควรจัดเวทีประชาเสวนา ซึ่งไม่เห็นด้วยที่จะนำภาษีของประชาชน ๑๑๗ ล้านบาท ไปสนับสนุนให้ออกพ.ร.บ.ปรองดองฯ และหาความชอบธรรมในการคืนเงิน ๔.๖ หมื่นล้านบาทให้กับคนคนเดียว
นายจุลินทร์ยังกล่าวว่า การประชุมสภาในกลางเดือนนี้ กระทู้สดยังคงเป็นเรื่องโกหกสีข่าวของนายกิตติรัตน์ที่สัปดาห์แรกไม่มาตอบ หวังว่าสัปดาห์ที่จะมาถึงนี้จะมาตอบกระทู้ด้วยตัวเอง และจะมีการตั้งกระทู้สดถามนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เรื่องการประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐบาล ๗.๕ แสนตัน เพราะต้องการทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดเนื่องจากประชาชนยังไม่ทราบถึงเรื่องการเปิดประมูลข้าวตั้งแต่ล๊อตแรก และมีพฤติกรรมปกปิดข้อมูลทำให้สงสัยว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น
นายชวนนท์ อินทรโกมายสุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ความเชื่อมั่นต่อทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะนี้ลดลงมาก โดยเฉพาะนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง หลังยอมรับเรื่องโกหกสีขาวปั้นตัวเลขเป้าการส่งออก ซ้ำร้ายยังกล่าวโทษข้าราชการเป็นผู้ให้ตัวเลข กล้าพูดแม้กระทั่งว่าไม่เห็นด้วยกับเป้าหมายการส่งออกดังกล่าว แต่ไม่กล้าคัดค้าน สะท้อนให้เห็นว่านอกจากนายกิตติรัตน์จะโกหกจนเป็นนิสัยแล้ว ยังพยายามโยนบาปและความผิดให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่เหมาะสมที่จะมีตำแหน่งใดๆ ในการบริหารที่ใช้ความรับผิดชอบ
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษก พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ยืนยันจะไม่ปรับนายกิตติรัตน์ ออกจากครม.ว่า เข้าใจได้ เพราะนายกิตติรัตน์ ไม่ได้มีความหมายเพียงแค่เป็นเพื่อนสนิทกับใครบางคนที่นายกฯ เกรงใจเท่านั้น ถ้าจะให้ดีการปรับครม.ควรปรับตัวนายกฯ ออกไปด้วย เพราะหมดเวลาของคนโกหก หมดเวลาฝึกงาน เสียเวลาประเทศชาติ
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลาออกเพื่อรับผิดชอบประเด็นโกหกสีขาวร่วมกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลังเป็นการเล่นการเมืองแบบเดิมๆ ลดความน่าเชื่อถือนายกฯ ฝ่ายค้านยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบแล้ว จึงไม่มีสาระ ขัดกับผลโพลล์ที่ประชาชนให้คะแนนรัฐบาลสอบผ่าน ขอฝากฝ่ายค้านให้ปรับปรุงค้านอย่างสร้างสรรค์ อย่าใช้วาทกรรมป้ายสี เป็นมลพิษทางสื่อและสายตาประชาชน
นายสรรเสริญ สมะลาภาส.ส.กทม. กล่าวว่าการโกหกตัวเลขการส่งออกของนายกิตติรัตน์ ณ ระนองรองนายกฯ และรมว.คลังเป็นการโกหกซ้ำซากทำลายความน่าเชื่อถือตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกโดยภาครัฐและผิดประมวลจริยธรรม ขอเรียกร้องให้นายกิตติรัตน์ลาออกแสดงความรับผิดชอบ หากไม่ลาออก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ต้องลงโทษร้ายแรงตามประมวลจริยธรรมทางการเมือง ถ้าไม่ทำ นายกฯ เข้าข่ายร่วมมือโกหกประชาชน
ส่วนนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่ารถไฟฟ้า ๒๐ บาทตลอดสาย รัฐบาลระบุว่าโครงการนี้ต้องรอให้รถไฟฟ้าเสร็จทั้งหมด ๑๐ สายก่อนถึงจะทำได้ เห็นว่าจะเสร็จในปี ๒๕๖๒ แต่รัฐบาลชุดนี้มีอายุแค่ปี ๒๕๕๘ เท่านั้น เรื่องนี้กลายเป็นฝันค้างของคนกทม.
