วีระ มุสิกพงศ์ ชงลูกถามว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ นักโทษชายหนีคุก ทักษิณ ชินวัตร ตอบว่า ต้องแล้วแต่พระมหากรุณาธิคุณ
ทักษิณ ชินวัตร เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและเป็นนายตำรวจย่อมรู้ดีว่าขั้นตอนของการทูลเกล้าถวายฎีกาเพื่อจะขอพระราชทานอภัยโทษเป็นเช่นไรผู้กระทำความผิดกฎหมายบ้านเมืองที่ผ่านมาล้วนแต่ยอมรับและสำนึกในโทษที่กระทำลงไปแล้วจึงถวายฎีกาเพื่อขอพระบารมีเป็นที่พึ่ง
เรื่องแบบนี้เป็นสามัญสำนึกของวัฒนธรรมการแสดงความเคารพของเด็ก-ผู้ใหญ่ .. สมมติเด็กในบ้านกระทำความผิด แต่ยังแสดงออกถึงการไม่รู้สำนึก ตะบึงตะบันอาละวาดทุบทำลายข้าวของในบ้าน ปากบอกอยากให้ผู้ใหญ่ยกโทษเฆี่ยน แต่มือก็ยังทุบข้าวของแสดงฤทธิ์เดช
แบบนี้ใครเล่าจะยกโทษให้ !
เอาล่ะถึงจะแหกธรรมเนียมเก่าไปสร้างธรรมเนียมใหม่โดยตัวไม่มาเข้าคุก ปากปฏิเสธคำตัดสินในพระปรมาภิไธย แล้วก็ตั้งม็อบล่าชื่อปลุกคนมาทูลเกล้าฯ
แต่ที่สุดแล้วการถวายฎีกาขออภัยโทษนอกพรมแดนข้ามมาก็ถือว่าน่าจะทำได้ เพราะทุกคนย่อมมีสิทธิขอรับพระกรุณาธิคุณได้ทั้งนั้น ถึงจะตีลูกเซ่อ หน้ามึนเข้ามาก็เถิด
ทักษิณ ชินวัตร และสามเกลอฟังไว้ .., แม้โดยทฤษฎีและธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่ถือว่าการถวายฎีกาเป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาทก็ตาม
แต่ในฐานะพสกนิกรที่ได้รับความร่มเย็นจากพระบรมโพธิสมภารมาตลอดชีวิต ควรต้องตระหนักถึงความเหมาะควร ต้องพยายามอย่างถึงที่สุดไม่ให้การกระทำที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการถวายฎีกาของตนเป็นที่ขุ่นข้องก้าวล่วงเบื้องพระยุคลบาท
ลำพังการถวายฎีกาขอพึ่งพระบารมี ไม่ก้าวล่วง
แต่ที่หมิ่นเหม่กับการก้าวล่วงคือ การกระทำที่ไม่สำนึก ท้าทาย และเป็นปฏิปักษ์ เสมือนเป็นการต่อรอง-กดดันต่อพระบรมราชวินิจฉัย
ทักษิณ ชินวัตร และแก๊งสามเกลอต้องแสดงต่อสังคมให้ประจักษ์ว่าจะต้องไม่มีเรื่องที่ไม่บังควรควบคู่กับขั้นตอนถวายฎีกาซึ่งทำให้เข้าใจว่าเป็นการกดดัน-ต่อรอง อย่างเช่น พร้อม ๆ กับการถวายฎีกายังมีการปลุกระดมผู้คนให้เป็นฝักฝ่าย พร้อมไล่ล่ารัฐมนตรีฝ่ายตรงกันข้าม บางพื้นที่มีการตั้งแก๊งอันธพาลใครจัดสัมมนา จัดเวทีก็ไปปิดล้อมคุกคามเขา ทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข ให้อีกฝ่ายมีอำนาจแต่ปกครองไม่ได้ส่งสัญญาณไปว่าหากไม่พิจารณาบ้านเมืองจะเลวร้ายไปกว่านี้
อันเป็นการใช้บ้านเมืองมาเป็นตัวประกันในกระบวนการถวายฎีกาของตน
ไม่เพียงเท่านั้น คนเสื้อแดงควรรู้ไว้ว่ายังมีการแจกจ่ายใบปลิวโจมตีสถาบันสำคัญอันเป็นที่เคารพของประชาชน มีการตั้งคำถามบ้า ๆ บอ ๆ บอกว่ามีผู้อิจฉา OTOP แล้วก็ยังมีกลุ่มเสื้อแดงซ้ายจัดพยายามตั้งคำถามเป็นประเด็นเชิงสัญลักษณ์ว่าวันชาติไม่ควรเป็นวันที่ 5 ธันวาคม ฯลฯ เป็นต้น
ถ้าจะพึ่งพระบารมี จะต้องแสดงความศรัทธาในพระบารมีให้เป็นที่ประจักษ์ !!
