มีหลายคนที่ไม่อยากให้ยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีหลายคนอยากจะคว่ำตั้งแต่ยังไม่ตั้งรัฐบาลแต่สำหรับผมกลับตรงกันข้าม
แม้ในข้อเท็จจริงปูยิ่งลักษณ์อาจจะผิดหรือพลาดตามที่กฎหมายกำหนดไว้จริง แต่ในทางการเมืองมันจะมีคนจำนวนมากไม่เชื่อในเรื่องนี้ อย่างน้อยก็เริ่มมีเสียงโยนหินออกมาแล้วว่าเป็นการรัฐประหารด้วยกฏหมายคนที่ออกมาโวยวายคงตีตนไปก่อนไข้อยู่พอสมควรเพราะอย่างไรเสียยังมีเวลาอีกตั้ง 2 สัปดาห์ที่กกต.จะได้พิจารณารับรอง ซึ่งน่าเชื่อว่าทั้งมาร์คทั้งปูคงจะผ่านการรับรองรอบนี้กันทั้งคู่
จริง ๆ นะเอ้า ! ผมอยากเห็นปู-ยิ่งลักษณ์เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว..พรุ่งนี้มะรืนนี้ก็ยังไหวถ้ามันเป็นไปได้
นั่นเพราะอย่างไรเสียเราก็เคยมีคนอย่างสมชาย วงศ์สวัสดิ์เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยมาแล้ว..ปูคงไม่ดีไม่แย่ไปกว่าพี่เขยหรอก.. และที่สำคัญแม้จะมีคนสงสัยในความสามารถที่แท้จริงของเธอเพียงไรแต่ยิ่งลักษณ์คือผู้ได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่จากการเลือกตั้งย่อมมีสิทธิ์โดยชอบที่จะดำรงตำแหน่งนี้
วันหยุดยาวสามสี่วันมานี้ยิ่งลักษณ์เก็บตัวเงียบไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ไม่แสดงกิจกรรมครอบครัวต่อสาธารณะเหมือนสุดสัปดาห์ก่อนเพราะทุกอย่างยังไม่นิ่งไม่ว่าตัวเลขส.ส.ก่อนวันเปิดประชุมสภา ไม่ว่าตัวเลขส.ส.ของพรรคร่วมที่จะมีผลต่อการจัดสรรโควต้า และที่สำคัญคือเธอเองก็ยังไม่ได้สถานะส.ส.ยิ่งเปิดหน้าให้สัมภาษณ์คงมีแต่ประเด็นเข้าตัว สู้งดสัมภาษณ์ดีกว่า
ดูเหมือนปู-ยิ่งลักษณ์อยู่ระหว่างการเรียนรู้การเผชิญมรสุม ซึ่งคงต้องเลือกติวด้วยหลักสูตรเร่งรัดกันแล้ว
นั่นเพราะว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 มี “ต้นทุนอำนาจ”ห่างจากยุครุ่งเรืองของไทยรักไทยหลายช่วง ของเก่าเป็นชะนักปักอยู่ของใหม่ก็มีแต่ขวากหนามรอกรณีแผลเก่าเรื่องเช็คเงินสด 68 ล้านที่บ.ก.ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ เขียนในเว็บไซต์ www.prasong.com สามารถลามเป็นบาดทะยักได้
บทความของคุณประสงค์นี่ถ้าเป็นมวยจีนต้องยกเป็นกระบวนท่าดรรชนีจี้จุดมรณะ ปล่อยออกกระบวนท่าเดียวเสียวพร้อมกันทั้งพรรค กระอักลามไปถึงดูไบด้วยซ้ำ (ฮา)
นอกจากแผลเก่าแล้วมาดูภารกิจใหม่บ้าง อันนโยบายขายฝันประดังประดามีไม่ใช่เรื่องที่จะเนรมิตทำได้เหมือนยุคพี่แม้ว เมกะโปรเจ็คต์ถมทะเล และเดินหน้าแลนด์บริดจ์แบบนายทุนน่ะภายใต้รัฐธรรมนูญ 2550 ที่ให้ทำ SIA-HIA ก่อน ต่อให้ปลอดประสพสวมวิญญาณบู๊ทำ Fast Tracks เหมือนเมื่อครั้งทำไนท์ซาฟารีก็ทำไม่ได้ต่อไปแถมศาลปกครองท่านก็มีแผนกคดีสิ่งแวดล้อมมารองรับโดยตรงแล้วอีกต่างหาก
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ใช่รัฐบาลทักษิณ บริบทแวดล้อมและเงื่อนไขทางสังคมปัจจุบันบีบยิ่งลักษณ์ตั้งแต่ยังไม่ทันคลอดเป็นตัวรัฐบาลด้วยซ้ำไป !
