การที่กลุ่มนิติราษฎร์เดินหน้าขอให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ และแก้ไขรัฐธรรมนูญ ได้กลายเป็นประเด็นระดับชาติ โดยมีหลายฝ่ายในสังคมรุมกันต่อต้าน เพราะเห็นว่ามีเนื้อหาบางส่วนบางประเด็นเกี่ยวพันถึงสถาบันพระมหากษัตริย์
เริ่มตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง ๕ เกี่ยวกับกลุ่มนิติราษฎร์ว่าเป็นเรื่องของความพยายามซึ่งมีคนอยู่หลายกลุ่มด้วยกัน กลุ่มหนึ่งอาจจะไม่ปกติ อยากทำโน่นอยากทำนี่ โดยไม่คิดว่าอะไรอะไรไม่ควร แต่เป็นบางส่วนเท่านั้น กลุ่มที่สอง คือนักวิชาการบางกลุ่มซึ่งนักวิชาการส่วนใหญ่กว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ยังรักและเทิดทูนสถาบัน แต่อยากจะถามบางส่วนว่าต้องกลับไปทบทวนว่า ตลอดระยะเวลาที่พระองค์ครองราชย์จนมีพระชนพรรษา ๘๔ พรรษามาแล้ว แต่คนที่เป็นนักวิชาการอายุแค่ ๓๐-๔๐ ปี เรียนหนังสือจบมาแล้ว เคยทำคุณประโยชน์อะไรให้กับแผ่นดินบ้างหรือไม่
ต้องเข้าใจว่าสถาบันทรงมีคุณต่อแผ่นดินอย่างไรเป็นประเด็นสำคัญ ไม่สามารถไปบังคับใครได้ ถ้าพูดแรงไปก็จะหาว่าไปบังคับหรือผูกขาดความจงรักภักดี ต้องการให้ทุกคนระลึกอยู่เสมอว่า บ้านเมืองมีชื่อเสียง เกียรติยศ ในโลกนี้ส่วนใหญ่ที่รู้จักประเทศไทย รู้จักมาจากสถาบันก่อนทั้งสิ้น ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนประเทศต่างๆ จนเขารู้จักประเทศไทยตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้
“ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหนเหมือนกัน ชาติตระกูล เกิดในประเทศไทยหรือไม่ก็ไม่รู้ ถ้าท่านพูดแรงพูดไม่ดีต่อสถาบันผมจำเป็นต้องใช้คำพูดที่ไม่ดีต่อท่าน เพราะท่านไม่เคยสำนึกในแผ่นดินไทยเลย.....คนทั้งแผ่นดินเคารพเทิดทูนสถาบัน แต่ท่านมาทำลายความรู้สึกของคนทั้งแผ่นดิน”
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มนิติราษฎร์เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ว่า ในส่วนของฝ่ายกฎหมายหรือส่วนที่เกี่ยวข้องก็ดำเนินการกันไป แต่ตำรวจจะทำหน้าที่รักษากฎหมายเป็นที่ตั้ง กรณีที่มีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายต้องจับตามอง นักวิชาการมีสิทธิแสดงความเห็นได้อิสระ ตำรวจไม่อาจก้าวก่ายการแสดงความคิดเห็นของแต่ละฝ่าย แต่ถ้าล้ำเส้นของกฎหมาย ตำรวจสันติบาลและตำรวจพื้นที่ก็ต้องดูแล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเข้าดำเนินการ
ในส่วนของรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยเด็ดขาดถ้าจะแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ และจะเป็นคนคัดค้านเอง แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตโดยกลุ่มนักข่าวว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนิติราษฎร์ดูจะเป็นเนื้อเดียวกันกับกลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่มและเชื่อมโยงถึงรัฐบาลด้วย เรื่องนี้ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่มีทางไปทำเรื่องแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เด็ดขาด ส่วนเวลากลุ่มนิติราษฎร์นั่งแถลงข่าวจะใส่เสื้อสีอะไรก็ได้ อย่าไปเหมารวม
ต่อคำถามที่ว่ามีการเสนอถึงขั้นให้แก้รัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่าเป็นพวกกินยาผิดซอง เป็นพวกเพ้อเจ้อ ไม่มีใครเอาด้วย บ้านเมืองร่มเย็นมาได้นับร้อยนับพันปีเพราะมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่าตนไม่กลัวที่จะเป็นศัตรูกับพวกนิติราษฎร์แต่ไม่มีสิทธิ์ไปปราบ แต่ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องว่ากันไป พวกนี้บางครั้งก็คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น เก่งกว่าคนอื่น
