ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อันทรงเกียรติแห่งประเทศไทย ทำเรื่องที่ประชาชนได้ยินได้ ได้ฟังได้เห็นแล้วรู้สึกสมเพชความน่าทุเรศของ ส.ส.เลวๆ ในประเทศนี้เหลือเกินครับ
ในวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ก่อนการลงมติ การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังผ่านการอภิปรายมาสองวัน ผ่านการพล่ามอวดอ้างโกหก ประท้วงก่อกวนป่วนกันด้วยเรื่องไร้สาระน่าเบื่อหน่าย
สุดท้ายผลการลงมติของสภาก็ออกมาด้วยตัวเลขสวยๆ ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน มองดูตัวเลขแล้วผมนึกถึงของเซลราคาถูกๆ ฝ่ายรัฐบาล 399เสียง ส่วนฝ่ายค้านก็ราคาถูกลงมาหน่อย สนนราคาที่ 199 เสียง
แต่เอาเถอะครับยังไงเสียงพวกนี้ก็ไร้ค่าไร้ราคาอยู่แล้ว การเปรียบเทียบกันในย่อหน้าก่อนหน้านี้มันอาจจะดูมีค่าเกินความเป็นจริงเสียด้วยซ้ำ
เอาละครับ เข้าเรื่องกันดีกว่า ผมพยายามอดทนฟังการอภิปรายของบรรดานักการเมืองในสภา บอกตามตรงว่ารำคาญแทบทนฟังไม่ได้ แต่ด้วยภาระหน้าที่การทำงานต้องกลั้นใจทน สิ่งที่คนเหล่านี้พูดบางครั้งมันยิ่งกว่าน้ำเน่าละครหลังข่าวตามฟรีทีวีเสียอีก
พฤติกรรมที่น่ารังเกียจสุดๆ การกระทำอันไร้เกียรติ ของ ส.ส. จอมก่อกวนป่วนสภา ด้วยอาการส่อว่ามึนเมากลางสภา จนมี ส.ส.หญิงพรรคฝ่ายค้านประท้วงขอให้ประธานสภาตรวจแอลกอฮอล์สมาชิกที่เข้ามาในห้องประชุม
การดื่มจนมึนเมาในสภาของนักการเมือง มันสะท้อนอะไรหลายๆอย่าง ทั้งตัวนักการเมือง และประชาชน รวมถึงมิติของสังคม
เคยมีคนบอกผมว่านักการเมืองสะท้อนถึงคุณภาพของประชาชน เพราะประชาชนเป็นคนเลือกตั้ง เลือกนักการเมืองเข้ามานั่งในสภา ประชาชนไม่มีคุณภาพ ส.ส. ก็ไร้คุณภาพอย่างที่เห็นนี่แหละ
ที่จริงพฤติกรรมถ่อยเถื่อนเลวทรามเกิดขึ้นในสภาไทยหลายต่อหลายครั้ง ท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกือกกระโดดถีบ ชกต่อย ใช้ความรุนแรงต่างๆ มากมายทั้งทางกายและวาจา
บางเรื่องก็ต้องขึ้นศาลกัน บางเรื่องมีการยื่นไปให้กรรมการจริยธรรมสภาฯ ตรวจสอบ เช่น พฤติกรรมขี้โกงไม่ซื่อสัตย์ด้วยการกดบัตรลงคะแนนแทนกันในที่ประชุมสภาฯ แต่จนถึงเวลานี้ก็ไม่สามารถเอาผิดใครได้
ผมว่าน้องๆเยาวชนในโรงเรียน ขี้โกงลอกคำตอบเพื่อน ทุจริตในการสอบกันมากขึ้นๆ ก็เพราะเรียนพฤติกรรมขี้โกงมาจากพวกผู้ใหญ่เลวๆ นี่แหละ เรียนสูงขึ้นไปกว่านั้นในระดับปริญญาตรีทั้งตรีโทเอก ก็มีระดับการทุจริตขี้โกงกันมากขึ้น
นี่ขนาดแวดวงการศึกษานะครับ ในวงราชการและทั่วทั้งสังคมโกงกันไปทั่วนั่นแหละครับ แทบจะหาคนยึดมั่นในคุณธรรมความซื่อสัตย์ยากเต็มทีแล้ว