ผมจึงไม่เห็นด้วยกับความคิดการล้มรัฐบาลโดยเทคนิคกฏหมาย (นี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ) เพราะหากเกิดมีอุบัติเหตุแท้งขึ้นมาผมเสียดายโอกาสที่ให้คนเสื้อแดงได้ “ตาสว่าง” กันตอนกลางวันแสก ๆ กันในรอบนี้
ขบวนการเสื้อแดงเติบโตขึ้นมากมายเพราะมีฐานคนรักทักษิณ คนที่เชื่อว่ารัฐบาลไทยรักไทยนำมาซึ่งความสุข ความร่ำรวย ความเจริญเติบโต การเอาใจใส่คนจน และต้องยอมรับว่าประชาธิปัตย์เมื่อปี 2544 นั้นไม่มีนโยบายอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเข้าสู่สนามเลือกตั้งเลยแม้แต่น้อย จำได้ว่าไปฟังการปราศรัยนัดหนึ่งอ้ายน้อยธารินทร์ (นิมมานเหมินท์) ได้แต่พูดย้ำว่าเศรษฐกิจฟื้นแล้ว ๆ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ปราศรัยตามถนัดของดารานักพูดค่ายพระแม่ธรณี พูดดีฟังมันทุกเรื่องยกเว้นเรื่องเดียวคือนโยบาย ! ประชาธิปัตย์เพิ่งจะมาสู้ด้วยนโยบายจริงจังก็ครั้งนี้แหละและต้องยอมรับว่านโยบายดีกว่าเพื่อไทยเป็นเหตุเป็นผลกว่าแต่ไม่ได้รับเลือกเพราะความเป็นผู้ตาม ลูกค้าเชื่อถือนายห้างเก่ามากกว่า
สมมติถ้าเกิดทำแท้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ด้วยสาเหตุใดขึ้นมาจริง ๆ เมืองไทยคงจะไม่วุ่นวายจลาจลมืดมนมากกว่าที่ผ่านมา เพราะที่ผ่าน ๆ มา3-4 ปีมันมืดสุด ๆ ก้นเหวอยู่แล้วแต่โอกาสที่จะเงยหัวขึ้นมาก็ล่าช้าออกไป และการล่าช้าในขณะที่คนอื่นเขาเดินหน้าเท่ากับการถอยหลังนั่นเอง
ไม่ได้กลัวคนเสื้อแดงออกมาเผาเมืองหรอกนะหากแต่เสียดายโอกาสการเกิด “ตาสว่างแห่งชาติ” ครั้งใหญ่ต่างหาก
มาตรฐานทักษิณ=ภาพลักษณ์ผู้ดลความร่ำรวย(ของคนเสื้อแดง)
ภาพลักษณ์ของทักษิณที่ติดหูติดตาคนเสื้อแดงรากหญ้าจำนวนมาก ๆ ๆ ๆ คือภาพของความสำเร็จในการบริหารเศรษฐกิจและการตอบสนองความพึงพอใจที่ไมเคยมีใครทำให้มาก่อน ทั้ง ๆ ที่แท้จริงแล้วรัฐบาลทักษิณทำอะไรไม่เข้าท่าในเชิงเศรษฐกิจมากมายเช่นลงทุนทำศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือที่ริมคลองชลประทานเชียงใหม่ อาคารที่ว่าถูกทิ้งไม่มีกิจกรรมใด ๆ จนแทบถูกผีหลอกมาหลายปี ไม่มีหรอกภาพของกิจกรรมศูนย์กลางสินค้าเกษตรมีการซื้อการขายจนกระทั่งล่าสุดรัฐบาลปชป.(โดยพรรคชาติไทยบรรหาร)พยายามปรับมาเป็นที่ขายอาหารทะเลแช่แข็งซึ่งก็ไม่รู้จะปลุกมาได้สักเท่าไหร่
หรืออย่างวิชั่นการจัดงานพืชสวนโลก็แค่การลงทุนทำอีเวนท์ใหญ่ ๆ ที่ดูดีแต่พอหมดงานไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อต้องปัดฝุ่นจัดอีกครั้ง ไม่เหมือนกับเมืองจีนที่เขาตั้งเป้าให้คุนหมิงเป็นศูนย์กลางไม่ตัดดอก เมื่อเขาพัฒนาการผลิตได้มากพอ เขาก็จัดงานพืชสวนโลกธีมหลักคือไม้ตัดดอกให้งานนี้เสมือนเป็นโชว์รูมประกาศตัวกับโลก ตอนนี้งานพืชสวนที่เขาลงทุนก็เป็นเสมือนเครื่องประกาศว่าเขาเป็นศูนย์กลางไม้ตัดดอกของโลก แต่ของเราไม่ใช่ ทักษิณจัดให้มีอีเวนท์ใหญ่ ๆ สวย ๆ เพื่อกิจกรรมประเดี๋ยวประด๋าวไม่มีแผนรองรับต่อไปจนต้องมีการตั้งกรรมการขึ้นภายหลังว่าเสร็จงานจะเอามาทำอะไรดี
อย่างไงก็ตามเรื่องความล้มเหลวไม่เข้าท่าของทักษิณคงไม่ค่อยผ่านตาคนเสื้อแดงเท่าไรนัก ภาพของเขาคือเทพเจ้าผู้บันดาลความสุขความร่ำรวยและทำให้เศรษฐกิจดี รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะเผชิญกับโจทย์ใหญ่ ทำอย่างไรให้ตอบสนองความเชื่อมั่นของผู้สนับสนุนชาวเสื้อแดงเพราะมาตรฐานที่ทักษิณสร้างขึ้นในใจคนนั้นสูงมาก
ทักษิณนั้นทำสถิติเป็นเส้นมาตรฐานค้ำคออยู่ มาตรฐานดังกล่าวจึงเป็นเครื่องกดดันยิ่งลักษณ์โดยปริยาย ! นโยบายดีมีเหตุผลก็เรื่องหนึ่งแต่นโยบายปากเปล่าฝันเอานี่สิจะทำยังไง ?
