xs
xsm
sm
md
lg

เก็บตกจากสะพานมัฆวาน...ภารกิจเพื่อประเทศชาติ

เผยแพร่:   โดย: ยุรชัฏ ชาติสุทธิชัย


เมื่อวันอังคารที่25 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตรได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง บริเวณสะพานมัฆวานฯ ซึ่งเป็นการเลื่อนนัดมาจากช่วงปีใหม่

การชุมนุมของพันธมิตรรอบนี้มีข้อเรียกร้องเพียงสามข้อเท่านั้น คือ ให้ประเทศไทยถอนตัวออกจากการเป็นคณะกรรมการมรดกโลก ยกเลิก MOU ปี 43 และผลักดันชาวกัมพูชาออกจากแผ่นดินไทย

เพราะเชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะช่วยคลี่คลายปัญหาข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา และเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ไทยไม่ต้องสูญเสียดินแดน โดยจะปักหลักชุมนุมยืดเยื้อไปจนกว่ารัฐบาลจะยอมทำตามข้อเรียกร้อง

เรื่องนี้บางคนอาจมองเป็นเรื่องไกลตัว เพราะคิดว่าไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง อย่างเพื่อนผมบางคน ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯแท้ๆ แต่กลับไม่สนใจรับรู้ข่าวสารบ้านเมืองเรื่องนี้เลย แถมออกแนวไม่เห็นด้วยกับการออกมาชุมนุมกับพันธมิตรในครั้งนี้

สิ่งที่พันธมิตรออกมาเรียกร้องทุกข้อเป็นข้อเรียกร้องเพื่อส่วนรวม เป็นเรื่องของอธิปไตยเหนือดินแดน เป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ เมื่อมีเพื่อนบ้านเกเรรุกล้ำเข้ามา ก็ต้องผลักดันออกไป

สำหรับคนไทยที่อยู่ชายแดน น่าสงสารเห็นใจอย่างยิ่ง อย่างชาวบ้านหนองจาน พวกเขาเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือมานาน แต่ก็ไร้ผล

ผืนดินไร่นาที่ทำกินมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นพ่อ ถูกกัมพูชายึดไป ไม่สามารถเข้าไปทำไร่ไถนาในที่ดินของตัวเอง ต้องอพยพครอบครัว และรับจ้างหาเลี้ยงครอบครัว ทั้งที่มีเอกสารสิทธิ์ นส.3 เป็นหลักฐานยืนยันกรรมสิทธิ์มาหลายสิบปี ปัญหาเหล่านี้สื่ออย่างฟรีทีวีแทบจะไม่สนใจเสนอข่าวสารให้คนไทยได้รับรู้

พ่อแม่พี่น้องพันธมิตรและคนไทยรักชาติ ที่รับรู้ข่าวสารข้อมูล ต้องออกมาชุมนุม เพราะไม่อาจยอมให้กัมพูชารุกล้ำดินแดน และไม่อาจทนปล่อยให้รัฐบาลอภิสิทธิ์-สุเทพ สมคบกับฮุนเซนปล้นแผ่นดินไทย ที่บรรพบุรุษได้ต่อสู้รักษาไว้ให้ลูกหลาน

งานนี้พ่อยกแม่ยกทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด และต่างประเทศ มาตามนัดกันอย่างคึกคัก หลายท่านบินตรงมาเพื่อร่วมชุมนุมครั้งนี้โดยเฉพาะ

ท่านสว.สูงวัยใจสู้ทั้งหลาย ได้มาปักหลักพักค้างระลึกความหลังเมื่อครั้งเคยร่วมกันชุมนุม 193 วัน ที่สำคัญพ่อแม่พี่น้องเหล่านี้อดทนเสียสละเวลาในการทำมาหากิน ทั้งความเหน็ดเหนื่อยกายใจ และบริจาคทรัพย์สินเงินทองข้าวปลาอาหารเพื่อสนับสนุนการชุมนุม