ลองไปถามพวกเดียวกันที่เป็นคนในขบวนการเวทีเสื้อแดงอย่าง จรัล ดิษฐาอภิชัย เหวง โตจิราการ สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ชินวัฒน์ หาบุญพาด สุนัย จุลพงศธร สมยศ พฤกษาเกษมสุข ฯลฯ ว่า พวกเขาเหล่านั้นกล้าประสานเสียงกับทักษิณและวีระเป็นหนึ่งเดียวกันหรือเปล่า
ถามว่า..พวกเขาชาวเสื้อแดงที่ถูกจัดเป็นซีกซ้ายตามหาวันชาติไทย เห็นด้วยและต้องการจะพึ่งพระบารมี และมีศรัทธาในพระบารมีโดยปราศจากข้อสงสัยใด ๆ หรือไม่ ?
หากขบวนการเสื้อแดงไม่แสดงความชัดเจนให้สังคมเห็นเป็นประจักษ์ สังคมก็จะแสดงความสงสัยกลับไปยัง ทักษิณ และขบวนการเสื้อแดงว่า... นี่เป็นการแสดงละครที่ไม่เหมาะควร ฝ่ายหนึ่งแสร้งกราบขอบารมีเป็นที่พึ่ง แต่อีกฟากหนึ่งก็ยังแจกใบปลิวยังตามหาวันชาติไทยไม่เสร็จ
ก็เวทีคนเสื้อแดงของวีระ มุสิกพงศ์คนนี้มิใช่เรอะที่ทำคัตเอาต์ฉากหลังเป็นรูปไดโนเสาร์เมื่อวันก่อน และยังมีฉากหลังเวทีที่หน้ารัฐสภาซ้ำขึ้นอีก
ทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้าแบบนี้ ผมคนหนึ่งล่ะที่ต้องตั้งคำถามแรง ๆ กลับไปว่า พวกคุณเสแสร้งความศรัทธาในพระบารมีหรือไม่ ถ้าพวกคุณคิดถวายฎีกาแบบที่กำลังจะทำ ทางหนึ่งยื่นทูลเกล้าฯ อีกทางหนึ่งปลุกมวลชนกดดัน อีกพวกหนึ่งก็โจมตีบั่นทอนบุคคลสำคัญ ก็ขออย่าได้ริทำเลย
อันที่จริงอำนาจฝ่ายทักษิณ คือพรรคเพื่อไทยยังมีโอกาสที่จะกลับมามีอำนาจในเส้นทางการเมืองผลการเลือกตั้งซ่อม 2 ครั้งทำให้เกิดขวัญกำลังใจ และกำลังฟอร์มปรับปรุงพรรครอบใหม่ แทนที่จะเป็นพรรคหัวขาดเหมือนที่ผ่านมาครึ่งปี
ถ้าประชาธิปัตย์สะดุด พรรคเพื่อไทยก็ยังมีโอกาส- -เพียงแต่ต้องอดทนรอหน่อย
