คำพูดของจตุพร พรหมพันธุ์ ว่า “รบหลังตรุษจีนรอบนี้เป็นครั้งสุดท้ายถ้าไม่ถูกหามก็ถูกจับเข้าคุก” เป็นคำขู่... แต่คำพูดของทักษิณ ชินวัตรที่ว่าจะตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น...เป็นเรื่องจริง
ถ้าไม่ใช่การทำปืนลั่นก็ต้องหลุดออกมาจากจิตใต้สำนึกและเป็นการหลุดออกมาจากแผนการใหญ่ที่วางเอาไว้ล่วงหน้า
แผนปฏิบัติการโค่นอำมาตย์ที่เลื่อนเรื่อยมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเกี่ยวข้องกับคดียึดทรัพย์ 26 กุมภาพันธ์ และสัมพันธ์กับแผนกลับมาสู่อำนาจและทรัพย์สินในช่วงหลังจากนั้น
การเดินสายบุกเขายายเที่ยง ไปสนามกอล์ฟสอยดาว และกำหนดไปเชียงใหม่ 29 มกราคม มีเป้าหมายเพื่อรื้อฟื้นยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ ชนบทล้อมเมืองขึ้นมาอีกครั้ง
เขายายเที่ยงและสนามกอล์ฟเป็นคนละเรื่องกับคำโม้ของจตุพร แต่เป็นเรื่องของแผนการทักษิณที่ใหญ่กว่าม็อบหัวขวดสีแดง
ทักษิณเคยใช้ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศมาก่อนแต่ก็ล้มเหลวดั่งที่ทราบกลับกลายเป็นโลกมาล้อมตัวเอง บรรดามหาอำนาจประชาธิปไตยไม่ต้อนรับ ยิ่งอยู่ไปยิ่งหาแผ่นดินเหยียบยากขึ้นเรื่อย ๆ
การจะพลิกโมเมนตั้มให้กลับมาสู่จุดนับหนึ่งของยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ ชนบทล้อมเมืองใหม่นั้นที่ง่ายที่สุดคือให้เกิดรัฐประหารครั้งใหม่ขึ้นในประเทศ
เอ็ม 79 ลึกลับที่ยิงใส่ห้องทำงาน ผบ.ทบ.เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามดังกล่าว
ถ้ามีรัฐประหาร การประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ชิงความชอบธรรมกลับมาจะทำให้การต่อสู้เพื่อกลับสู่อำนาจง่ายขึ้น
แต่หากไม่มีรัฐประหาร ธงที่จะประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นก็ยังเป็นไปได้ภายใต้ข้ออ้างประเทศไทยไม่ใช่รัฐประชาธิปไตย ไม่ใช่นิติรัฐ ประกอบด้วยการใช้อำนาจสองมาตรฐาน ถูกควบคุมโดยกลุ่มอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นการเดินสายไปทะเลาะกับป่าเขา และสนามกอล์ฟรอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่ที่ว่า
สังเกตดูดี ๆ ตลอดเดือนที่ผ่านมาเขาย้ำๆๆๆๆๆ หลายรอบว่าคนเสื้อแดงใช้แนวทางสันติวิธี ควบคู่กับการพยายามเดินสายเปิดโปงสองมาตรฐาน
ทักษิณเดินหมากหลายหน้า ... แนวทางการประกาศรัฐบาลพลัดถิ่นเพื่อนำไปสู่การประกาศใช้การต่อสู้แบบตาต่อตา อ้างความชอบธรรมที่จะเลิกใช้แนวทางสันติวิธีที่ประกาศ (ย้ำๆๆๆ) มาก่อนหน้า ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นเขาคงไม่แยแสประเทศไทยแล้ว คิดแต่ผลประโยชน์และอำนาจตัวเองเท่านั้น
