นั่งคุยกับผู้มีใจฝักใฝ่ขบวนการเสื้อแดงสังกัดกลุ่มแดงจัดไม่เอาศักดินาเมื่อสามสี่วันก่อน เขามีใบหน้าหมองคล้ำ เคร่งเครียดกับสถานการณ์เปลี่ยนแปลงทางการเมืองระยะนี้อย่างยิ่ง
แต่ด้วยความที่มักคุ้นกันมานานต่างก็รู้ระยะห่างและเคารพจุดยืนของแต่ละฝ่ายทำให้ความเห็นต่างของเราไม่เคยนำไปสู่การทุบหัวกันเหมือนกับแดงโง่ ๆ บางกลุ่มกระทำ
แดงไม่เอาศักดินาถามตรง ๆ มาว่า “เหลืองกับแดงจับมือกันแล้วหรือ? ”
ขอสรุปความคิดรวบยอดของเขามานำเสนอ
เขามองว่า แกนนำสีเหลืองถูกข้างบนหักหลัง เขาเชื่อมาตลอดว่าขบวนการสีเหลืองเป็นส่วนหนึ่งของเบื้องบน คำว่าเบื้องบนของเขาอาจจะตีความหลายแง่สำหรับที่พื้นที่ตรงนี้ผมขอตีความเพื่อความเหมาะสมว่าเป็นคนชั้นสูงก็แล้วกัน
โดยมองว่าชนชั้นสูงรู้สึกหากให้ภาพลักษณ์การถือหางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปรากฏกลายเป็นความเชื่อในเชิง Perception จะเป็นอันตรายจึงต้องหาทางกำจัดภาพดังกล่าวโดยตัดสีเหลืองออกไป
ผมฟังน้ำเสียงว่าพวกเขา(หมายถึงการวิเคราะห์กันในกลุ่มแดงต้านศักดินา)มองว่าการที่คุณสนธิ รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพราะสาเหตุที่ถูกตัดออกมา
การที่นักโทษชายโฟนอินบอกว่าต่อไปพันธมิตรฯ คงจะไปซุกกับคนบางคนคงจะยากแล้ว โดยย้ำว่าก่อนหน้านี้ไปซุกกับคนบางคนเพื่อความปลอดภัย.. นี่ก็เป็นอีกข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ของพวกเขา
แดงไม่เอาศักดินา ยังเชื่อมั่นว่า เวลานี้แดงกับเหลืองจับมือกันจริง ๆ โดยพิจารณาจากการกลับลำของพรรคเพื่อไทยเลิกยุ่งเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ โดยมีสัญญาณจากดูไบส่งมา
เขาเชื่ออย่างจริงจังว่า รัฐธรรมนูญนี้เป็นเครื่องมือรักษาอำนาจของฝ่ายที่เขาไม่ชอบ ในเมื่อนักโทษชายส่งสัญญาณมาพร้อมกับดึงบิ๊กจิ๋วผู้เคยประกาศเปิดโปงขบวนการล้มเจ้า-ล้มทุนเตรียมนั่งหัวหน้าพรรค เป็นสัญญาณอันตรายของแดงไม่เอาศักดินาที่เข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการเสื้อแดง
นี่กระมังที่ทำให้เขาหน้าดำคร่ำเครียด
อันที่จริงแดงไม่เอาศักดินารู้สึกทะแม่ง ๆ ออกอาการตั้งแต่เรื่องทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาแล้ว เขาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยแต่บางส่วนยังเชื่อว่านี่เป็นแค่กลยุทธ์ แต่ต่อๆ มาหลังทูลเกล้าฯ สัญญาณยิ่งชัดเป็นลำดับ เริ่มจากการเปลี่ยนนโยบายไม่ทิ้งน้ำหนักให้กับม็อบหัวขวด ถึงขั้นต้องเลื่อนวัน และยิ่งซ้ำร้ายม็อบวันที่ 19 ก.ย. ซึ่งเป็นไฟต์บังคับก็เหมือนกับการชุมนุมเป็นสัญญลักษณ์เท่านั้น ระหว่างเดียวกันนักโทษชายก็เริ่มเล่นไพ่ใบอื่นๆ ควบคู่กันทั้งในสภาล่าง สภาสูง และที่สำคัญคือการขับเคลื่อนพรรคการเมืองเตรียมรอรับการเลือกตั้งรอบใหม่
และสุดท้ายคือการแก้รัฐธรรมนูญ ที่มีความเห็นต่างในเชิงกลยุทธ์ของแกนนำแดงจนสุดท้ายมีสัญญาณจากดูไบส่งมา
อย่าว่าแต่แดงต้านศักดินาที่เป็นพวกคนนอกแอบแฝงเลย ระหว่าง ส.ส.ด้วยกันยังทะแม่ง ๆ ซัดกันนัวไปทั้งพรรคเหมือนกัน
แดงไม่เอาศักดินา สรุปทุบโต๊ะว่า ต่อจากนี้กลุ่มแดงจัดจะกลายเป็นส่วนเกินของขบวนการแดงทักษิณ และจะต้องถูกแดงกับเหลืองจับมือกันกวาดล้างออกไปจากเวที
เขาจึงเจ็บปวดยิ่ง !