การเมืองบนถนนของมวลชนเสื้อแดง หากยึดกรอบกติกาแสดงพลังได้แต่ไม่ติดอาวุธ ไม่ปลุกให้คนเผาบ้านเผาเมือง หรือหลิ่วตาให้หางแดงอันธพาลยกพวกไประรานเขาเหมือนในหลายจังหวัด – พลังของมวลชนคนเสื้อแดงก็ยังมี และมีผลต่อการเมืองใหญ่ในระดับสำคัญ
การชุมนุมโดยอหิงสานั้นสำคัญอยู่ที่หัวใจ มีน้ำอดน้ำทนแค่ไหน – ปัญหาคือเหล่าแกนนำไม่อดทน คิดเผด็จศึกเร็ว ปล่อยให้ฝ่ายเหยี่ยวลากลงคลองกันเอง
ถ้าศรัทธาให้พลังของประชาชนจริงก็ต้องอดทนเริ่มตั้งฐานกันใหม่ แล้วก็ต้องตัดพวกอันธพาลหางแดงออกไป ส่วนที่ต่างจังหวัดอย่างที่เชียงใหม่ เชียงราย อุดรฯ ที่เคยแสดงฤทธิ์เดชอันธพาลเป็นหลักนั้นก็สั่งห้ามซะ หากจะแสดงฤทธิ์ก็ต้องแสดงกันในกรอบสังคมเขาจะรับได้
ในเมื่อทักษิณ และเหล่าแกนนำไม่เลือกที่จะใช้แนวทางอดทน ใจร้อนหันมาใช้ทางลัดโดยเตรียมล่าชื่อถวายฎีกา ก็ต้องเตรียมใจไว้ด้วย
ทางหลักมีไม่เดิน หันมาใช้ทางลัด ระวังจะหลงทิศผิดทาง เข้ารกเข้าพงกู่ไม่กลับ
คนเสื้อแดงที่สติดี ๆ ไม่คิดช่วยเตือนผู้นำและแกนนำของท่านบ้างเลยหรือ
ได้ข่าวอากาศที่ดูไบแตะ 50 องศาแล้วมิใช่เรอะ ... น่าเป็นห่วงจริง ๆ !!!
ทักษิณ ชินวัตร เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและเป็นนายตำรวจย่อมรู้ดีว่าขั้นตอนของการทูลเกล้าถวายฎีกาเพื่อจะขอพระราชทานอภัยโทษเป็นเช่นไรผู้กระทำความผิดกฎหมายบ้านเมืองที่ผ่านมาล้วนแต่ยอมรับและสำนึกในโทษที่กระทำลงไปแล้วจึงถวายฎีกาเพื่อขอพระบารมีเป็นที่พึ่ง
เรื่องแบบนี้เป็นสามัญสำนึกของวัฒนธรรมการแสดงความเคารพของเด็ก-ผู้ใหญ่ .. สมมติเด็กในบ้านกระทำความผิด แต่ยังแสดงออกถึงการไม่รู้สำนึก ตะบึงตะบันอาละวาดทุบทำลายข้าวของในบ้าน ปากบอกอยากให้ผู้ใหญ่ยกโทษเฆี่ยน แต่มือก็ยังทุบข้าวของแสดงฤทธิ์เดช
แบบนี้ใครเล่าจะยกโทษให้ !