อย่างที่กล่าว เขาเดินหมากหลายหน้า การเตรียมใช้โลกล้อมประเทศและประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นเป็นแนวหนึ่งที่เดินอยู่ แต่อีกทางหนึ่งก็ใช้การต่อรองกับขั้วอำนาจต่าง ๆ ทั้งใต้โต๊ะและในสภา ความเป็นไปได้ของแนวทางนี้ยังมีอยู่สูงโดยใช้ความพินาศฉิบหายเกิดสงครามกลางเมืองในประเทศมาเป็นเงื่อนไขต่อรอง
แนวรบสุดท้ายคือแนวรบมวลชนและการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงที่หัวขวดพยายามปลุกกันอยู่
ไม่ต้องสนใจคำพูดของจตุพรที่ว่าหลังตรุษจีนจะเกิดสงครามกลางเมือง ไม่ชนะก็ถูกจับหรือถูกหาม เพราะยังไม่ถึงเวลา และเงื่อนไขประกอบยังไม่ถึงพร้อม
งานมวลชนเสื้อแดงถือเป็นรากฐานของแนวรบด้านต่าง ๆ ทั้งเรื่องข้อต่อรองโลกล้อมประเทศ และคำประกาศสงครามกลางเมือง เป็นข้อต่อรองกับการเจรจาใต้โต๊ะและในสภา และยังเป็นรากฐานอำนาจที่แท้จริงของทักษิณ ชินวัตร
แต่งานมวลชนของคนเสื้อแดงยังมีปัญหา
ปัญหาแรกคือพวกโง่แล้วขยันซึ่งทำให้งานใหญ่พังมาหลายรอบแล้ว
เราจึงได้เห็นคณะกุนซือที่ใหญ่กว่าสามเกลอหัวขวดออกมาเบรกแผนการยกไปล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ และยกไปล้อมโรงพยาบาลศิริราช เพราะหากปล่อยให้ทำไปมีแต่จะทำให้ขบวนใหญ่พังและพัง
ม็อบเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ในต่างจังหวัดก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ เพราะการเคลื่อนไหวของพวกเขาหลายครั้งทำให้ภาพลักษณ์ของขบวนคนเสื้อแดงที่ประกาศแนวทางสันติวิธีโชว์ชาวโลกพังลงไป อย่างการประกาศฆ่าอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะของคนเสื้อแดงเชียงใหม่ก็ทำไปโดยพลการไปซ้อนทับกับแผนการเคลื่อนมวลชนที่กรุงเทพฯ
แม้กระทั่งล่าสุด การที่เหล่า ดีเจ.สังกัดเพชรวรรต ที่เชียงใหม่ยกชาวบ้านไปล้อมบ้านที่ อ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทองพาคณะไปสัมมนาที่ อ.ดอยสะเก็ดเมื่อเย็นวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมาก็เข้าข่ายนี้
ทักษิณเพิ่งประกาศที่เขาสอยดาวย้ำว่าคนเสื้อแดงใช้สันติวิธี แต่ถ่อยอันธพาลในพื้นที่ไม่สนและไม่รู้หรอกว่าอะไรคือยุทธศาสตร์ใหญ่ แทนที่จะไปชุมนุมโดยสงบไล่พอเป็นสัญลักษณ์เจือกไปยิงหนังสติ๊กปาหินขว้างประทัดใส่คนที่ไม่รู้เรื่องราว มีทั้งเด็กผู้หญิงพนักงานบริษัท หน้าต่างบ้านช่องเขาเสียหาย แกนนำนั้นรู้ทั้งรู้ว่า อ.เจิมศักดิ์ออกจากพื้นที่แล้ว ยังอวดฉลาดปลุกระดมคนให้เข้าไปแสดงกำลัง หารู้ไม่ว่าเมืองเชียงใหม่เป็นที่ตั้งของสถานกงสุลต่างประเทศจำนวนมากเขาติดตามข่าวสารตลอดรู้หมดว่าใครถ่อยใครอันธพาล