นำความคิดของแดงจัดมาเล่าสู่ให้ฟังไม่ใช่ว่าต้องการจะให้เชื่อว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นไปในรูปนี้หรอกนะครับ
ผมเชื่อว่าพวกเขาขาดข้อมูลบางด้านไป
แค่อยากนำเสนอความคิดจากมุมมองที่เราไม่คุ้นชินบ้างเท่านั้นเอง
......................
จากเรื่องแดงจัดที่เชื่อว่าเหลืองกับแดงจับมือกันแล้ว มาสู่เรื่องของกลุ่มแดงอ๋อย
นี่เป็นกลุ่มแดงที่พัฒนามาจากเพื่อนพ้องน้องพี่นักกิจกรรม-เคยเข้าป่า บัดนี้มีบทบาทในวงธุรกิจ วงการเมือง วงการศึกษา รวมถึงวงการม็อบอยู่พอสมควร
ก่อนหน้านี้กลุ่มแดงอ๋อย เห็นพรรคเพื่อไทยเละเทะหาหัวไม่ได้ ไปไม่เป็นมานานพอสมควร และเห็นว่า..
ในเมื่อมาร์คเป็นนายกฯได้ ทำไมอ๋อยจะเป็นไม่ได้
กลุ่มแดงอ๋อย จึงได้ขยับเครือข่ายทั้งขบวนเดินเกมขับสง่าราศีให้กับเพื่อนอ๋อยอย่างเป็นระบบก็โดยอาศัยฐานคนเสื้อแดงนี่แหละ
กลุ่มแดงอ๋อย กับ แดงล้มเจ้า อาจจะทับๆ ซ้อนกันอยู่เพราะล้วนแต่พวกเดียวกัน แต่ทว่าแดงอ๋อยนี่จะหนักไปทางเดินเกมเพื่อเข้าสู่อำนาจแบบประชาธิปไตยมากกว่า
เราจึงเห็นภาพแปลกๆ เช่นนักวิชาการเพื่อนอ๋อยบางคนถึงกับเอาตัวเข้าไปสัมพันธ์กับขบวนการเสื้อแดงถ่อยๆ บางกลุ่ม หลายคนตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น แท้จริงมาจากเครือข่ายเพื่อนอ๋อยกำลังเดินเกมขยับหมากนั่นแหละ
การเข้ามาสู่พรรคเพื่อไทยของบิ๊กจิ๋วเป็นผลดีกับกลุ่มแดงอ๋อยอย่างยิ่ง เพราะพวกแดงอ๋อยแม้เป็นซ้ายเก่าแต่ก็ซ้ายเนียนๆ ไปได้ทุกที่ ไม่เหมือนกลุ่มแดงจัดตกขอบที่กำลังกุมขมับอยู่เวลานี้
จึงควรจะจับตากลุ่มแดงอ๋อยทั้งที่เป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ รวมถึงการขยับของเครือข่ายนี้ในสายสื่อมวลชนมากขึ้นเป็นลำดับ
..............................