นักการเมืองที่อ้างว่ามีเกียรติ มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ควรมีจิตสำนึกมากกว่าคนปรกติอย่างน้อยๆ เพราะพวกคุณเป็นบุคคลสาธารณะ ที่สำคัญต่ออนาคตของบ้านเมือง
แต่ก็อย่างว่าละครับจะไปคาดหวังอะไรกับนักการเมือง คนเหล่านี้คงสะกดคำสั้นๆ ง่ายๆ อย่างคำว่า ความดี ไม่ได้เลย อย่าไปคาดหวังกับคำอื่นๆ ที่อาจจะสะกดยากขึ้น อย่างคำว่า คุณธรรม จริยธรรม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักการเมือง
โครงการหลายๆ โครงการที่รณรงค์ให้เยาวชนทำดี พล่ามกันไปไม่อายปาก ผู้ใหญ่เองนั้นแหละที่ทำตัวอย่างแย่ๆให้เด็กเห็น ยิ่งนักการเมือง ยิ่งเป็นตัวอย่างสุดห่วยของเยาวชน
การถ่ายทอดสดการประชุมสภาไทย สมควรขึ้นคำว่า โปรดใช้วิจารณญาณ เด็กๆ ไม่ควรดู
การดื่มสุราของมึนเมา ในทางศีลธรรมของหลายศาสนา รวมทั้งศาสนาพุทธ ถือว่าผิดศีลธรรม เพราะดื่มแล้วขาดสตินะซิครับ
พระพุทธเจ้าสอนว่า สติมาปัญญาเกิด ดื่มเหล้าแล้วขาดสติ จะมีปัญญาเหลือหรือครับ สติไม่มี ปัญญาหดหาย จึงเหลือแต่คำถ่อยๆ จากการขาดสติหยามประธานสภาหลุดจากปากส.ส.ในสภาว่า “ท่านกลัวเขาเหรอ” หนักกว่านั้นอีก “เอ็งไปยอมมันได้ยังไง” นี่คือสิ่งที่สำรากออกมากลางสภานะครับ
ผมยังจำตอนเรียนมัธยม ที่ผ่านมาไม่นานว่า การมีกฎข้อห้าม ระเบียบวินัยในโรงเรียนของนักเรียนนั้น ถ้าทำผิดระเบียบวินัยก็จะถูกลงโทษ เป็นวิธีการป้องปรามไม่ให้คนทำสิ่งที่ไม่ดี
อันที่จริงคนที่รู้ผิดชอบชั่วดี เขาไม่ทำผิดไม่ทำชั่ว เพราะสำนึกว่าเป็นสิ่งไม่ดี โดยไม่ต้องคิดว่าคนอื่นจะรู้เห็นหรือไม่
การสร้างคนดีมีศีลธรรม มีคุณธรรมจริยธรรม ให้เขารักเกียรติมีศักดิ์ศรีของตัวเอง ไม่ต้องคอยให้ใครมาลงโทษ เขาก็จะไม่ทำผิดทำชั่ว ไม่ทำเพราะสำนึกรู้ว่าสิ่งใดไม่ดีไม่ควรทำ
นั่นเป็นเรื่องเด็กๆ เรื่องผู้ใหญ่มันเป็นเรื่องใหญ่กว่านั้นมาก เพราะต้องเป็นแบบอย่างให้เด็ก ยิ่งเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในสภา สังคมยิ่งต้องเรียกร้องมาตรฐานคุณธรรมจริยธรรมสูงกว่าคนกลุ่มอื่น
พฤติกรรม ส.ส.เน่าๆในสภา มันน่าอายจริงๆครับ ควรจะอายเด็ก อายสังคม อายประชาชน อายชาวโลก ถ้ายังมียางเหลืออยู่บ้างนะ
นักการเมืองประเทศอื่น อดีตรัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่น ที่ออกไปนั่งแถลงข่าวขณะมึนเมา สุดท้ายเจ้าตัวตัดสินใจลาออกเอง โดยไม่ต้องให้ใครมาสั่ง เป็นการแสดงความรับผิดชอบ ไม่หน้าด้านหน้าหนาอย่างนักการเมืองบ้านเรา
ล่าสุดยังมีหน้าข่มขู่จะฟ้องสื่อ ผมอยากยุให้ฟ้องเลยครับ จะได้พิสูจน์กัน พยานบุคคลจากส.ส.ทั้งผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ที่ได้เห็นได้ยินได้ฟังได้กลิ่นแอลกอฮอล์ในวันนั้นคงมีไม่น้อย รวมทั้งหลักฐานจากการบันทึกภาพการประชุมและกล้องวงจรปิด ถึงจะไม่ได้เป่าปากตรวจกันทันทีในวันนั้นก็เถอะ