ภาพลักษณ์ขบวนการสันติประชาธิปไตยที่ทักษิณอุตส่าห์พยายามสร้างขึ้นใหม่ และพยายามปูฐานจะพลิกกลับมาใช้ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศอีกครั้งถูกคนพวกนี้ทำลายลงแบบโง่ ๆ (อีกครั้ง)
ปัญหาในขบวนมวลชนคนเสื้อแดงไม่ได้มีแค่เรื่องต้องสกัดกลุ่มโง่แล้วขยัน ยังมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งเรื่องผลประโยชน์และน้ำเลี้ยง
การเดินทางมาเขมรของทักษิณในเดือนหน้า จะมีการจัดทัวร์ไปเที่ยวหลายแห่ง (ผู้เขียนทราบมาก่อนว่าทักษิณมีกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ ดูในทวิตเตอร์ http://twitter.com/bunnaroth)
รอบที่แล้วคนเสื้อแดงบางกลุ่มทะเลาะกันเรื่องโควตาไปเขมร มารอบนี้หากทักษิณอยากใช้งานมวลชนอยู่จะต้องหาเงินจัดทัวร์เอาแกนนำกลุ่มต่างๆ ไปให้ครบอย่าได้ตกหล่นเพราะไม่แน่อาจจะทะเลาะสาวไส้กันอีก
แนวรบมวลชนคนเสื้อแดงไม่ได้เข้มแข็ง พร้อมเพรียง โดยเฉพาะการขายชีวิตพร้อมรบอย่างที่หลายคนเข้าใจ...ซึ่งจะมีผลต่อแผนการใหญ่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นหากเกมการต่อรองในสภาล้มเหลว
ทักษิณพูดจริงเรื่องแนวคิดรัฐบาลพลัดถิ่น แต่ทักษิณอาจจะถูกหลอกว่ามวลชนถึงพร้อมที่จะเปิดสงครามกลางเมือง พร้อมถูกหาม ถูกจับ
ทักษิณมีเงิน-จริง มีคนขายตัวให้-จริง แต่ถึงกับมีคนขายชีวิตให้นั้น-จริงแค่ไหน ?
จึงเชื่อได้ว่าทักษิณพูดจริง และถูกหลอกเอาเงินจริง !
ถ้าไม่ใช่การทำปืนลั่นก็ต้องหลุดออกมาจากจิตใต้สำนึกและเป็นการหลุดออกมาจากแผนการใหญ่ที่วางเอาไว้ล่วงหน้า
แผนปฏิบัติการโค่นอำมาตย์ที่เลื่อนเรื่อยมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วเกี่ยวข้องกับคดียึดทรัพย์ 26 กุมภาพันธ์ และสัมพันธ์กับแผนกลับมาสู่อำนาจและทรัพย์สินในช่วงหลังจากนั้น
การเดินสายบุกเขายายเที่ยง ไปสนามกอล์ฟสอยดาว และกำหนดไปเชียงใหม่ 29 มกราคม มีเป้าหมายเพื่อรื้อฟื้นยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ ชนบทล้อมเมืองขึ้นมาอีกครั้ง
เขายายเที่ยงและสนามกอล์ฟเป็นคนละเรื่องกับคำโม้ของจตุพร แต่เป็นเรื่องของแผนการทักษิณที่ใหญ่กว่าม็อบหัวขวดสีแดง
ทักษิณเคยใช้ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศมาก่อนแต่ก็ล้มเหลวดั่งที่ทราบกลับกลายเป็นโลกมาล้อมตัวเอง บรรดามหาอำนาจประชาธิปไตยไม่ต้อนรับ ยิ่งอยู่ไปยิ่งหาแผ่นดินเหยียบยากขึ้นเรื่อย ๆ
การจะพลิกโมเมนตั้มให้กลับมาสู่จุดนับหนึ่งของยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ ชนบทล้อมเมืองใหม่นั้นที่ง่ายที่สุดคือให้เกิดรัฐประหารครั้งใหม่ขึ้นในประเทศ