สำหรับกรณีมีข่าวว่ามีสื่อมวลชนในทำเนียบโพสต์ข้อความไม่บังควรลงไปเฟซบุคนั้น ร.ต.อ.เฉลิมว่า ไม่ทราบพร้อมกับกล่าวว่าสื่อในทำเนียบต้องดูแลกันเอง เมื่อสื่อบอกว่ามีการเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย และ น.อ.อนุดิษฐ นาครทรรพ รมว.ไอซีที เป็นผู้ก่อตั้งสื่อต้นสังกัดของนักข่าวผู้นั้น ร.ต.อ.เฉลิมบอกว่าไม่มี พรรคเพื่อไทยไม่มีสื่อ
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอุดมเดช รัตนเสถียร วิปรัฐบาลกล่าวว่า จุดยืนของรัฐบาลก็คือ แก้ไขมาตรา ๒๙๑ ให้มีส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นรูปแบบที่ทุกฝ่ายน่าจะยอมรับ เพราะมีความเชื่อมโยงกับภาคประชาชน นอกจากนี้ยืนยันว่าการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลจะไม่เกี่ยวข้อง หรือเชื่อมโยงไปถึงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เนื่องจากขณะนี้มีความพยายามนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลไปเชื่อมโยงกับการเสนอแก้ไขมาตรา ๑๑๒ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่มนิติราษฎร์ การที่นักวิชาการจะเสนอก็เป็นสิทธิของนักวิชาการ แต่ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ทั้งหมดจะต้องเป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภาเหมือนการเสนอกฎหมายของภาคประชาชน ซึ่งประธานรัฐสภาจะเป็นผู้พิจารณา ส่วนกรอบเวลาที่จะยื่นเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรน่าจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งที่มาของร่างแก้ไขคาดว่า จะมีผู้นำเสนอหลายส่วน เช่น ร่างของภาคประชาชน ร่างของพรรคเพื่อไทย ร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ร่างของ นปช.และอาจมีร่างของรัฐบาลอีกด้วย
เริ่มตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง ๕ เกี่ยวกับกลุ่มนิติราษฎร์ว่าเป็นเรื่องของความพยายามซึ่งมีคนอยู่หลายกลุ่มด้วยกัน กลุ่มหนึ่งอาจจะไม่ปกติ อยากทำโน่นอยากทำนี่ โดยไม่คิดว่าอะไรอะไรไม่ควร แต่เป็นบางส่วนเท่านั้น กลุ่มที่สอง คือนักวิชาการบางกลุ่มซึ่งนักวิชาการส่วนใหญ่กว่า ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ยังรักและเทิดทูนสถาบัน แต่อยากจะถามบางส่วนว่าต้องกลับไปทบทวนว่า ตลอดระยะเวลาที่พระองค์ครองราชย์จนมีพระชนพรรษา ๘๔ พรรษามาแล้ว แต่คนที่เป็นนักวิชาการอายุแค่ ๓๐-๔๐ ปี เรียนหนังสือจบมาแล้ว เคยทำคุณประโยชน์อะไรให้กับแผ่นดินบ้างหรือไม่
ต้องเข้าใจว่าสถาบันทรงมีคุณต่อแผ่นดินอย่างไรเป็นประเด็นสำคัญ ไม่สามารถไปบังคับใครได้ ถ้าพูดแรงไปก็จะหาว่าไปบังคับหรือผูกขาดความจงรักภักดี ต้องการให้ทุกคนระลึกอยู่เสมอว่า บ้านเมืองมีชื่อเสียง เกียรติยศ ในโลกนี้ส่วนใหญ่ที่รู้จักประเทศไทย รู้จักมาจากสถาบันก่อนทั้งสิ้น ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนประเทศต่างๆ จนเขารู้จักประเทศไทยตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้
“ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหนเหมือนกัน ชาติตระกูล เกิดในประเทศไทยหรือไม่ก็ไม่รู้ ถ้าท่านพูดแรงพูดไม่ดีต่อสถาบันผมจำเป็นต้องใช้คำพูดที่ไม่ดีต่อท่าน เพราะท่านไม่เคยสำนึกในแผ่นดินไทยเลย.....คนทั้งแผ่นดินเคารพเทิดทูนสถาบัน แต่ท่านมาทำลายความรู้สึกของคนทั้งแผ่นดิน”