นโยบายทำได้จริง กับ นโยบายขายฝัน?
เรื่องลดภาษีนิติบุคคลดีครับสอดคล้องกับแนวโน้มภูมิภาค แนวคิดการเพิ่มรายได้ขั้นต่ำให้คนก็ดีครับแต่ทั้งสองเรื่องไม่ได้ลอยอยู่โดด ๆ เพราะว่ามันเกี่ยวอย่างแยกไม่ออกกับต้นทุนภาคการผลิตทุกภาค เกี่ยวข้องกับค่าครองชีพและภาวะเงินเฟ้อ เกี่ยวข้องกับปัญหาแรงงานต่างด้าว เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างการผลิตของเราทั้งระบบดังนั้นการที่เคยประกาศไปก่อนว่า เริ่ม 300 บาททันทีในเดือนตุลาคมจึงต้องเลื่อนไปอย่างที่เห็น
เอาแค่การเลื่อนก็คือการไม่สามารถทำตามสัญญาแล้ว เรื่อง 300 บาทเรื่องเดียวส่อว่าจะเป็นวิวาทะของผู้สนับสนุนฝ่ายหนึ่งบอกว่าอำนาจเก่าไดโนเสาร์มาคัดค้าน 300 บาทคนจนหาได้สำรวจตัวเองเลยว่าในกลุ่มทุนน้อยใหญ่ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยนั้นเขาคิดยังไง ฐานของพรรคเพื่อไทยหาใช่มีแค่แรงงานรายวันแต่อย่างใด ก็ไหนโม้ว่าคนเสื้อแดงหลากหลายเป็นชนชั้นกลางกินเงินเดือนก็มี เป็นพ่อค้าก็มี เป็นเจ้าของโรงงานขี่เบนซ์กินไวน์ที่ซอยทองหล่อได้ ? คนเสื้อแดงไม่ลองไปถามเถ้าแก่ห้องแถว เถ้าแก่โรงงานที่เป็นเสื้อแดงด้วยกันดูสิว่าคิดยังไง ?
ที่จริงแล้วเรื่อง 300 บาทหรือ 1.5 หมื่นบาทนี่จิ๊บ ๆ ปัญหาใหญ่ที่แท้จริงคือเรื่อง “ข้าว”ครับพี่น้อง !
