xs
xsm
sm
md
lg

การเรียนรู้นอกห้องเรียน...ไปสู่ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมของประชาชน

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย


เช้าวันเสาร์ (10 มีนาคม 2555) ที่ผ่านมา ผมออกจากบ้านตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เดินทางด้วยรถไฟฟ้าไปถึงสวนลุมราวเจ็ดโมงเช้า ด้วยความหวังว่าฝนจะไม่ตก ไม่งั้นงานกร่อยแน่ๆ ก็เรียกว่าเกินหวังละครับ เพราะที่ไหนได้ไปถึงไม่ต้องเจอฝน แต่ก็ต้องเจอกับแดดจัดจ้านที่ร้อนระอุ จนเหงื่อท่วมแต่เช้าเลยทีเดียว

การนัดพบกัน ณ อาคารลีลาส สวนลุมพินีครั้งนี้ เป็นรูปแบบการประชุมครับ ไม่ใช่ว่าการชุมนุม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เน้นนะครับว่า เป็นการประชุม เสวนาระดมความคิดเห็น ภายใต้ชื่องานว่า หยุดเผด็จการรัฐสภา รวมพลังปฏิรูปประเทศไทย ครั้งที่ 1

ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของพันธมิตรก็คงทราบดีนะครับว่า การกลับมาสวนลุมฯนั้นมีนัยเหมือนกับการกลับมาเริ่มต้น ณ สถานที่นี้ เมื่อปี 2548 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของพันธมิตร ตั้งแต่สมัยที่คุณสนธิ กับพี่แอ้มสโรชาเคลื่อนย้ายมาจัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ที่นี่

หลายปีผ่านมา บางคนก็ได้ระลึกความหลัง บางคนมากับเพื่อน บางคนมากับครอบครัว บางคนตอนนั้นก็ยังหนุ่มสาวกว่าตอนนี้ บางคนอย่างคนรุ่นผม ก็ยังเป็นเยาวชนนักเรียนนักศึกษาอยู่เลยครับ บางคนเป็นจุดเริ่มต้นได้มาพบเพื่อนใหม่ที่สนิทสนมกลมเกลียวเป็นญาติมิตรกันมาจนถึงวันนี้ บางคนพบรักสานความสัมพันธ์จนได้แต่งงานสร้างครอบครัวกันก็มีครับ

การระดมความคิดเห็นของพันธมิตรครั้งนี้ ถือได้ว่าเป็นงานใหญ่ในรอบหลายๆเดือนที่พันธมิตรจัด และมีคนมาร่วมงานเยอะสุดในรอบหลายๆเดือนเช่นกัน

การประชุมกันในแต่ละครั้งของกลุ่มพันธมิตร สิ่งที่ผมจะได้พบเห็นและทราบซึ้งตลอดมาคือเรื่องของน้ำใจ ไมตรีจิต ที่มีให้กันเสมอ

มาร่วมงานแบบนี้ทีไร มีสิ่งที่ผมไม่เคยพลาดเลย คือการได้พบปะพูดคุยได้ฟังผู้ใหญ่และผู้มีความรู้หลายท่านทั้งหน้าเวที และหลังเวที ทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆ ได้รับฟังความคิดเห็นหลากหลายเรื่องราวและมุมมอง สำหรับผมนี่คือการเรียนรู้

แถมการพูดคุยกับผู้อาวุโส ผู้รู้ รวมทั้งพ่อแม่พี่น้อง ทำให้ผมต้องหันกลับมาย้อนมองตัวเองว่า มีเรื่องที่ผมยังไม่รู้อีกมากมาย บางเรื่องเรายังไม่มีข้อมูล หรือมีน้อยไปมีไม่พอ บางเรื่องมีแง่คิดมุมมองในการวิเคราะห์อีกหลายมุม นี่มีส่วนจุดบางประเด็นให้ ต้องไปอ่าน ไปคิด หรือค้นคว้าเพิ่มเติม

การเรียนรู้มันไม่มีที่สิ้นสุดเลยละครับ ยิ่งเมื่อมีโอกาสดีๆ ยิ่งน่าคว้าไว้นะครับ ผมคิดถึงประสพการณ์การเรียนรู้นอกห้องเรียน โดยเฉพาะน้องๆเยาวชน ที่เรียนในระดับโรงเรียนและมหาวิทยาลัย ที่ไม่ควรปิดกั้นการเรียนรู้ไว้เพียงในห้องแคบๆเล็กๆ หรืออย่าเอาแต่อ่านตำราจนไม่สนใจความเป็นไปของบ้านเมืองและโลกภายนอก

