xs
xsm
sm
md
lg

รัฐธรรมนูญ ในวันที่ประชาชนตั้งคำถามว่า เป็นลูกของพระยาพหลหรือ?

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย


ตอนเด็กๆผมก็เหมือนคนไทยส่วนใหญ่ ได้ยินคำว่ารัฐธรรมนูญ เมื่อเข้าโรงเรียนแล้ว มีวันหยุดในวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี ก็รู้สึกดีมีวันหยุดหลายวันในเดือนนี้

รัฐธรรมนูญที่ผมเห็นเป็นรูปพานมีหนังสือพับแบบโบราณวางอยู่ข้างบนโดยไม่เข้าใจ อะไรมากกว่านี้ อยากรู้ว่าเมื่อก่อนคนไทยมีความรู้สึกนึกคิดต่อวันรัฐธรรมนูญอย่างไร วันนี้จึงขอเล่าสิ่งที่ได้กลับไปอ่านข้อมูลจากหนังสือ

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ 24 มิถุนายน 2475 หลังจากนั้นเพียงสามวันคณะราษฏรได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว คือ พระราชบัญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราวเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2475

เดิมคนไทยใช้คำภาษาอังกฤษทับศัพท์ว่า “คอนสติติวชั่น” แปลเป็นคำว่าธรรมนูญและรัฐธรรมนูญในภายหลัง เป็นคำศัพท์ใหม่ ทีคนทั่วไปไม่คุ้นเคย หลังการปฏิวัติใหม่ๆ จึงมีชาวบ้านสงสัยว่า รัฐธรรมนูญคืออะไร หรือเป็นลูกพระยาพหลพลพยุหเสนา หัวหน้าคณะราษฎร

การเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ 24 มิถุนายน 2475 เป็นการเปลี่ยนการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด เปลี่ยนแปลงศูนย์กลางอำนาจเดิม มาสู่ศูนย์กลางอำนาจใหม่

อุดมการณ์ของคณะราษฏรเป็นอุดมการณ์ใหม่ ที่ต้องการความเสมอภาคเท่าเทียมกัน ภายใต้กฎหมาย ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นราษฏรสามัญธรรมดา หรือมียศฐาบรรดาศักดิ์

การสร้างอุดมการณ์ประชาธิปไตยขึ้นมาแทนที่อุดมการณ์เก่า คณะราษฏรต้องสร้างสัญลักษณ์ที่มีความหมายถึงเป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง สัญลักษณ์นี้คือ รัฐธรรมนูญ

วันรัฐธรรมนูญ เป็นวันรำลึกถึงการประกาศใช้รัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของคณะราษฏร เมื่อ วันที่ 10 ธันวาคม 2475

คณ ะราษฏรใช้วิธีการ รูปแบบต่างๆในการสร้างสัญลักษณ์อุดมการใหม่ เช่น จำลองรัฐธรรมนูญแจกให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร อัญเชิญไปกับรถไฟขบวนพิเศษ นำไปประดิษฐานไว้ทุกจังหวัด

รัฐบาลยังได้จัดทำรรัฐธรรมนูญฉบับย่อ ให้กระทรวงธรรมการกำหนดให้นักเรียนทุกชั้นท่องบทรัฐธรรมนูญฉบับย่อให้จำได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

มีการจัดตั้งหน่วยจิตวิทยาเคลื่อนที่ ไปตามจังหวัดต่างๆ บางแห่งต้องขี่ม้า นั่งเกวียน ส่วนใหญ่ใช้รถบรรทุก มีไมโครโฟน หีบเสียง แผ่นเสียง เปิดเพลง แสดงรูปภาพรัฐธรรมนูญ แจกหนังสือเล่มเล็ก อธิบายการปกครองและรัฐธรรมนูญไปตามจังหวัดต่างๆ

สุดยอดของการสร้างสัญลักษณ์การเปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตย คือการสร้างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลางถนนราชดำเนิน มีการวางศิลาฤกษ์เมื่อ 24 มิถุนายน 2482 สร้างเสร็จในหนึ่งปี ทำพิธีเปิดเมื่อ 24 มิถุนายน 2483

พานรัฐธรรมนูญตั้งอยู่บนป้อมกลางอนุสาวรีย์สูง 3 เมตร หมายถึงเดือนสาม นับแบบปฏิทินไทยเดิม เดือนแรกของปีคือเดือนเมษายน ส่วนปีกสูงใหญ่ทั้งสี่ด้าน หมายถึงความรุ่งโรจน์ สูงจากพื้น 24 เมตร หมายถึงวันที่ 24

ปืนใหญ่โดยรอบมี 75 กระบอก หมายถึงปี 2475 มีพระขรรค์ 6 เล่มประกอบบานประตูรอบป้อมกลาง หมายถึงหลัก 6 ประการของคณะราษฎร ลวดลายภาพที่ฐาน แสดงประวัติการเปลี่ยนแปลงการปกครองของคณะราษฎร

ที่เอิกเกริกสนุกสนาน คือ มีการจัดงานฉลองรัฐธรรมนูญอย่างมโหฬารทั่วประเทศ ในปี 2476 รัฐบาลได้จัดให้มีงานฉลองยาวนานถึงครึ่งเดือน ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 12 ธันวาคม