เวลานี้แค่กลางเดือนกรกฎาคมระบบวงจรข้าวปั่นป่วนกันหมดแล้ว มีการสต๊อกผิดธรรมชาติของเก่าที่จำนำก็ยังไม่หมดของใหม่ที่รอการจำนำ (ไม่ทำก็ไม่ได้เพราะประกาศไว้แล้ว) ก็กำลังจะเริ่มผลิต ในยุคปชป.น้ำมันพืชขาดตลาด ไม่แน่ว่าในยุคเพื่อไทยจะได้เห็นคนไทยไม่มีข้าวกิน ข้าวไทยหายไปจากชั้นถ้าเป็นงั้นจริงคงดูกันไม่จืด ทุกอย่างล้วนเป็นผลผูกพันมาจากคำประกาศในนโยบายหาเสียงใช่มั้ยค้า..ทั้งสิ้น
ทักษิณทุ่มเทต่อสู้กับคนเสื้อแดงและพรรค-พลังประชาชน-เพื่อไทยมา 5 ปี ได้อำนาจคราวนี้มีหรือไม่ตักตวงชัยชนะ
ไม่มีหรอกที่ทักษิณประกาศปล่อยวางไม่สนการเมืองอย่างที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวฝรั่ง คนเราต่อสู้เพื่อให้ได้อำนาจมาแทบตายไม่ได้หวังผลเก็บเกี่ยวอะไรจากอำนาจที่ได้มานั้นเลยเหรอ ? มีคนวิจารณ์ว่าทักษิณต้องการพ้นผิดและได้เงินคืนทางหนึ่งคือนิรโทษกรรม อีกทางหนึ่งที่อ้อมกว่าคือแก้รัฐธรรมนูญ อย่างไรเสียทักษิณก็ต้องประคับประคองรัฐบาลนี้ให้เดินหน้าสักระยะเพื่อสร้างความเข้มแข็ง สิ่งที่ต้องเร่งทำช่วงแรกคือผลักดันนโยบายและสร้างความพึงพอใจ
คำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา และงบประมาณแผ่นดินปี 2555 จะสะท้อนสิ่งที่ทักษิณและพรรคเพื่อไทยคิดและต้องการทำ แต่นี่ก็จะเป็นหลักฐานมัดการหาเสียงแบบลมปากว่าไปเรื่อยพร้อมกันไป กฎหมายเลือกตั้งเขาห้ามหลอกลวงเพื่อให้ได้เสียงนะครับ เรื่องนี้มีโทษถึงติดคุกเลยนะ
มาตรา 53 วงเล็บ(5) ห้ามหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด
นายปลอดประสพที่พูดกับนักข่าวกรณี 300 บาทว่า “ที่เราหาเสียงไว้ว่า จะทำทั่วประเทศ และทำทันทีนั้น ในความเป็นจริงแล้ว คงทำไม่ได้ เพราะต้องเข้าใจด้วยว่า นั่นเป็นการพูดเพื่อหาเสียง” (คม ชัด ลึก) อีแบบนี้เข้าข่ายผิดกฏหมายข้อนี้แล้วนะครับ ในฐานะกรรมการบริหารอาจจะเจอคุกก็ได้ถ้ามีใครนึกครึ้มฟ้องเอาผิด
นับจากวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.มาจนถึงบัดนี้เกือบ 2 สัปดาห์ยิ่งพอมองเป็นเงาลาง ๆ ว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์จะเจองานหินงานหนักโคตรขนาดไหน นโยบายบางเรื่องเกิดจากการคิดคำนวณมาก่อน แต่บางอย่างเป็นประเภทฝันเฟื่องไว้ก่อนก็มี นั่นยังไม่เท่ากับการเติมเต็มความพึงพอใจของคนที่กำลังฝันไปว่ายุคทองของเศรษฐกิจทำมาค้าคล่องของไม่แพงกำลังมาถึง ไพร่ฟ้าเอ้ยไพร่แดงผ่องใสถ้วนหน้าใครใคร่ค้าก็ค้าได้กำไรงาม มีหนี้ได้ปลดหนี้ อยากก่อหนี้ใหม่ก็มี2ล้านส่งตรงมาให้ถึงตำบล
จุดแข็งของทักษิณคือความเชื่อของประดาชาวบ้านว่าทำให้เศรษฐกิจดี ความเชื่อดังกล่าวเป็นภาพลักษณ์ที่ติดตามพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทยมา แต่หากบังเอิญรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่สามารถทำตามนโยบายสวยหรู ไม่สามารถทำให้เกิดยุคทองชาวประชาหน้าใสได้ก็ไม่แน่ว่าชาวบ้านที่สวมเสื้อแดงออกไปชุมนุมและเลือกพรรคเพื่อไทยจะได้ตาสว่างเสียทีว่า ในโลกการเมืองที่เป็นจริงมันไม่มีหรอกพรรคของเทวดาดลบันดาลทุกอย่างตามปรารถนา โลกของความเป็นจริงมีแต่พรรคของนักการเมืองแบบไทย ๆ ตัวละครเดิม ๆ ทั้งนั้นที่แย่งชิงอำนาจกันไปมา
ผมพูดจริง ๆ นะว่าอยากเห็นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำงาน อยากเห็นรัฐมนตรีพาณิชย์ที่ดูแลเรื่องนโยบายจำนำข้าว อยากเห็นคนรับผิดชอบทำเขตปกครองพิเศษภาคใต้ อยากฟังรัฐมนตรีที่ดูแลเมกะโปรเจ็กต์ถมทะเล อยากเห็นปลอดประสพเป็นรัฐมนตรีคุมกระทรวงทรัพย์แล้วจะรอดูว่าเขาจะพูดยังไงเรื่องเมกะโปรเจ็กต์ถมทะเล อยากดูว่าค่าครองชีพของเราจะเป็นเช่นไร
และที่สำคัญอยากรู้จริง ๆ ว่าสิ่งที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่าผู้นำต้องนามสกุลชินวัตรเท่านั้นที่จะนำมาซึ่งภาวะรุ่งโรจน์ชัชวาลย์ค้าขายรุ่งเรือง...นั้นจริงตามที่คนส่วนใหญ่เชื่อหรือเปล่า!!?