หัวจิตหัวใจของพ่อแม่พี่น้องที่มาชุมนุมรักชาติบ้านเมืองกล้าหาญกว่าคนอย่างนายกฯอภิสิทธิ์ และนายสุเทพมากมายนัก แตกต่างกับรัฐบาลราวฟ้ากับเหวที่อ่อนแอ ทำตัวเป็นขี้ข้าของฮุนเซน ไม่กล้าสักแอะที่จะตอบโต้คัดค้านการรุกล้ำของกัมพูชา

หนักข้อกว่านั้น นายสุเทพยังออกมากล่าวหาว่า ข้อเรียกร้องของพันธมิตรเป็นอันตรายต่อบ้านเมือง ส่วนนาย กษิต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ที่เคยขึ้นเวทีพันธมิตรเรียกนายฮุนเซน ว่าเป็นเด็กเมื่อวานซืน เป็นนักเลงข้างรั้วประเทศไทย อย่ามายื่นคำขาดกับประเทศไทย เป็นคนบ้าๆ บอๆ ไม่รู้จักสันติภาพ อยู่บนความขัดแย้งตลอด อยากให้ส่งหมอจิตแพทย์ไปรักษาฮุนเซน  

มาถึงวันนี้นายกษิตกลับบอกว่า การเลิกเอ็มโอยู 2543 การถอนตัวจากกรรมการมรดกโลก และขับไล่คนเขมรที่รุกล้ำดินแดนไทยออกไป เป็นการทะเลาะกับกัมพูชา ซึ่งตนไม่ทำ และยังกล่าวหาว่า พันธมิตรทำตัวเป็นเด็กทารก

ตำแหน่ง อำนาจ และผลประโยชน์บดบังตาคนเหล่านี้ได้มืดสนิททีเดียวครับ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ไม่ฟังเสียงประชาชน ไม่ฟังเสียงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง อย่างดร.อดุล วิเชียรเจริญ ซึ่งเคยเป็นประธานคณะกรรมการมรดกโลก หรือผู้เชี่ยวชาญกฎหมายอย่างท่านอาจารย์ดร.สมปอง สุจริตกุล หรือนักวิชาการทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์อาวุโสอย่างศาสตราจารย์ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม

ประชาชนที่รักชาติอย่างพันธมิตรไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆครับ นอกจากต้องออกมาชุมนุมประท้วง เสนอข้อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา และรักษาแผ่นดินไทยเอาไว้ การนิ่งเฉยไม่แสดงท่าทีของรัฐบาลต่อการรุกล้ำดินแดนของกัมพูชา จะเท่ากับเป็นการยอมรับการกระทำของกัมพูชา ซึ่งจะมีผลให้ฝ่ายกัมพูชาใช้อ้างได้ในวันข้างหน้า

ผมหวังว่าการชุมนุมของพันธมิตร ซึ่งเป็นสิทธิของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ และการอธิบายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของสื่อในเครือผู้จัดการและเอเอสทีวี.จะทำให้สังคมไทยรับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงมากขึ้น และหวังว่าทุกท่านคงจะเข้าใจในสิ่งที่พันธมิตรทำ เพราะนี่คือภารกิจเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยส่วนรวม

ก่อนจากกัน ผมอยากให้ทุกท่านได้ชมภาพที่ผมได้ถ่ายไว้ในวันแรกๆของการชุมนุม บางรูปหลายท่านอาจไม่ค่อยได้เห็น เช่น รูปคุณลุงจำลองขี่สกูตเตอร์มาหลังเวที รูปพี่ๆพิธีกรหรือผู้ปราศรัยในอิริยาบทต่างๆ ร่วมถึงภาพพ่อแม่พี่น้องผู้เข้าร่วมชุมนุม ที่มีความอดทนกันเหลือเกินแม้แดดจะร้อนแค่ไหน...หัวใจรักชาติแข็งแกร่งจริงๆครับ








กำลังโหลดความคิดเห็น