จากแดงจัด แดงอ๋อยแล้ว ขอแถมเรื่องของแดงกร่าง โง่ๆ กลุ่มหนึ่งปิดท้ายเป็นของหวาน
เมื่อสี่ห้าวันก่อน แรมโบ้อีสาน และแกนนำแดงแถวสองหลายคนรวมทั้ง เจ๊ดา ไปเชียงใหม่ ขากลับไปขึ้นเครื่องที่สนามบินไม่ทัน แอร์เอเชียปฏิเสธไม่ให้ขึ้น พวกนี้ก็เลยโวยวายแสดงอิทธิฤทธิ์ที่สนามบินก่อนจะตีตั๋นกแอร์กลับกรุงเทพฯได้ในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา
ระหว่างนั้นก็โทรศัพท์ไปที่วิทยุชุมชนของแดงอันธพาลให้ประกาศระดมคนเสื้อแดงประท้วงแอร์เอเชียที่ไม่ให้เกียรติคนเสื้อแดง
รุ่งขึ้น แรมโบ้อีสาน เปิดแถลงข่าวซัดกัปตันแอร์เอเชียว่า ปฏิเสธไม่ให้คนเสื้อแดงขึ้นเครื่องเพราะรังเกียจคนเสื้อแดง เป็นการเลือกปฏิบัติ
คนๆ นี้เคยเป็น ส.ส.มาแล้ว แต่ไม่มีวุฒิภาวะสมกับตำแหน่งเอาเสียเลย
เพราะนี่คือการโกหกผ่านสื่ออีกครั้งหนึ่ง ข้อเท็จจริงก็คือ ไม่ว่าสายการบินใดๆ หากผู้โดยสารมาไม่ทันเช็คอิน เคาน์เตอร์ปิดไปแล้วย่อมถือเป็นตกเครื่อง
กรณีกลุ่มแดงกร่างที่เชียงใหม่เป็นการเดินทางไปไม่ทันเอง ไม่ใช่กัปตันปฏิเสธเพราะรังเกียจคนเสื้อแดง
หลักฐานมีชัดเจนคือภาพวิดีโอของสนามบิน ใครเข้ามาสายเป็นเวลาเท่าไหร่ ใครแสดงฤทธิ์โง่ ๆ อะไรออกไปบ้าง
ถ้าแดงกร่างยังคงยืนยันในประเด็นที่แถลงข่าว ขอบอกเอาบุญให้รู้ว่าเรื่องนี้มีหลักฐานที่จะประจานความไม่เข้าท่าของพวกเขาออกมาได้อย่างชัดเจน
เรื่องนี้สรุปความได้สั้นๆ ว่า.. ถุยส์ ทุเรศว่ะ !
แต่ด้วยความที่มักคุ้นกันมานานต่างก็รู้ระยะห่างและเคารพจุดยืนของแต่ละฝ่ายทำให้ความเห็นต่างของเราไม่เคยนำไปสู่การทุบหัวกันเหมือนกับแดงโง่ ๆ บางกลุ่มกระทำ
แดงไม่เอาศักดินาถามตรง ๆ มาว่า “เหลืองกับแดงจับมือกันแล้วหรือ? ”
ขอสรุปความคิดรวบยอดของเขามานำเสนอ
เขามองว่า แกนนำสีเหลืองถูกข้างบนหักหลัง เขาเชื่อมาตลอดว่าขบวนการสีเหลืองเป็นส่วนหนึ่งของเบื้องบน คำว่าเบื้องบนของเขาอาจจะตีความหลายแง่สำหรับที่พื้นที่ตรงนี้ผมขอตีความเพื่อความเหมาะสมว่าเป็นคนชั้นสูงก็แล้วกัน
โดยมองว่าชนชั้นสูงรู้สึกหากให้ภาพลักษณ์การถือหางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งปรากฏกลายเป็นความเชื่อในเชิง Perception จะเป็นอันตรายจึงต้องหาทางกำจัดภาพดังกล่าวโดยตัดสีเหลืองออกไป
ผมฟังน้ำเสียงว่าพวกเขา(หมายถึงการวิเคราะห์กันในกลุ่มแดงต้านศักดินา)มองว่าการที่คุณสนธิ รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพราะสาเหตุที่ถูกตัดออกมา
การที่นักโทษชายโฟนอินบอกว่าต่อไปพันธมิตรฯ คงจะไปซุกกับคนบางคนคงจะยากแล้ว โดยย้ำว่าก่อนหน้านี้ไปซุกกับคนบางคนเพื่อความปลอดภัย.. นี่ก็เป็นอีกข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ของพวกเขา