แม้ในข้อเท็จจริงปูยิ่งลักษณ์อาจจะผิดหรือพลาดตามที่กฎหมายกำหนดไว้จริง แต่ในทางการเมืองมันจะมีคนจำนวนมากไม่เชื่อในเรื่องนี้ อย่างน้อยก็เริ่มมีเสียงโยนหินออกมาแล้วว่าเป็นการรัฐประหารด้วยกฏหมายคนที่ออกมาโวยวายคงตีตนไปก่อนไข้อยู่พอสมควรเพราะอย่างไรเสียยังมีเวลาอีกตั้ง 2 สัปดาห์ที่กกต.จะได้พิจารณารับรอง ซึ่งน่าเชื่อว่าทั้งมาร์คทั้งปูคงจะผ่านการรับรองรอบนี้กันทั้งคู่
จริง ๆ นะเอ้า ! ผมอยากเห็นปู-ยิ่งลักษณ์เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว..พรุ่งนี้มะรืนนี้ก็ยังไหวถ้ามันเป็นไปได้
นั่นเพราะอย่างไรเสียเราก็เคยมีคนอย่างสมชาย วงศ์สวัสดิ์เป็นนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยมาแล้ว..ปูคงไม่ดีไม่แย่ไปกว่าพี่เขยหรอก.. และที่สำคัญแม้จะมีคนสงสัยในความสามารถที่แท้จริงของเธอเพียงไรแต่ยิ่งลักษณ์คือผู้ได้รับคะแนนเสียงส่วนใหญ่จากการเลือกตั้งย่อมมีสิทธิ์โดยชอบที่จะดำรงตำแหน่งนี้
วันหยุดยาวสามสี่วันมานี้ยิ่งลักษณ์เก็บตัวเงียบไม่ออกมาให้สัมภาษณ์ไม่แสดงกิจกรรมครอบครัวต่อสาธารณะเหมือนสุดสัปดาห์ก่อนเพราะทุกอย่างยังไม่นิ่งไม่ว่าตัวเลขส.ส.ก่อนวันเปิดประชุมสภา ไม่ว่าตัวเลขส.ส.ของพรรคร่วมที่จะมีผลต่อการจัดสรรโควต้า และที่สำคัญคือเธอเองก็ยังไม่ได้สถานะส.ส.ยิ่งเปิดหน้าให้สัมภาษณ์คงมีแต่ประเด็นเข้าตัว สู้งดสัมภาษณ์ดีกว่า
ดูเหมือนปู-ยิ่งลักษณ์อยู่ระหว่างการเรียนรู้การเผชิญมรสุม ซึ่งคงต้องเลือกติวด้วยหลักสูตรเร่งรัดกันแล้ว
นั่นเพราะว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1 มี “ต้นทุนอำนาจ”ห่างจากยุครุ่งเรืองของไทยรักไทยหลายช่วง ของเก่าเป็นชะนักปักอยู่ของใหม่ก็มีแต่ขวากหนามรอกรณีแผลเก่าเรื่องเช็คเงินสด 68 ล้านที่บ.ก.ประสงค์ เลิศรัตนวิสุทธิ์ เขียนในเว็บไซต์ www.prasong.com สามารถลามเป็นบาดทะยักได้
บทความของคุณประสงค์นี่ถ้าเป็นมวยจีนต้องยกเป็นกระบวนท่าดรรชนีจี้จุดมรณะ ปล่อยออกกระบวนท่าเดียวเสียวพร้อมกันทั้งพรรค กระอักลามไปถึงดูไบด้วยซ้ำ (ฮา)
นอกจากแผลเก่าแล้วมาดูภารกิจใหม่บ้าง อันนโยบายขายฝันประดังประดามีไม่ใช่เรื่องที่จะเนรมิตทำได้เหมือนยุคพี่แม้ว เมกะโปรเจ็คต์ถมทะเล และเดินหน้าแลนด์บริดจ์แบบนายทุนน่ะภายใต้รัฐธรรมนูญ 2550 ที่ให้ทำ SIA-HIA ก่อน ต่อให้ปลอดประสพสวมวิญญาณบู๊ทำ Fast Tracks เหมือนเมื่อครั้งทำไนท์ซาฟารีก็ทำไม่ได้ต่อไปแถมศาลปกครองท่านก็มีแผนกคดีสิ่งแวดล้อมมารองรับโดยตรงแล้วอีกต่างหาก
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ใช่รัฐบาลทักษิณ บริบทแวดล้อมและเงื่อนไขทางสังคมปัจจุบันบีบยิ่งลักษณ์ตั้งแต่ยังไม่ทันคลอดเป็นตัวรัฐบาลด้วยซ้ำไป !
