xs
xsm
sm
md
lg

อภิสิทธิ์ - วาระแห่งชาติ

เผยแพร่:   โดย: บัณรส บัวคลี่

การประกาศให้การท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ แท้จริงเป็นเพียงการแก้ปัญหาภายในประนีประนอมกับพรรคชาติไทยพัฒนาระหว่างรัฐบาลแก้ปัญหาความมั่นคงไม่ได้-มากกว่า

เรื่องนี้จึงเป็นเพียงหนึ่งในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

คำว่า “วาระแห่งชาติ” หมายถึงองคาพยพทุกส่วนของรัฐต้องร่วมแรงร่วมใจทุ่มเทสรรพกำลังและทรัพยากรเพื่อบรรลุเป้าหมาย

สิ่งที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ น่าจะประกาศเป็นวาระแห่งชาติมากกว่าเรื่องการท่องเที่ยวคือการหลอมรวมดวงใจและพลังของแผ่นดินทั้งภาครัฐและพลเมืองร่วมกันนำประเทศไทยฝ่ามรสุมวิกฤตความมั่นคงของชาติ

วิกฤตความมั่นคงของชาติในที่นี้เป็นคนละเรื่องและแตกต่างจากความมั่นคงของรัฐบาลประชาธิปัตย์

ประเทศไทยเวลานี้เหมือนเรือที่ผจญพายุบ้ากระหน่ำซัด ทุกปัญหาที่เจอไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองภายใน เรื่องขบวนการไม่เอาระบอบการปกครองแบบปัจจุบัน และทั้งเรื่องเศรษฐกิจภายนอก ล้วนแต่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาวิกฤตความมั่นคงของชาติทั้งสิ้น

ยังไม่มีใครที่เอาเรื่องเหล่านี้มาแจกแจงแยกย่อยให้เข้าใจง่ายอธิบายต่อประชาชนว่า สิ่งที่ประเทศไทยกำลังผจญนั้นหนักหนาแค่ไหน เศรษฐกิจของเราหลังเหตุการณ์วิกฤติสงกรานต์แดงที่ถูกบริษัทประเมินเครดิตลดชั้นลงอีก ความเชื่อมั่นที่สูญเสียไป ฯลฯ หนักหนาเพียงใด

ยังไม่เห็นการอธิบายต่อสาธารณะอย่างเป็นระบบจริงจังถึงการพยายามก่อการร้ายมีขบวนการพยายามทำให้ประเทศไทยกลายเป็นรัฐล้มเหลว (Failed State) นั้นจะนำมาซึ่งผลเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้าง-รากฐาน-ระบบสังคม-นิติรัฐ-ความสงบสุขและเชื่อมั่นในความดีงามของสังคมอย่างไร

ลองหลับตานึกดูว่า สังคมที่ไม่มีใครไว้ใจใคร ไม่มั่นใจว่าระบบบ้านเมืองคุ้มครองความปลอดภัยให้เราได้ ต่างคนต่างพกปืน ต้องรวมกลุ่มกันอย่างหวาดระแวง กฎหมายไม่เป็นกฎหมาย เจ้าหน้าที่ทำอะไรไม่ได้และไม่ใครเชื่อถือหรือไว้ใจ สถาบันหลักที่เคยเป็นศูนย์รวมทำให้สังคมสงบนิ่งเป็นปึกแผ่นถูกท้าทายบ่อนเซาะ กฎศีลธรรมค้ำจุนสังคมไม่ได้ ... ไม่มีใครเชื่อมั่น ไม่มาลงทุนคบค้า ฯลฯ แบบนี้คนไทยจะอยู่กันอย่างไร

คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะพอดีเหมือนกับฟ้าลิขิตให้มาทำหน้าที่เป็นกัปตันนำนาวาไทยฝ่าพายุใหญ่ในจังหวะเวลาที่ฉุกเฉินที่สุด

อภิสิทธิ์หลังสงกรานต์คืออภิสิทธิ์คนใหม่ที่ผ่านจุดพลิกผันอันตรายกลับมายืนในตำแหน่งที่มีเสียงสนับสนุนมหาศาลไม่เฉพาะฐานเสียงปชป.ดั้งเดิมเท่านั้นหากยังมีคนที่อยู่ตรงกลางธรรมดา ๆ อีกจำนวนมากที่หนุนอยู่เบื้องหลัง