แดงไม่เอาศักดินา ยังเชื่อมั่นว่า เวลานี้แดงกับเหลืองจับมือกันจริง ๆ โดยพิจารณาจากการกลับลำของพรรคเพื่อไทยเลิกยุ่งเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ โดยมีสัญญาณจากดูไบส่งมา
เขาเชื่ออย่างจริงจังว่า รัฐธรรมนูญนี้เป็นเครื่องมือรักษาอำนาจของฝ่ายที่เขาไม่ชอบ ในเมื่อนักโทษชายส่งสัญญาณมาพร้อมกับดึงบิ๊กจิ๋วผู้เคยประกาศเปิดโปงขบวนการล้มเจ้า-ล้มทุนเตรียมนั่งหัวหน้าพรรค เป็นสัญญาณอันตรายของแดงไม่เอาศักดินาที่เข้าไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการเสื้อแดง
นี่กระมังที่ทำให้เขาหน้าดำคร่ำเครียด
อันที่จริงแดงไม่เอาศักดินารู้สึกทะแม่ง ๆ ออกอาการตั้งแต่เรื่องทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาแล้ว เขาส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยแต่บางส่วนยังเชื่อว่านี่เป็นแค่กลยุทธ์ แต่ต่อๆ มาหลังทูลเกล้าฯ สัญญาณยิ่งชัดเป็นลำดับ เริ่มจากการเปลี่ยนนโยบายไม่ทิ้งน้ำหนักให้กับม็อบหัวขวด ถึงขั้นต้องเลื่อนวัน และยิ่งซ้ำร้ายม็อบวันที่ 19 ก.ย. ซึ่งเป็นไฟต์บังคับก็เหมือนกับการชุมนุมเป็นสัญญลักษณ์เท่านั้น ระหว่างเดียวกันนักโทษชายก็เริ่มเล่นไพ่ใบอื่นๆ ควบคู่กันทั้งในสภาล่าง สภาสูง และที่สำคัญคือการขับเคลื่อนพรรคการเมืองเตรียมรอรับการเลือกตั้งรอบใหม่
และสุดท้ายคือการแก้รัฐธรรมนูญ ที่มีความเห็นต่างในเชิงกลยุทธ์ของแกนนำแดงจนสุดท้ายมีสัญญาณจากดูไบส่งมา
อย่าว่าแต่แดงต้านศักดินาที่เป็นพวกคนนอกแอบแฝงเลย ระหว่าง ส.ส.ด้วยกันยังทะแม่ง ๆ ซัดกันนัวไปทั้งพรรคเหมือนกัน
แดงไม่เอาศักดินา สรุปทุบโต๊ะว่า ต่อจากนี้กลุ่มแดงจัดจะกลายเป็นส่วนเกินของขบวนการแดงทักษิณ และจะต้องถูกแดงกับเหลืองจับมือกันกวาดล้างออกไปจากเวที
เขาจึงเจ็บปวดยิ่ง !
นำความคิดของแดงจัดมาเล่าสู่ให้ฟังไม่ใช่ว่าต้องการจะให้เชื่อว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นไปในรูปนี้หรอกนะครับ
ผมเชื่อว่าพวกเขาขาดข้อมูลบางด้านไป
แค่อยากนำเสนอความคิดจากมุมมองที่เราไม่คุ้นชินบ้างเท่านั้นเอง
......................
จากเรื่องแดงจัดที่เชื่อว่าเหลืองกับแดงจับมือกันแล้ว มาสู่เรื่องของกลุ่มแดงอ๋อย
นี่เป็นกลุ่มแดงที่พัฒนามาจากเพื่อนพ้องน้องพี่นักกิจกรรม-เคยเข้าป่า บัดนี้มีบทบาทในวงธุรกิจ วงการเมือง วงการศึกษา รวมถึงวงการม็อบอยู่พอสมควร
ก่อนหน้านี้กลุ่มแดงอ๋อย เห็นพรรคเพื่อไทยเละเทะหาหัวไม่ได้ ไปไม่เป็นมานานพอสมควร และเห็นว่า..