ผมจึงไม่เห็นด้วยกับความคิดการล้มรัฐบาลโดยเทคนิคกฏหมาย (นี่เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ) เพราะหากเกิดมีอุบัติเหตุแท้งขึ้นมาผมเสียดายโอกาสที่ให้คนเสื้อแดงได้ “ตาสว่าง” กันตอนกลางวันแสก ๆ กันในรอบนี้
ขบวนการเสื้อแดงเติบโตขึ้นมากมายเพราะมีฐานคนรักทักษิณ คนที่เชื่อว่ารัฐบาลไทยรักไทยนำมาซึ่งความสุข ความร่ำรวย ความเจริญเติบโต การเอาใจใส่คนจน และต้องยอมรับว่าประชาธิปัตย์เมื่อปี 2544 นั้นไม่มีนโยบายอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเข้าสู่สนามเลือกตั้งเลยแม้แต่น้อย จำได้ว่าไปฟังการปราศรัยนัดหนึ่งอ้ายน้อยธารินทร์ (นิมมานเหมินท์) ได้แต่พูดย้ำว่าเศรษฐกิจฟื้นแล้ว ๆ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ปราศรัยตามถนัดของดารานักพูดค่ายพระแม่ธรณี พูดดีฟังมันทุกเรื่องยกเว้นเรื่องเดียวคือนโยบาย ! ประชาธิปัตย์เพิ่งจะมาสู้ด้วยนโยบายจริงจังก็ครั้งนี้แหละและต้องยอมรับว่านโยบายดีกว่าเพื่อไทยเป็นเหตุเป็นผลกว่าแต่ไม่ได้รับเลือกเพราะความเป็นผู้ตาม ลูกค้าเชื่อถือนายห้างเก่ามากกว่า
สมมติถ้าเกิดทำแท้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ด้วยสาเหตุใดขึ้นมาจริง ๆ เมืองไทยคงจะไม่วุ่นวายจลาจลมืดมนมากกว่าที่ผ่านมา เพราะที่ผ่าน ๆ มา3-4 ปีมันมืดสุด ๆ ก้นเหวอยู่แล้วแต่โอกาสที่จะเงยหัวขึ้นมาก็ล่าช้าออกไป และการล่าช้าในขณะที่คนอื่นเขาเดินหน้าเท่ากับการถอยหลังนั่นเอง
ไม่ได้กลัวคนเสื้อแดงออกมาเผาเมืองหรอกนะหากแต่เสียดายโอกาสการเกิด “ตาสว่างแห่งชาติ” ครั้งใหญ่ต่างหาก
มาตรฐานทักษิณ=ภาพลักษณ์ผู้ดลความร่ำรวย(ของคนเสื้อแดง)
ภาพลักษณ์ของทักษิณที่ติดหูติดตาคนเสื้อแดงรากหญ้าจำนวนมาก ๆ ๆ ๆ คือภาพของความสำเร็จในการบริหารเศรษฐกิจและการตอบสนองความพึงพอใจที่ไมเคยมีใครทำให้มาก่อน ทั้ง ๆ ที่แท้จริงแล้วรัฐบาลทักษิณทำอะไรไม่เข้าท่าในเชิงเศรษฐกิจมากมายเช่นลงทุนทำศูนย์สินค้าเกษตรภาคเหนือที่ริมคลองชลประทานเชียงใหม่ อาคารที่ว่าถูกทิ้งไม่มีกิจกรรมใด ๆ จนแทบถูกผีหลอกมาหลายปี ไม่มีหรอกภาพของกิจกรรมศูนย์กลางสินค้าเกษตรมีการซื้อการขายจนกระทั่งล่าสุดรัฐบาลปชป.(โดยพรรคชาติไทยบรรหาร)พยายามปรับมาเป็นที่ขายอาหารทะเลแช่แข็งซึ่งก็ไม่รู้จะปลุกมาได้สักเท่าไหร่
หรืออย่างวิชั่นการจัดงานพืชสวนโลก็แค่การลงทุนทำอีเวนท์ใหญ่ ๆ ที่ดูดีแต่พอหมดงานไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อต้องปัดฝุ่นจัดอีกครั้ง ไม่เหมือนกับเมืองจีนที่เขาตั้งเป้าให้คุนหมิงเป็นศูนย์กลางไม่ตัดดอก เมื่อเขาพัฒนาการผลิตได้มากพอ เขาก็จัดงานพืชสวนโลกธีมหลักคือไม้ตัดดอกให้งานนี้เสมือนเป็นโชว์รูมประกาศตัวกับโลก ตอนนี้งานพืชสวนที่เขาลงทุนก็เป็นเสมือนเครื่องประกาศว่าเขาเป็นศูนย์กลางไม้ตัดดอกของโลก แต่ของเราไม่ใช่ ทักษิณจัดให้มีอีเวนท์ใหญ่ ๆ สวย ๆ เพื่อกิจกรรมประเดี๋ยวประด๋าวไม่มีแผนรองรับต่อไปจนต้องมีการตั้งกรรมการขึ้นภายหลังว่าเสร็จงานจะเอามาทำอะไรดี
อย่างไงก็ตามเรื่องความล้มเหลวไม่เข้าท่าของทักษิณคงไม่ค่อยผ่านตาคนเสื้อแดงเท่าไรนัก ภาพของเขาคือเทพเจ้าผู้บันดาลความสุขความร่ำรวยและทำให้เศรษฐกิจดี รัฐบาลยิ่งลักษณ์จะเผชิญกับโจทย์ใหญ่ ทำอย่างไรให้ตอบสนองความเชื่อมั่นของผู้สนับสนุนชาวเสื้อแดงเพราะมาตรฐานที่ทักษิณสร้างขึ้นในใจคนนั้นสูงมาก
ทักษิณนั้นทำสถิติเป็นเส้นมาตรฐานค้ำคออยู่ มาตรฐานดังกล่าวจึงเป็นเครื่องกดดันยิ่งลักษณ์โดยปริยาย ! นโยบายดีมีเหตุผลก็เรื่องหนึ่งแต่นโยบายปากเปล่าฝันเอานี่สิจะทำยังไง ?
