xs
xsm
sm
md
lg

สื่อสิ่งพิมพ์กำลังตาย

เผยแพร่:   โดย: พระบาท นามเมือง

ในสารจากประธานกรรมการบริษัทโรงพิมพ์ตะวันออกจำกัด (มหาชน) ถึงผู้ถือหุ้นประจำปี ๒๕๕๔ นายยุทธ สุภัคกุล กล่าวว่าในรอบปี ๒๕๕๔ บริษัทมีรายได้รวมลดลงจำนวน ๔๐.๕๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๖.๒๒ จากปี ๒๕๕๓ ทั้งนี้มีปัจจัยบางส่วนมาจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี การสื่อสารจากสื่อสิ่งพิมพ์สู่สื่อดิจิตอล เช่น E-Book, E-Magazine ข่าวSMS และ Website ต่างๆ

ไม่ใช่แต่บริษัทโรงพิมพ์ตะวันออกจำกัดเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ที่ต้องเผชิญกับการคุกคามของสื่อดิจิตอล สื่อสิ่งพิมพ์โดยรวมต้องพบกับคู่แข่งขันที่รุกล้ำเข้ามาอย่างรวดเร็วและครองพื้นที่ในตลาดผู้รับรู้
ข่าวสารอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน จนกล่าวได้ว่ายุคสมัยโลกาภิวัฒน์สื่อดิจิตอลได้เข้ามาแทนที่สื่อสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือพิมพ์ในตลาดคนรุ่นใหม่และนับวันจะมีความสำคัญต่อวงการโฆษณามากยิ่งขึ้น

การรุกของสื่อดิจิตอลเป็นไปทั่วโลกเมื่อเร็วๆ นี้ นสพ.ไฟแนนเชี่ยลไทม์แห่งลอนดอน ก็มีบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขียนโดย นายแอนดรู เอจคลิฟ-จอห์นสัน กล่าวถึงสถานะของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ตกต่ำใน
สหรัฐอเมริกา

เขารายงานว่าสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจรายงานเกี่ยวกับสถานะของหนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาว่า เป็นอุตสาหกรรมที่หดตัวเร็วที่สุด ทั้งนี้วัดจากอัตราของการสูญเสียการจ้างงานหรือเลิกจ้างมากที่สุด รวมทั้งการโฆษณาที่ลดลงอย่างมากในรอบหลายปีที่ผ่านมาก

ในยามที่ภาวะเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น รายได้ของสื่อโทรทัศน์หรือพวกป้ายโฆษณากลางแจ้งก็ดีขึ้นด้วย ขณะที่สถานะของสื่อสิ่งพิมพ์ยังคงรั้งท้ายอยู่ตามเดิม อีกทั้งยังมีการพยากรณ์ด้วยว่ารายได้จากการโฆษณาทางอินเทอร์เนตจากแซงหน้ารายได้ จากการโฆษณาของสื่อประเภทหนังสือพิมพ์ภายในปีหน้าทั่วโลก ซึ่งทำให้เห็นว่าอิทธิพลของสื่ออินเทอร์เนตนั้นมีมากแค่ไหนเมื่อเทียบกับสื่อประเภทสิ่งพิมพ์

ในสหรัฐอเมริกาอินเทอร์เนตเข้าถึงคนสูงมากกว่าคนอ่านหนังสือพิมพ์ที่มีปริมาณน้อยลง สื่อดิจิตอลก็จะแซงหน้าหนังสือพิมพ์และนิตยสารรวมกันในแง่การได้โฆษณาจากการประเมินของอีมาร์เกตเตอร์อีกด้วย