ในเมื่อมาร์คเป็นนายกฯได้ ทำไมอ๋อยจะเป็นไม่ได้
กลุ่มแดงอ๋อย จึงได้ขยับเครือข่ายทั้งขบวนเดินเกมขับสง่าราศีให้กับเพื่อนอ๋อยอย่างเป็นระบบก็โดยอาศัยฐานคนเสื้อแดงนี่แหละ
กลุ่มแดงอ๋อย กับ แดงล้มเจ้า อาจจะทับๆ ซ้อนกันอยู่เพราะล้วนแต่พวกเดียวกัน แต่ทว่าแดงอ๋อยนี่จะหนักไปทางเดินเกมเพื่อเข้าสู่อำนาจแบบประชาธิปไตยมากกว่า
เราจึงเห็นภาพแปลกๆ เช่นนักวิชาการเพื่อนอ๋อยบางคนถึงกับเอาตัวเข้าไปสัมพันธ์กับขบวนการเสื้อแดงถ่อยๆ บางกลุ่ม หลายคนตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น แท้จริงมาจากเครือข่ายเพื่อนอ๋อยกำลังเดินเกมขยับหมากนั่นแหละ
การเข้ามาสู่พรรคเพื่อไทยของบิ๊กจิ๋วเป็นผลดีกับกลุ่มแดงอ๋อยอย่างยิ่ง เพราะพวกแดงอ๋อยแม้เป็นซ้ายเก่าแต่ก็ซ้ายเนียนๆ ไปได้ทุกที่ ไม่เหมือนกลุ่มแดงจัดตกขอบที่กำลังกุมขมับอยู่เวลานี้
จึงควรจะจับตากลุ่มแดงอ๋อยทั้งที่เป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ รวมถึงการขยับของเครือข่ายนี้ในสายสื่อมวลชนมากขึ้นเป็นลำดับ
..............................
จากแดงจัด แดงอ๋อยแล้ว ขอแถมเรื่องของแดงกร่าง โง่ๆ กลุ่มหนึ่งปิดท้ายเป็นของหวาน
เมื่อสี่ห้าวันก่อน แรมโบ้อีสาน และแกนนำแดงแถวสองหลายคนรวมทั้ง เจ๊ดา ไปเชียงใหม่ ขากลับไปขึ้นเครื่องที่สนามบินไม่ทัน แอร์เอเชียปฏิเสธไม่ให้ขึ้น พวกนี้ก็เลยโวยวายแสดงอิทธิฤทธิ์ที่สนามบินก่อนจะตีตั๋นกแอร์กลับกรุงเทพฯได้ในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดมา
ระหว่างนั้นก็โทรศัพท์ไปที่วิทยุชุมชนของแดงอันธพาลให้ประกาศระดมคนเสื้อแดงประท้วงแอร์เอเชียที่ไม่ให้เกียรติคนเสื้อแดง
รุ่งขึ้น แรมโบ้อีสาน เปิดแถลงข่าวซัดกัปตันแอร์เอเชียว่า ปฏิเสธไม่ให้คนเสื้อแดงขึ้นเครื่องเพราะรังเกียจคนเสื้อแดง เป็นการเลือกปฏิบัติ
คนๆ นี้เคยเป็น ส.ส.มาแล้ว แต่ไม่มีวุฒิภาวะสมกับตำแหน่งเอาเสียเลย
เพราะนี่คือการโกหกผ่านสื่ออีกครั้งหนึ่ง ข้อเท็จจริงก็คือ ไม่ว่าสายการบินใดๆ หากผู้โดยสารมาไม่ทันเช็คอิน เคาน์เตอร์ปิดไปแล้วย่อมถือเป็นตกเครื่อง
กรณีกลุ่มแดงกร่างที่เชียงใหม่เป็นการเดินทางไปไม่ทันเอง ไม่ใช่กัปตันปฏิเสธเพราะรังเกียจคนเสื้อแดง
หลักฐานมีชัดเจนคือภาพวิดีโอของสนามบิน ใครเข้ามาสายเป็นเวลาเท่าไหร่ ใครแสดงฤทธิ์โง่ ๆ อะไรออกไปบ้าง
ถ้าแดงกร่างยังคงยืนยันในประเด็นที่แถลงข่าว ขอบอกเอาบุญให้รู้ว่าเรื่องนี้มีหลักฐานที่จะประจานความไม่เข้าท่าของพวกเขาออกมาได้อย่างชัดเจน
เรื่องนี้สรุปความได้สั้นๆ ว่า.. ถุยส์ ทุเรศว่ะ !