ไม่มียางอาย หน้าด้าน ก็ถูไถต่อไป ชาวบ้านเขาเบื่อระอาเต็มทีแล้ว
ในวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ก่อนการลงมติ การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังผ่านการอภิปรายมาสองวัน ผ่านการพล่ามอวดอ้างโกหก ประท้วงก่อกวนป่วนกันด้วยเรื่องไร้สาระน่าเบื่อหน่าย
สุดท้ายผลการลงมติของสภาก็ออกมาด้วยตัวเลขสวยๆ ทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน มองดูตัวเลขแล้วผมนึกถึงของเซลราคาถูกๆ ฝ่ายรัฐบาล 399เสียง ส่วนฝ่ายค้านก็ราคาถูกลงมาหน่อย สนนราคาที่ 199 เสียง
แต่เอาเถอะครับยังไงเสียงพวกนี้ก็ไร้ค่าไร้ราคาอยู่แล้ว การเปรียบเทียบกันในย่อหน้าก่อนหน้านี้มันอาจจะดูมีค่าเกินความเป็นจริงเสียด้วยซ้ำ
เอาละครับ เข้าเรื่องกันดีกว่า ผมพยายามอดทนฟังการอภิปรายของบรรดานักการเมืองในสภา บอกตามตรงว่ารำคาญแทบทนฟังไม่ได้ แต่ด้วยภาระหน้าที่การทำงานต้องกลั้นใจทน สิ่งที่คนเหล่านี้พูดบางครั้งมันยิ่งกว่าน้ำเน่าละครหลังข่าวตามฟรีทีวีเสียอีก
พฤติกรรมที่น่ารังเกียจสุดๆ การกระทำอันไร้เกียรติ ของ ส.ส. จอมก่อกวนป่วนสภา ด้วยอาการส่อว่ามึนเมากลางสภา จนมี ส.ส.หญิงพรรคฝ่ายค้านประท้วงขอให้ประธานสภาตรวจแอลกอฮอล์สมาชิกที่เข้ามาในห้องประชุม
การดื่มจนมึนเมาในสภาของนักการเมือง มันสะท้อนอะไรหลายๆอย่าง ทั้งตัวนักการเมือง และประชาชน รวมถึงมิติของสังคม
เคยมีคนบอกผมว่านักการเมืองสะท้อนถึงคุณภาพของประชาชน เพราะประชาชนเป็นคนเลือกตั้ง เลือกนักการเมืองเข้ามานั่งในสภา ประชาชนไม่มีคุณภาพ ส.ส. ก็ไร้คุณภาพอย่างที่เห็นนี่แหละ
ที่จริงพฤติกรรมถ่อยเถื่อนเลวทรามเกิดขึ้นในสภาไทยหลายต่อหลายครั้ง ท่าน ส.ส.ผู้ทรงเกือกกระโดดถีบ ชกต่อย ใช้ความรุนแรงต่างๆ มากมายทั้งทางกายและวาจา
บางเรื่องก็ต้องขึ้นศาลกัน บางเรื่องมีการยื่นไปให้กรรมการจริยธรรมสภาฯ ตรวจสอบ เช่น พฤติกรรมขี้โกงไม่ซื่อสัตย์ด้วยการกดบัตรลงคะแนนแทนกันในที่ประชุมสภาฯ แต่จนถึงเวลานี้ก็ไม่สามารถเอาผิดใครได้
ผมว่าน้องๆเยาวชนในโรงเรียน ขี้โกงลอกคำตอบเพื่อน ทุจริตในการสอบกันมากขึ้นๆ ก็เพราะเรียนพฤติกรรมขี้โกงมาจากพวกผู้ใหญ่เลวๆ นี่แหละ เรียนสูงขึ้นไปกว่านั้นในระดับปริญญาตรีทั้งตรีโทเอก ก็มีระดับการทุจริตขี้โกงกันมากขึ้น
นี่ขนาดแวดวงการศึกษานะครับ ในวงราชการและทั่วทั้งสังคมโกงกันไปทั่วนั่นแหละครับ แทบจะหาคนยึดมั่นในคุณธรรมความซื่อสัตย์ยากเต็มทีแล้ว
นักการเมืองที่อ้างว่ามีเกียรติ มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ควรมีจิตสำนึกมากกว่าคนปรกติอย่างน้อยๆ เพราะพวกคุณเป็นบุคคลสาธารณะ ที่สำคัญต่ออนาคตของบ้านเมือง