เอ็ม 79 ลึกลับที่ยิงใส่ห้องทำงาน ผบ.ทบ.เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามดังกล่าว
ถ้ามีรัฐประหาร การประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่น ชิงความชอบธรรมกลับมาจะทำให้การต่อสู้เพื่อกลับสู่อำนาจง่ายขึ้น
แต่หากไม่มีรัฐประหาร ธงที่จะประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นก็ยังเป็นไปได้ภายใต้ข้ออ้างประเทศไทยไม่ใช่รัฐประชาธิปไตย ไม่ใช่นิติรัฐ ประกอบด้วยการใช้อำนาจสองมาตรฐาน ถูกควบคุมโดยกลุ่มอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นการเดินสายไปทะเลาะกับป่าเขา และสนามกอล์ฟรอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการใหญ่ที่ว่า
สังเกตดูดี ๆ ตลอดเดือนที่ผ่านมาเขาย้ำๆๆๆๆๆ หลายรอบว่าคนเสื้อแดงใช้แนวทางสันติวิธี ควบคู่กับการพยายามเดินสายเปิดโปงสองมาตรฐาน
ทักษิณเดินหมากหลายหน้า ... แนวทางการประกาศรัฐบาลพลัดถิ่นเพื่อนำไปสู่การประกาศใช้การต่อสู้แบบตาต่อตา อ้างความชอบธรรมที่จะเลิกใช้แนวทางสันติวิธีที่ประกาศ (ย้ำๆๆๆ) มาก่อนหน้า ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นเขาคงไม่แยแสประเทศไทยแล้ว คิดแต่ผลประโยชน์และอำนาจตัวเองเท่านั้น
อย่างที่กล่าว เขาเดินหมากหลายหน้า การเตรียมใช้โลกล้อมประเทศและประกาศตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นเป็นแนวหนึ่งที่เดินอยู่ แต่อีกทางหนึ่งก็ใช้การต่อรองกับขั้วอำนาจต่าง ๆ ทั้งใต้โต๊ะและในสภา ความเป็นไปได้ของแนวทางนี้ยังมีอยู่สูงโดยใช้ความพินาศฉิบหายเกิดสงครามกลางเมืองในประเทศมาเป็นเงื่อนไขต่อรอง
แนวรบสุดท้ายคือแนวรบมวลชนและการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงที่หัวขวดพยายามปลุกกันอยู่
ไม่ต้องสนใจคำพูดของจตุพรที่ว่าหลังตรุษจีนจะเกิดสงครามกลางเมือง ไม่ชนะก็ถูกจับหรือถูกหาม เพราะยังไม่ถึงเวลา และเงื่อนไขประกอบยังไม่ถึงพร้อม
งานมวลชนเสื้อแดงถือเป็นรากฐานของแนวรบด้านต่าง ๆ ทั้งเรื่องข้อต่อรองโลกล้อมประเทศ และคำประกาศสงครามกลางเมือง เป็นข้อต่อรองกับการเจรจาใต้โต๊ะและในสภา และยังเป็นรากฐานอำนาจที่แท้จริงของทักษิณ ชินวัตร
แต่งานมวลชนของคนเสื้อแดงยังมีปัญหา
ปัญหาแรกคือพวกโง่แล้วขยันซึ่งทำให้งานใหญ่พังมาหลายรอบแล้ว
เราจึงได้เห็นคณะกุนซือที่ใหญ่กว่าสามเกลอหัวขวดออกมาเบรกแผนการยกไปล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ และยกไปล้อมโรงพยาบาลศิริราช เพราะหากปล่อยให้ทำไปมีแต่จะทำให้ขบวนใหญ่พังและพัง