เอาล่ะถึงจะแหกธรรมเนียมเก่าไปสร้างธรรมเนียมใหม่โดยตัวไม่มาเข้าคุก ปากปฏิเสธคำตัดสินในพระปรมาภิไธย แล้วก็ตั้งม็อบล่าชื่อปลุกคนมาทูลเกล้าฯ
แต่ที่สุดแล้วการถวายฎีกาขออภัยโทษนอกพรมแดนข้ามมาก็ถือว่าน่าจะทำได้ เพราะทุกคนย่อมมีสิทธิขอรับพระกรุณาธิคุณได้ทั้งนั้น ถึงจะตีลูกเซ่อ หน้ามึนเข้ามาก็เถิด
ทักษิณ ชินวัตร และสามเกลอฟังไว้ .., แม้โดยทฤษฎีและธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่ถือว่าการถวายฎีกาเป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาทก็ตาม
แต่ในฐานะพสกนิกรที่ได้รับความร่มเย็นจากพระบรมโพธิสมภารมาตลอดชีวิต ควรต้องตระหนักถึงความเหมาะควร ต้องพยายามอย่างถึงที่สุดไม่ให้การกระทำที่เกี่ยวข้องกับประเด็นการถวายฎีกาของตนเป็นที่ขุ่นข้องก้าวล่วงเบื้องพระยุคลบาท
ลำพังการถวายฎีกาขอพึ่งพระบารมี ไม่ก้าวล่วง
แต่ที่หมิ่นเหม่กับการก้าวล่วงคือ การกระทำที่ไม่สำนึก ท้าทาย และเป็นปฏิปักษ์ เสมือนเป็นการต่อรอง-กดดันต่อพระบรมราชวินิจฉัย
ทักษิณ ชินวัตร และแก๊งสามเกลอต้องแสดงต่อสังคมให้ประจักษ์ว่าจะต้องไม่มีเรื่องที่ไม่บังควรควบคู่กับขั้นตอนถวายฎีกาซึ่งทำให้เข้าใจว่าเป็นการกดดัน-ต่อรอง อย่างเช่น พร้อม ๆ กับการถวายฎีกายังมีการปลุกระดมผู้คนให้เป็นฝักฝ่าย พร้อมไล่ล่ารัฐมนตรีฝ่ายตรงกันข้าม บางพื้นที่มีการตั้งแก๊งอันธพาลใครจัดสัมมนา จัดเวทีก็ไปปิดล้อมคุกคามเขา ทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข ให้อีกฝ่ายมีอำนาจแต่ปกครองไม่ได้ส่งสัญญาณไปว่าหากไม่พิจารณาบ้านเมืองจะเลวร้ายไปกว่านี้
อันเป็นการใช้บ้านเมืองมาเป็นตัวประกันในกระบวนการถวายฎีกาของตน
ไม่เพียงเท่านั้น คนเสื้อแดงควรรู้ไว้ว่ายังมีการแจกจ่ายใบปลิวโจมตีสถาบันสำคัญอันเป็นที่เคารพของประชาชน มีการตั้งคำถามบ้า ๆ บอ ๆ บอกว่ามีผู้อิจฉา OTOP แล้วก็ยังมีกลุ่มเสื้อแดงซ้ายจัดพยายามตั้งคำถามเป็นประเด็นเชิงสัญลักษณ์ว่าวันชาติไม่ควรเป็นวันที่ 5 ธันวาคม ฯลฯ เป็นต้น
ถ้าจะพึ่งพระบารมี จะต้องแสดงความศรัทธาในพระบารมีให้เป็นที่ประจักษ์ !!
ลองไปถามพวกเดียวกันที่เป็นคนในขบวนการเวทีเสื้อแดงอย่าง จรัล ดิษฐาอภิชัย เหวง โตจิราการ สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ชินวัฒน์ หาบุญพาด สุนัย จุลพงศธร สมยศ พฤกษาเกษมสุข ฯลฯ ว่า พวกเขาเหล่านั้นกล้าประสานเสียงกับทักษิณและวีระเป็นหนึ่งเดียวกันหรือเปล่า
ถามว่า..พวกเขาชาวเสื้อแดงที่ถูกจัดเป็นซีกซ้ายตามหาวันชาติไทย เห็นด้วยและต้องการจะพึ่งพระบารมี และมีศรัทธาในพระบารมีโดยปราศจากข้อสงสัยใด ๆ หรือไม่ ?