น.พ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง กล่าวว่าสมัยประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลราคายางพาราอยู่ที่ ๑๘๓.๖๔ บาทต่อกก. จนถึงเมื่อวันที่ ๓ ก.ย. ๕๕ ราคาตกลงมาอยู่ที่ ๗๒ บาทต่อกก. ถือว่ารัฐบาลโกหกชาวสวนยางหน้าด้านๆ ว่าจะทำให้ยางพารามีราคา ๑๒๐ บาทต่อกก.โดยเร็ว ทำให้สูญเสียงบกว่า ๑ หมื่นล้านบาท เพื่อแทรกแซงแต่ก็ล้มเหลว ราคาลดลงอย่างต่อเนื่องเพราะไม่มีประสบการณ์ ประเทศสูญเสียรายได้ส่งออกยางพารา ๑-๖ เดือนแรกกว่า ๑.๒ แสนล้านบาท ชาวยางพาราเสียผลประโยชน์กว่า ๘ หมื่นล้านบาท จนถึงสิ้นปีอาจสูญเสียถึง ๑ แสนล้านบาท
นายจุลินทร์กล่าวว่าโกหกสีขาวปรองดองจอมปลอม แม้รัฐบาลยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับพ.ร.บ.ปรองดองฯ ให้เป็นเรื่องของสภาฯ แต่ครม.มีมติเมื่อวันที่ ๑ พ.ค.๕๕ รับทราบการดำเนินการตามข้อเสนอของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ตามที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และรมว.มหาดไทยประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้นหาข้อเท็จจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) เห็นควรจัดเวทีประชาเสวนา ซึ่งไม่เห็นด้วยที่จะนำภาษีของประชาชน ๑๑๗ ล้านบาท ไปสนับสนุนให้ออกพ.ร.บ.ปรองดองฯ และหาความชอบธรรมในการคืนเงิน ๔.๖ หมื่นล้านบาทให้กับคนคนเดียว
นายจุลินทร์ยังกล่าวว่า การประชุมสภาในกลางเดือนนี้ กระทู้สดยังคงเป็นเรื่องโกหกสีข่าวของนายกิตติรัตน์ที่สัปดาห์แรกไม่มาตอบ หวังว่าสัปดาห์ที่จะมาถึงนี้จะมาตอบกระทู้ด้วยตัวเอง และจะมีการตั้งกระทู้สดถามนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เรื่องการประมูลข้าวในสต๊อกของรัฐบาล ๗.๕ แสนตัน เพราะต้องการทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดเนื่องจากประชาชนยังไม่ทราบถึงเรื่องการเปิดประมูลข้าวตั้งแต่ล๊อตแรก และมีพฤติกรรมปกปิดข้อมูลทำให้สงสัยว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น
นายชวนนท์ อินทรโกมายสุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ความเชื่อมั่นต่อทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะนี้ลดลงมาก โดยเฉพาะนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง หลังยอมรับเรื่องโกหกสีขาวปั้นตัวเลขเป้าการส่งออก ซ้ำร้ายยังกล่าวโทษข้าราชการเป็นผู้ให้ตัวเลข กล้าพูดแม้กระทั่งว่าไม่เห็นด้วยกับเป้าหมายการส่งออกดังกล่าว แต่ไม่กล้าคัดค้าน สะท้อนให้เห็นว่านอกจากนายกิตติรัตน์จะโกหกจนเป็นนิสัยแล้ว ยังพยายามโยนบาปและความผิดให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่เหมาะสมที่จะมีตำแหน่งใดๆ ในการบริหารที่ใช้ความรับผิดชอบ
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษก พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ยืนยันจะไม่ปรับนายกิตติรัตน์ ออกจากครม.ว่า เข้าใจได้ เพราะนายกิตติรัตน์ ไม่ได้มีความหมายเพียงแค่เป็นเพื่อนสนิทกับใครบางคนที่นายกฯ เกรงใจเท่านั้น ถ้าจะให้ดีการปรับครม.ควรปรับตัวนายกฯ ออกไปด้วย เพราะหมดเวลาของคนโกหก หมดเวลาฝึกงาน เสียเวลาประเทศชาติ
ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลาออกเพื่อรับผิดชอบประเด็นโกหกสีขาวร่วมกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลังเป็นการเล่นการเมืองแบบเดิมๆ ลดความน่าเชื่อถือนายกฯ ฝ่ายค้านยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบแล้ว จึงไม่มีสาระ ขัดกับผลโพลล์ที่ประชาชนให้คะแนนรัฐบาลสอบผ่าน ขอฝากฝ่ายค้านให้ปรับปรุงค้านอย่างสร้างสรรค์ อย่าใช้วาทกรรมป้ายสี เป็นมลพิษทางสื่อและสายตาประชาชน