แต่ก็อย่างว่าละครับจะไปคาดหวังอะไรกับนักการเมือง คนเหล่านี้คงสะกดคำสั้นๆ ง่ายๆ อย่างคำว่า ความดี ไม่ได้เลย อย่าไปคาดหวังกับคำอื่นๆ ที่อาจจะสะกดยากขึ้น อย่างคำว่า คุณธรรม จริยธรรม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักการเมือง
โครงการหลายๆ โครงการที่รณรงค์ให้เยาวชนทำดี พล่ามกันไปไม่อายปาก ผู้ใหญ่เองนั้นแหละที่ทำตัวอย่างแย่ๆให้เด็กเห็น ยิ่งนักการเมือง ยิ่งเป็นตัวอย่างสุดห่วยของเยาวชน
การถ่ายทอดสดการประชุมสภาไทย สมควรขึ้นคำว่า โปรดใช้วิจารณญาณ เด็กๆ ไม่ควรดู
การดื่มสุราของมึนเมา ในทางศีลธรรมของหลายศาสนา รวมทั้งศาสนาพุทธ ถือว่าผิดศีลธรรม เพราะดื่มแล้วขาดสตินะซิครับ
พระพุทธเจ้าสอนว่า สติมาปัญญาเกิด ดื่มเหล้าแล้วขาดสติ จะมีปัญญาเหลือหรือครับ สติไม่มี ปัญญาหดหาย จึงเหลือแต่คำถ่อยๆ จากการขาดสติหยามประธานสภาหลุดจากปากส.ส.ในสภาว่า “ท่านกลัวเขาเหรอ” หนักกว่านั้นอีก “เอ็งไปยอมมันได้ยังไง” นี่คือสิ่งที่สำรากออกมากลางสภานะครับ
ผมยังจำตอนเรียนมัธยม ที่ผ่านมาไม่นานว่า การมีกฎข้อห้าม ระเบียบวินัยในโรงเรียนของนักเรียนนั้น ถ้าทำผิดระเบียบวินัยก็จะถูกลงโทษ เป็นวิธีการป้องปรามไม่ให้คนทำสิ่งที่ไม่ดี
อันที่จริงคนที่รู้ผิดชอบชั่วดี เขาไม่ทำผิดไม่ทำชั่ว เพราะสำนึกว่าเป็นสิ่งไม่ดี โดยไม่ต้องคิดว่าคนอื่นจะรู้เห็นหรือไม่
การสร้างคนดีมีศีลธรรม มีคุณธรรมจริยธรรม ให้เขารักเกียรติมีศักดิ์ศรีของตัวเอง ไม่ต้องคอยให้ใครมาลงโทษ เขาก็จะไม่ทำผิดทำชั่ว ไม่ทำเพราะสำนึกรู้ว่าสิ่งใดไม่ดีไม่ควรทำ
นั่นเป็นเรื่องเด็กๆ เรื่องผู้ใหญ่มันเป็นเรื่องใหญ่กว่านั้นมาก เพราะต้องเป็นแบบอย่างให้เด็ก ยิ่งเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในสภา สังคมยิ่งต้องเรียกร้องมาตรฐานคุณธรรมจริยธรรมสูงกว่าคนกลุ่มอื่น
พฤติกรรม ส.ส.เน่าๆในสภา มันน่าอายจริงๆครับ ควรจะอายเด็ก อายสังคม อายประชาชน อายชาวโลก ถ้ายังมียางเหลืออยู่บ้างนะ
นักการเมืองประเทศอื่น อดีตรัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่น ที่ออกไปนั่งแถลงข่าวขณะมึนเมา สุดท้ายเจ้าตัวตัดสินใจลาออกเอง โดยไม่ต้องให้ใครมาสั่ง เป็นการแสดงความรับผิดชอบ ไม่หน้าด้านหน้าหนาอย่างนักการเมืองบ้านเรา
ล่าสุดยังมีหน้าข่มขู่จะฟ้องสื่อ ผมอยากยุให้ฟ้องเลยครับ จะได้พิสูจน์กัน พยานบุคคลจากส.ส.ทั้งผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ที่ได้เห็นได้ยินได้ฟังได้กลิ่นแอลกอฮอล์ในวันนั้นคงมีไม่น้อย รวมทั้งหลักฐานจากการบันทึกภาพการประชุมและกล้องวงจรปิด ถึงจะไม่ได้เป่าปากตรวจกันทันทีในวันนั้นก็เถอะ
ไม่มียางอาย หน้าด้าน ก็ถูไถต่อไป ชาวบ้านเขาเบื่อระอาเต็มทีแล้ว