นโยบายทำได้จริง กับ นโยบายขายฝัน?
เรื่องลดภาษีนิติบุคคลดีครับสอดคล้องกับแนวโน้มภูมิภาค แนวคิดการเพิ่มรายได้ขั้นต่ำให้คนก็ดีครับแต่ทั้งสองเรื่องไม่ได้ลอยอยู่โดด ๆ เพราะว่ามันเกี่ยวอย่างแยกไม่ออกกับต้นทุนภาคการผลิตทุกภาค เกี่ยวข้องกับค่าครองชีพและภาวะเงินเฟ้อ เกี่ยวข้องกับปัญหาแรงงานต่างด้าว เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างการผลิตของเราทั้งระบบดังนั้นการที่เคยประกาศไปก่อนว่า เริ่ม 300 บาททันทีในเดือนตุลาคมจึงต้องเลื่อนไปอย่างที่เห็น
เอาแค่การเลื่อนก็คือการไม่สามารถทำตามสัญญาแล้ว เรื่อง 300 บาทเรื่องเดียวส่อว่าจะเป็นวิวาทะของผู้สนับสนุนฝ่ายหนึ่งบอกว่าอำนาจเก่าไดโนเสาร์มาคัดค้าน 300 บาทคนจนหาได้สำรวจตัวเองเลยว่าในกลุ่มทุนน้อยใหญ่ที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยนั้นเขาคิดยังไง ฐานของพรรคเพื่อไทยหาใช่มีแค่แรงงานรายวันแต่อย่างใด ก็ไหนโม้ว่าคนเสื้อแดงหลากหลายเป็นชนชั้นกลางกินเงินเดือนก็มี เป็นพ่อค้าก็มี เป็นเจ้าของโรงงานขี่เบนซ์กินไวน์ที่ซอยทองหล่อได้ ? คนเสื้อแดงไม่ลองไปถามเถ้าแก่ห้องแถว เถ้าแก่โรงงานที่เป็นเสื้อแดงด้วยกันดูสิว่าคิดยังไง ?
ที่จริงแล้วเรื่อง 300 บาทหรือ 1.5 หมื่นบาทนี่จิ๊บ ๆ ปัญหาใหญ่ที่แท้จริงคือเรื่อง “ข้าว”ครับพี่น้อง !
เวลานี้แค่กลางเดือนกรกฎาคมระบบวงจรข้าวปั่นป่วนกันหมดแล้ว มีการสต๊อกผิดธรรมชาติของเก่าที่จำนำก็ยังไม่หมดของใหม่ที่รอการจำนำ (ไม่ทำก็ไม่ได้เพราะประกาศไว้แล้ว) ก็กำลังจะเริ่มผลิต ในยุคปชป.น้ำมันพืชขาดตลาด ไม่แน่ว่าในยุคเพื่อไทยจะได้เห็นคนไทยไม่มีข้าวกิน ข้าวไทยหายไปจากชั้นถ้าเป็นงั้นจริงคงดูกันไม่จืด ทุกอย่างล้วนเป็นผลผูกพันมาจากคำประกาศในนโยบายหาเสียงใช่มั้ยค้า..ทั้งสิ้น
ทักษิณทุ่มเทต่อสู้กับคนเสื้อแดงและพรรค-พลังประชาชน-เพื่อไทยมา 5 ปี ได้อำนาจคราวนี้มีหรือไม่ตักตวงชัยชนะ
ไม่มีหรอกที่ทักษิณประกาศปล่อยวางไม่สนการเมืองอย่างที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวฝรั่ง คนเราต่อสู้เพื่อให้ได้อำนาจมาแทบตายไม่ได้หวังผลเก็บเกี่ยวอะไรจากอำนาจที่ได้มานั้นเลยเหรอ ? มีคนวิจารณ์ว่าทักษิณต้องการพ้นผิดและได้เงินคืนทางหนึ่งคือนิรโทษกรรม อีกทางหนึ่งที่อ้อมกว่าคือแก้รัฐธรรมนูญ อย่างไรเสียทักษิณก็ต้องประคับประคองรัฐบาลนี้ให้เดินหน้าสักระยะเพื่อสร้างความเข้มแข็ง สิ่งที่ต้องเร่งทำช่วงแรกคือผลักดันนโยบายและสร้างความพึงพอใจ
คำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา และงบประมาณแผ่นดินปี 2555 จะสะท้อนสิ่งที่ทักษิณและพรรคเพื่อไทยคิดและต้องการทำ แต่นี่ก็จะเป็นหลักฐานมัดการหาเสียงแบบลมปากว่าไปเรื่อยพร้อมกันไป กฎหมายเลือกตั้งเขาห้ามหลอกลวงเพื่อให้ได้เสียงนะครับ เรื่องนี้มีโทษถึงติดคุกเลยนะ
มาตรา 53 วงเล็บ(5) ห้ามหลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด
นายปลอดประสพที่พูดกับนักข่าวกรณี 300 บาทว่า “ที่เราหาเสียงไว้ว่า จะทำทั่วประเทศ และทำทันทีนั้น ในความเป็นจริงแล้ว คงทำไม่ได้ เพราะต้องเข้าใจด้วยว่า นั่นเป็นการพูดเพื่อหาเสียง” (คม ชัด ลึก) อีแบบนี้เข้าข่ายผิดกฏหมายข้อนี้แล้วนะครับ ในฐานะกรรมการบริหารอาจจะเจอคุกก็ได้ถ้ามีใครนึกครึ้มฟ้องเอาผิด
นับจากวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.มาจนถึงบัดนี้เกือบ 2 สัปดาห์ยิ่งพอมองเป็นเงาลาง ๆ ว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์จะเจองานหินงานหนักโคตรขนาดไหน นโยบายบางเรื่องเกิดจากการคิดคำนวณมาก่อน แต่บางอย่างเป็นประเภทฝันเฟื่องไว้ก่อนก็มี นั่นยังไม่เท่ากับการเติมเต็มความพึงพอใจของคนที่กำลังฝันไปว่ายุคทองของเศรษฐกิจทำมาค้าคล่องของไม่แพงกำลังมาถึง ไพร่ฟ้าเอ้ยไพร่แดงผ่องใสถ้วนหน้าใครใคร่ค้าก็ค้าได้กำไรงาม มีหนี้ได้ปลดหนี้ อยากก่อหนี้ใหม่ก็มี2ล้านส่งตรงมาให้ถึงตำบล
จุดแข็งของทักษิณคือความเชื่อของประดาชาวบ้านว่าทำให้เศรษฐกิจดี ความเชื่อดังกล่าวเป็นภาพลักษณ์ที่ติดตามพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทยมา แต่หากบังเอิญรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่สามารถทำตามนโยบายสวยหรู ไม่สามารถทำให้เกิดยุคทองชาวประชาหน้าใสได้ก็ไม่แน่ว่าชาวบ้านที่สวมเสื้อแดงออกไปชุมนุมและเลือกพรรคเพื่อไทยจะได้ตาสว่างเสียทีว่า ในโลกการเมืองที่เป็นจริงมันไม่มีหรอกพรรคของเทวดาดลบันดาลทุกอย่างตามปรารถนา โลกของความเป็นจริงมีแต่พรรคของนักการเมืองแบบไทย ๆ ตัวละครเดิม ๆ ทั้งนั้นที่แย่งชิงอำนาจกันไปมา
ผมพูดจริง ๆ นะว่าอยากเห็นรัฐบาลยิ่งลักษณ์ทำงาน อยากเห็นรัฐมนตรีพาณิชย์ที่ดูแลเรื่องนโยบายจำนำข้าว อยากเห็นคนรับผิดชอบทำเขตปกครองพิเศษภาคใต้ อยากฟังรัฐมนตรีที่ดูแลเมกะโปรเจ็กต์ถมทะเล อยากเห็นปลอดประสพเป็นรัฐมนตรีคุมกระทรวงทรัพย์แล้วจะรอดูว่าเขาจะพูดยังไงเรื่องเมกะโปรเจ็กต์ถมทะเล อยากดูว่าค่าครองชีพของเราจะเป็นเช่นไร
และที่สำคัญอยากรู้จริง ๆ ว่าสิ่งที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่าผู้นำต้องนามสกุลชินวัตรเท่านั้นที่จะนำมาซึ่งภาวะรุ่งโรจน์ชัชวาลย์ค้าขายรุ่งเรือง...นั้นจริงตามที่คนส่วนใหญ่เชื่อหรือเปล่า!!?