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มนิติราษฎร์เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ว่า ในส่วนของฝ่ายกฎหมายหรือส่วนที่เกี่ยวข้องก็ดำเนินการกันไป แต่ตำรวจจะทำหน้าที่รักษากฎหมายเป็นที่ตั้ง กรณีที่มีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายต้องจับตามอง นักวิชาการมีสิทธิแสดงความเห็นได้อิสระ ตำรวจไม่อาจก้าวก่ายการแสดงความคิดเห็นของแต่ละฝ่าย แต่ถ้าล้ำเส้นของกฎหมาย ตำรวจสันติบาลและตำรวจพื้นที่ก็ต้องดูแล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเข้าดำเนินการ
ในส่วนของรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยเด็ดขาดถ้าจะแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ และจะเป็นคนคัดค้านเอง แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตโดยกลุ่มนักข่าวว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มนิติราษฎร์ดูจะเป็นเนื้อเดียวกันกับกลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่มและเชื่อมโยงถึงรัฐบาลด้วย เรื่องนี้ ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่ารัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่มีทางไปทำเรื่องแก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เด็ดขาด ส่วนเวลากลุ่มนิติราษฎร์นั่งแถลงข่าวจะใส่เสื้อสีอะไรก็ได้ อย่าไปเหมารวม
ต่อคำถามที่ว่ามีการเสนอถึงขั้นให้แก้รัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่าเป็นพวกกินยาผิดซอง เป็นพวกเพ้อเจ้อ ไม่มีใครเอาด้วย บ้านเมืองร่มเย็นมาได้นับร้อยนับพันปีเพราะมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่าตนไม่กลัวที่จะเป็นศัตรูกับพวกนิติราษฎร์แต่ไม่มีสิทธิ์ไปปราบ แต่ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องว่ากันไป พวกนี้บางครั้งก็คิดว่าตัวเองดีกว่าคนอื่น เก่งกว่าคนอื่น
สำหรับกรณีมีข่าวว่ามีสื่อมวลชนในทำเนียบโพสต์ข้อความไม่บังควรลงไปเฟซบุคนั้น ร.ต.อ.เฉลิมว่า ไม่ทราบพร้อมกับกล่าวว่าสื่อในทำเนียบต้องดูแลกันเอง เมื่อสื่อบอกว่ามีการเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย และ น.อ.อนุดิษฐ นาครทรรพ รมว.ไอซีที เป็นผู้ก่อตั้งสื่อต้นสังกัดของนักข่าวผู้นั้น ร.ต.อ.เฉลิมบอกว่าไม่มี พรรคเพื่อไทยไม่มีสื่อ
สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายอุดมเดช รัตนเสถียร วิปรัฐบาลกล่าวว่า จุดยืนของรัฐบาลก็คือ แก้ไขมาตรา ๒๙๑ ให้มีส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเป็นรูปแบบที่ทุกฝ่ายน่าจะยอมรับ เพราะมีความเชื่อมโยงกับภาคประชาชน นอกจากนี้ยืนยันว่าการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลจะไม่เกี่ยวข้อง หรือเชื่อมโยงไปถึงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เนื่องจากขณะนี้มีความพยายามนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลไปเชื่อมโยงกับการเสนอแก้ไขมาตรา ๑๑๒ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญของกลุ่มนิติราษฎร์ การที่นักวิชาการจะเสนอก็เป็นสิทธิของนักวิชาการ แต่ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ทั้งหมดจะต้องเป็นไปตามกระบวนการของรัฐสภาเหมือนการเสนอกฎหมายของภาคประชาชน ซึ่งประธานรัฐสภาจะเป็นผู้พิจารณา ส่วนกรอบเวลาที่จะยื่นเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรน่าจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งที่มาของร่างแก้ไขคาดว่า จะมีผู้นำเสนอหลายส่วน เช่น ร่างของภาคประชาชน ร่างของพรรคเพื่อไทย ร่างของพรรคร่วมรัฐบาล ร่างของ นปช.และอาจมีร่างของรัฐบาลอีกด้วย