ในปี 2477 ในกรุงเทพฯจัดงานที่วังสราญรมย์ ห้าวันห้าคืน ตั้งแต่วันที่ 8- 12 ธันวา วันแรกๆ เป็นงานพระราชพิธีต่างๆ ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องของการฉลองและจัดแสดงมหรสพ ไม่ว่าจะเป็นลิเก ละคร โขน งิ้ว และภาพยนตร์ ฯลฯ

ต่อมางานฉลองรัฐธรรมนูญถูกจัดอย่างยิ่งใหญ่และในหลายๆสถานที่ เช่น วังสราญรมย์ ท้องสนามหลวง ท่าราชวรดิฐ และเขาดินวนา

ประกอบด้วยพิธีอัญเชิญรัฐธรรมนูญจำลองออกมาแห่ ในขบวนประกอบด้วยข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน

ยังคงพิธีกรรมของพราหมณ์เป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์แบบราชสำนัก โปรยข้าวตอกดอกไม้นำขบวนแห่เพื่อเป็นศิริมงคล ทำพิธีเบิกแว่นเวียนเทียน และเจิมรัฐธรรมนูญ

รวมทั้งพิธีอัญเชิญรัฐธรรมนูญประดิษฐานเหนือบุษบกในเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ล่องตามแม่น้ำเจ้าพระยามาขึ้นที่ท่าราชวรดิษฐ์ มีการร้องเพลงเห่เรือชมรัฐธรรมนูญ ขึ้นต้นว่า...

ชาติศาสน์กษัตริย์ทั้ง ธรรมนูญ รัฐเอย
คือหลักคู่แหล่งจรูญ จรัสหล้า..

นอกจากนี้ ยังมีการแข่งกีฬา ออกร้านกลางท้องสนามหลวง มีมหรสพการละเล่นเต็มที่ และมีการริเริ่มประกวดนางสาวสยาม

ตามต่างจังหวัด มีการจัดงานฉลองรัฐธรรมนูญ เป็นงานใหญ่ประจำปีที่ศาลากลางจังหวัด ทำพิธีอัญเชิญรัฐธรรมนูญจำลองมาประดิษฐาน รวมทั้งการออกร้าน มีมหรสพตลอดห้าวันห้าคืน บางแห่งถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน

แม้แต่บทสวดมนต์ที่มีการพิมพ์แจกเมื่อปี 2477 ให้ประชาชนเลื่อมใสในหลักธรรมพระพุทธศาสนา ยังเพิ่มรัฐธรรมนูญลงไปในบทสวดด้วย “ ...สาธุ สาธุ คุณพระพุทธัง คุณพระธรรมัง คุณพระสังฆัง คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ คุณพระมหากษัตริย์ คุณรัฐธรรมนูญ ขอให้มีความสุขความเจริญเทอญ...”

นักเรียนหรือลูกเสือเมื่อต้องวันทยาหัตถ์ และ คำปฎิญาณของข้าราชการ หรือนักเรียน จะมีคำว่า ปฎิบัติตนเพื่อเป็นประโยชน์แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ

การพยายามสร้างสัญลักษณ์ใหม่คือ รัฐธรรมนูญ แทนสัญลักษณ์อุดมการณ์เก่า จนรัฐธรรมนูญออกแนวกลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ที่ต้องท่อง ต้องจำ และสักการะ

นับจากช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง งานฉลองรัฐธรรมนูญหยุดชะงักไปเพราะภาวะสงคราม หลังจากนั้นก็ค่อยๆเลือนหายไป คนไทยรุ่นผมไม่เคยได้เห็นงานนี้เลยสักครั้ง ยังดีนะครับที่มีให้อ่านในหนังสือของคุณแม่ที่ขนมาจากมหาวิทยาลัย หลังท่านเกษียณ

บทบาทความสำคัญของรัฐธรรมนูญในเชิงสัญลักษณ์ก็เปลี่ยนแปลงไป รัฐธรรมนูญถูกฉีกทิ้ง และมีการยกเลิก แก้ไขรัฐธรรมนูญหลายครั้งตลอด 79 ปีที่ผ่านมา มีแม้กระทั่งรัฐธรรมนูญฉบับใต้ตุ่ม ที่มีการเขียนแอบซ่อนไว้ใต้ตุ่ม แล้วนำมาประกาศใช้หลังยึดอำนาจได้แล้ว

จนถึงปัจจุบัน เรามีรัฐธรรมนูญฉบับที่ 18 แล้ว เรียกว่าการเมืองไทยใช้รัฐธรรมนูญเปลืองมากแถมประชาชนก็ยังมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องรัฐธรรมนูญน้อยพอๆกับเมื่อก่อน หรืออาจจะน้อยกว่าด้วยซ้ำ

จริงๆแล้วความรู้เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญนั้นรัฐบาลควรให้ความรู้แก่ประชาชนอย่างเต็มที่ ดูจากตัวอย่างในสมัยหลัง 2475 ที่มีการใช้หลากหลายวิธีให้ประชาชนได้เรียนรู้รัฐธรรมนูญ แต่เดียวนี้บรรดานักการเมืองกลับพยามให้คนไทยโง่ลง เพื่อที่จะได้ใช้อำนาจกันอย่างสนุกมือ เห่อ……เวรกรรมอะไรของคนไทยละเนี่ย
กำลังโหลดความคิดเห็น