นี่คืออิทธิพลของสื่อดิจิตอลที่บ่งบอกว่า ปัจจัยด้านโฆษณาที่มากกว่าสื่อสิ่งพิมพ์อย่างหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่เคยเคยครองตลาดด้านการรับโฆษณามายาวนานนั้น บัดนี้กลับต้องพ่ายแพ้ต่อสื่อประเภทดิจิตอล ซึ่งกลายเป็นสื่อที่มีอิทธิพลไปเสียแล้ว เพราะเหตุว่าสื่อประเภทนี้รวมถึงสื่อประเภทมัลติมีเดียที่มีสีสันและมีลูกเล่นได้มากกว่า และมีความหลากหลายในแง่การเป็นสื่อโฆษณาที่ให้ทางเลือกที่ดีกว่า

ในแง่การทำหนังสือพิมพ์นั้นแหล่งข่าวใน Pew’s Project for Excellence in Journalism กล่าวว่า “ไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่าธุรกิจของหนังสือพิมพ์เรากำลังจะเจ๊ง” ซึ่งหมายความว่า ห้องข่าวลดขนาดลง หนังสือพิมพ์ส่งน้อยลงในหนึ่งสัปดาห์และหนังสือพิมพ์ก็จะปิดตัวเองลงในที่สุด

ผลการศึกษาจาก USC Annenberg มีข้อสรุปว่า หนังสือพิมพ์รายวันในสหรัฐอเมริกาจะหมดไปจากท้องตลาดในอีก ๕ ปีข้างหน้า ซึ่งก็หมายความว่าธุรกิจหนังสือพิมพ์รายวันในอเมริกาจะเจ๊งไปหมดนั่นเอง

กล่าวกันว่า พวกที่ได้เงินไปจากหนังสือพิมพ์ในยามวิกฤติมีอยู่สองพวก คือผู้บริหารระดับเอ็กซคิวตีฟกับที่ปรึกษาด้านการล้มละลายเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ผู้บริหารคนสำคัญระดับสูงของหนังสือพิมพ์แกนเนทและนิวยอร์คไทม์ที่ออกไปไม่นานมานี้ ได้รับเงินสูงถึง ๓๙ ล้านเหรียญ และ ๒๔ ล้านเหรียญ ตามลำดับ ขณะที่ที่ปรึกษาการล้มละลายของทริบูนส์ที่ได้รับเงินจากการดำเนินการไปตามคำสั่งศาลก็ได้เงินไป ๒๓๓ ล้านเหรียญเช่นกัน

แรงกดดันที่มีต่อสื่อสิ่งพิมพ์ทำให้ธุรกิจหนังสือพิมพ์ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะหาโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ เช่น เมื่อวันที่ ๕ มีนาคมปีนี้ ลอสเองเจลีสไทม์ ได้ริเริ่มโครงการสมาชิกจำกัดจำนวนผู้ใช้ออนไลน์ให้ได้รับบทความฟรีเพียง ๑๕ บทความต่อเดือน หลังจากนั้นต้องจ่ายในราคาที่สูงขึ้นและแพงกว่าที่จะรับไปพร้อมกับหนังสือพิมพ์ด้วย

แกนเนทประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ว่า หนังสือพิมพ์ชุมชนทั้ง ๘๐ ฉบับ จะเริ่มเปิดให้สมาชิกบอกรับในระบบดิจิตอลได้ โดยผู้พิมพ์คาดว่าจะได้กำไรเพิ่มเติมอีก ๑๐๐ ล้านเหรียญ

นิวยอร์คไทม์ซึ่งริเริ่มเก็บเงินค่าบริการออนไลน์ในด้านเนื้อหาข่าวสารได้ประมาณหนึ่งปีมาแล้ว มีสมาชิก ณ เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ๓๙๐,๐๐๐ รายแล้ว

นักวิเคราะห์ด้านอุตสาหกรรมข่าวสาร นายเคน ดอกเตอร์ กล่าวว่า ภายในสิ้นปีนี้ หนึ่งในห้าของหนังสือพิมพ์ในสหรัฐอเมริกาจะเป็นหนังสือพิมพ์ที่คิดค่าบริการออนไลน์ทั้งสิ้น

ครับ นี่คือการดิ้นเพื่อหนีตายของหนังสือพิมพ์อเมริกาครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น