หากขบวนการเสื้อแดงไม่แสดงความชัดเจนให้สังคมเห็นเป็นประจักษ์ สังคมก็จะแสดงความสงสัยกลับไปยัง ทักษิณ และขบวนการเสื้อแดงว่า... นี่เป็นการแสดงละครที่ไม่เหมาะควร ฝ่ายหนึ่งแสร้งกราบขอบารมีเป็นที่พึ่ง แต่อีกฟากหนึ่งก็ยังแจกใบปลิวยังตามหาวันชาติไทยไม่เสร็จ
ก็เวทีคนเสื้อแดงของวีระ มุสิกพงศ์คนนี้มิใช่เรอะที่ทำคัตเอาต์ฉากหลังเป็นรูปไดโนเสาร์เมื่อวันก่อน และยังมีฉากหลังเวทีที่หน้ารัฐสภาซ้ำขึ้นอีก
ทำตัวเป็นลิงหลอกเจ้าแบบนี้ ผมคนหนึ่งล่ะที่ต้องตั้งคำถามแรง ๆ กลับไปว่า พวกคุณเสแสร้งความศรัทธาในพระบารมีหรือไม่ ถ้าพวกคุณคิดถวายฎีกาแบบที่กำลังจะทำ ทางหนึ่งยื่นทูลเกล้าฯ อีกทางหนึ่งปลุกมวลชนกดดัน อีกพวกหนึ่งก็โจมตีบั่นทอนบุคคลสำคัญ ก็ขออย่าได้ริทำเลย
อันที่จริงอำนาจฝ่ายทักษิณ คือพรรคเพื่อไทยยังมีโอกาสที่จะกลับมามีอำนาจในเส้นทางการเมืองผลการเลือกตั้งซ่อม 2 ครั้งทำให้เกิดขวัญกำลังใจ และกำลังฟอร์มปรับปรุงพรรครอบใหม่ แทนที่จะเป็นพรรคหัวขาดเหมือนที่ผ่านมาครึ่งปี
ถ้าประชาธิปัตย์สะดุด พรรคเพื่อไทยก็ยังมีโอกาส- -เพียงแต่ต้องอดทนรอหน่อย
การเมืองบนถนนของมวลชนเสื้อแดง หากยึดกรอบกติกาแสดงพลังได้แต่ไม่ติดอาวุธ ไม่ปลุกให้คนเผาบ้านเผาเมือง หรือหลิ่วตาให้หางแดงอันธพาลยกพวกไประรานเขาเหมือนในหลายจังหวัด – พลังของมวลชนคนเสื้อแดงก็ยังมี และมีผลต่อการเมืองใหญ่ในระดับสำคัญ
การชุมนุมโดยอหิงสานั้นสำคัญอยู่ที่หัวใจ มีน้ำอดน้ำทนแค่ไหน – ปัญหาคือเหล่าแกนนำไม่อดทน คิดเผด็จศึกเร็ว ปล่อยให้ฝ่ายเหยี่ยวลากลงคลองกันเอง
ถ้าศรัทธาให้พลังของประชาชนจริงก็ต้องอดทนเริ่มตั้งฐานกันใหม่ แล้วก็ต้องตัดพวกอันธพาลหางแดงออกไป ส่วนที่ต่างจังหวัดอย่างที่เชียงใหม่ เชียงราย อุดรฯ ที่เคยแสดงฤทธิ์เดชอันธพาลเป็นหลักนั้นก็สั่งห้ามซะ หากจะแสดงฤทธิ์ก็ต้องแสดงกันในกรอบสังคมเขาจะรับได้
ในเมื่อทักษิณ และเหล่าแกนนำไม่เลือกที่จะใช้แนวทางอดทน ใจร้อนหันมาใช้ทางลัดโดยเตรียมล่าชื่อถวายฎีกา ก็ต้องเตรียมใจไว้ด้วย
ทางหลักมีไม่เดิน หันมาใช้ทางลัด ระวังจะหลงทิศผิดทาง เข้ารกเข้าพงกู่ไม่กลับ
คนเสื้อแดงที่สติดี ๆ ไม่คิดช่วยเตือนผู้นำและแกนนำของท่านบ้างเลยหรือ
ได้ข่าวอากาศที่ดูไบแตะ 50 องศาแล้วมิใช่เรอะ ... น่าเป็นห่วงจริง ๆ !!!