ม็อบเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ในต่างจังหวัดก็จัดอยู่ในกลุ่มนี้ เพราะการเคลื่อนไหวของพวกเขาหลายครั้งทำให้ภาพลักษณ์ของขบวนคนเสื้อแดงที่ประกาศแนวทางสันติวิธีโชว์ชาวโลกพังลงไป อย่างการประกาศฆ่าอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะของคนเสื้อแดงเชียงใหม่ก็ทำไปโดยพลการไปซ้อนทับกับแผนการเคลื่อนมวลชนที่กรุงเทพฯ
แม้กระทั่งล่าสุด การที่เหล่า ดีเจ.สังกัดเพชรวรรต ที่เชียงใหม่ยกชาวบ้านไปล้อมบ้านที่ อ.เจิมศักดิ์ ปิ่นทองพาคณะไปสัมมนาที่ อ.ดอยสะเก็ดเมื่อเย็นวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมาก็เข้าข่ายนี้
ทักษิณเพิ่งประกาศที่เขาสอยดาวย้ำว่าคนเสื้อแดงใช้สันติวิธี แต่ถ่อยอันธพาลในพื้นที่ไม่สนและไม่รู้หรอกว่าอะไรคือยุทธศาสตร์ใหญ่ แทนที่จะไปชุมนุมโดยสงบไล่พอเป็นสัญลักษณ์เจือกไปยิงหนังสติ๊กปาหินขว้างประทัดใส่คนที่ไม่รู้เรื่องราว มีทั้งเด็กผู้หญิงพนักงานบริษัท หน้าต่างบ้านช่องเขาเสียหาย แกนนำนั้นรู้ทั้งรู้ว่า อ.เจิมศักดิ์ออกจากพื้นที่แล้ว ยังอวดฉลาดปลุกระดมคนให้เข้าไปแสดงกำลัง หารู้ไม่ว่าเมืองเชียงใหม่เป็นที่ตั้งของสถานกงสุลต่างประเทศจำนวนมากเขาติดตามข่าวสารตลอดรู้หมดว่าใครถ่อยใครอันธพาล
ภาพลักษณ์ขบวนการสันติประชาธิปไตยที่ทักษิณอุตส่าห์พยายามสร้างขึ้นใหม่ และพยายามปูฐานจะพลิกกลับมาใช้ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศอีกครั้งถูกคนพวกนี้ทำลายลงแบบโง่ ๆ (อีกครั้ง)
ปัญหาในขบวนมวลชนคนเสื้อแดงไม่ได้มีแค่เรื่องต้องสกัดกลุ่มโง่แล้วขยัน ยังมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งเรื่องผลประโยชน์และน้ำเลี้ยง
การเดินทางมาเขมรของทักษิณในเดือนหน้า จะมีการจัดทัวร์ไปเที่ยวหลายแห่ง (ผู้เขียนทราบมาก่อนว่าทักษิณมีกำหนดในเดือนกุมภาพันธ์ ดูในทวิตเตอร์ http://twitter.com/bunnaroth)
รอบที่แล้วคนเสื้อแดงบางกลุ่มทะเลาะกันเรื่องโควตาไปเขมร มารอบนี้หากทักษิณอยากใช้งานมวลชนอยู่จะต้องหาเงินจัดทัวร์เอาแกนนำกลุ่มต่างๆ ไปให้ครบอย่าได้ตกหล่นเพราะไม่แน่อาจจะทะเลาะสาวไส้กันอีก
แนวรบมวลชนคนเสื้อแดงไม่ได้เข้มแข็ง พร้อมเพรียง โดยเฉพาะการขายชีวิตพร้อมรบอย่างที่หลายคนเข้าใจ...ซึ่งจะมีผลต่อแผนการใหญ่ตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นหากเกมการต่อรองในสภาล้มเหลว
ทักษิณพูดจริงเรื่องแนวคิดรัฐบาลพลัดถิ่น แต่ทักษิณอาจจะถูกหลอกว่ามวลชนถึงพร้อมที่จะเปิดสงครามกลางเมือง พร้อมถูกหาม ถูกจับ
ทักษิณมีเงิน-จริง มีคนขายตัวให้-จริง แต่ถึงกับมีคนขายชีวิตให้นั้น-จริงแค่ไหน ?
จึงเชื่อได้ว่าทักษิณพูดจริง และถูกหลอกเอาเงินจริง !