ผมว่าการเรียนรู้นอกห้องเรียน และการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคน เป็นเรื่องสำคัญ ในพื้นที่แคบๆช่วงเวลาสั้นๆ กับคนไม่กี่คนในห้องเรียนนั้น เป็นข้อจำกัดในการเรียนรู้ ในขณะที่ความรู้นอกห้องเรียนในสังคมและโลกกว้างนั้นมีอยู่มหาศาล

อย่างในวันนั้นผมได้รู้จักน้องสาวและน้องชายอีกสองคน ซึ่งมากับคุณแม่จากระยอง น้องสองคนนี้โตมาพร้อมๆกับการชุมนุมของพันธมิตร คุณแม่พามาด้วยตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กชั้นประถม จนตอนนี้จะจบ ม. 6 แล้วละครับ ก็ผ่านมาตั้งหกปีแล้วนี่ครับ

ในมุมของการเมือง ผมว่าการประชุมของกลุ่มพันธมิตรนั้นเป็นการเปิดพื้นที่การเรียนรู้ด้านประชาธิปไตย ของคน ทุกเพศทุกวัย ทุกวงการอาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติและเรียนรู้จากชีวิตจริงในสังคมที่เป็นจริง สำหรับผม นี่เป็นของแท้ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งที่อยู่ในกระดาษ หรือลมปากในห้องเรียน

ไม่ใช่แต่เพียงการเมือง วงเสวนาที่ประกอบไปด้วยผู้มีความรู้หลากหลาย ได้เปิดให้เราได้เรียนรู้และเข้าใจการเมืองเชื่อมโยงกับสังคมเศรษฐกิจ ทั้งในบ้านเมืองในเวลานี้ ทั้งความเป็นมาในอดีต ทั้งในบริบทของประเทศไทย และบริบทโลก และพร้อมจะรับมือกับมันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ไม่ใช่เพียงแค่การแสดงความคิดเห็นจากพันธมิตรภาคส่วนต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ระดมความคิด แต่ยังมุ่งสู่ปฏิบัติการ และกำหนดยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวร่วมกันต่อไป เรียกว่าไม่ใช่สักแต่ปากว่า แต่ลงมือทำกันจริงจัง

การแสดงความคิดเห็นการฟังเสียงของประชาชน นี่แหละครับ ถึงจะเรียกว่าประชาธิปไตย อย่างแท้จริง

เมื่อได้ฟังการแสดงความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนมากๆ ทำให้ผมมั่นใจจริงๆครับว่า ประชาชนที่มาร่วมประชุมครั้งนี้ต่างก็เป็นคนที่มีความรู้ความสนใจ รวมไปถึงความเข้าใจด้านการเมืองเป็นอย่างดี

กระบวนการเรียนรู้ของคนที่มาร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองของพันธมิตร ได้ผ่านการกลั่นกรองมาเป็นลำดับ ได้พัฒนาคุณภาพมาอย่างเข้มข้น นี่เองที่เรียกว่าบางทีจำนวนคนมากน้อยไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญอยู่ที่คุณภาพ

สำหรับผลสรุปของการประชุมครั้งนี้หลายๆท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วหละครับ เป้าหมายของพันธมิตรและพ่อแม่พี่น้องประชาชน คือการปฏิรูปประเทศไทยครั้งใหญ่ เตรียมเดินสายจัดเสวนาร่วมกับพ่อแม่พี่น้องทั่วประเทศ เปิดโปงระบอบเผด็จการรัฐสภาโดยทุนสามานย์ เพื่อรวมพลังปฏิรูปประเทศไทยในทุกด้าน

ภารกิจสำคัญนี้ อยู่ในมือพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกคนแล้วครับ รวมใจจับมือกันเดินไปสู่อนาคตอันสดใสด้วยกันครับ ประเทศไทยของเราต้องดีขึ้นและไปถึงจุดเป้าหมายของการปฏิรูปครั้งใหญ่ได้อย่างแน่นอนครับ

กำลังโหลดความคิดเห็น