ไม่ได้พูดแบบเอาใจยกยอเกินเหตุ อภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ อีกคนหนึ่งที่มีโอกาสจะเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ ประตูของเส้นทางสู่รัฐบุรุษเปิดแล้ว ปัญหาคือจะเดินไปถึงจุดนั้นหรือไม่ ? .... ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินมนุษย์จะก้าวถึง...อย่างทักษิณ ชินวัตรเองก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เคยมีโอกาสยืนอยู่หน้าประตูสายนี้แต่เขากลับเลือกเดินสู่เส้นทางทรราชหัวหน้าขบถเสื้อแดงเอง

เวลา-วารีไม่ย้อนกลับ เช่นเดียวกับชะตาของ ทักษิณ ชินวัตร !

ประวัติศาสตร์บอกเราว่า มีผู้นำที่ยิ่งใหญ่จำนวนมากที่เข้าสู่ตำแหน่งช่วงอายุน้อย บารมีน้อย เข้ามาในช่วงที่มีปัญหาการเมืองภายในมีกลุ่มอำนาจอื่น ๆ ขวางทางอยู่ แต่ผู้นำที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้นพากเพียร ฝ่าฟัน ผ่านจุดอันตรายจนไปสู่ความเป็นผู้นำยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์

ประวัติศาสตร์ไทยยุครัตนโกสินทร์ก็มีล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ที่เป็นแบบอย่าง หรือในสมัยราชวงศ์ชิง มีจักรพรรดิยิ่งใหญ่ 2 องค์ หนึ่งคือ เฉียนหลง อีกหนึ่งคือ คังซี

จักรพรรดิคังซี ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่ยังเยาว์ท่ามกลางการเมืองในราชสำนักมีขุนนางกุมอำนาจอยู่แถมมีศึกสงครามเหนือใต้อยู่ภายนอก กว่าจะก้าวขึ้นมาถึงจุดเปลี่ยนสร้างสมบารมีต้องผ่านเหตุการณ์เกือบจะถูกโค่นตกบัลลังก์ ที่สุดก็นำประเทศจีนยุคนั้นก้าวหน้าอย่างมากมาย

นายกฯ อภิสิทธิ์ อยู่ในจังหวะของการเปลี่ยนผ่านจากจุดไร้บารมีปราศจากความเชื่อมั่นมาสู่ภาพลักษณ์ใหม่ โมเมนตัมอำนาจบารมีตกอยู่ที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะแล้วกำลังสังเกตเห็นว่านายกฯ อภิสิทธิ์เริ่มเชื่อมั่นที่จะใช้อำนาจนั้น อย่างเช่นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ซึ่งแม้จะยังไม่เพียงพอแต่ก็เป็นนิมิตหมายที่ดี)

หรือแม้แต่เกมการเปิดไฟเขียว พ.ร.บ.นิรโทษกรรมนักการเมืองที่ถูกแขวน หมากเกมนี้เดิมทักษิณ คิดจะใช้เพื่อฆ่าอภิสิทธิ์ปลดปล่อยตนเอง แต่ที่สุดกลับเป็นอภิสิทธิ์ยืมดาบเล่มเดียวกันกลับไปเชือดทักษิณ ปลดปล่อยบริวารเจ้ามูลเมืองเพื่อปลดปล่อยเงื่อนไขเก่าสร้างบรรยากาศใหม่..แล้วก็ลอยแพทักษิณให้ล่องลอยเป็นสัมภเวสีต่อไป

สังคมไทยเริ่มเห็นเห็นกัปตันเรือที่น่าจะฝากความหวังได้ผงาดขึ้นมาในท่ามกลางที่เรือใหญ่ถูกม้วนอยู่ในพายุใหญ่และหินโสโครก

คนไทยวันนี้คล้ายกับคนอังกฤษวันที่ถูกกระหน่ำจมอยู่ใต้สงครามและลูกระเบิดจากฟากฟ้า วันนั้นเซอร์ วินสตัน เชอร์ชิล เป็นผู้นำที่กระตุ้นขวัญกำลังใจหลอมหัวใจคนอังกฤษเป็นหนึ่งเดียวฝ่าฟันวิกฤตการณ์จนลุล่วง

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วันนี้-วันที่โมเมนตัม/บารมีฉายจับ น่าจะหยิบบทเรียนของเซอร์วินสตัน เชอร์ชิล เป็นผู้นำที่ออกมากระตุ้นหลอมรวมพลังของแผ่นดินฝ่าวิกฤตใหญ่ให้ได้

การท่องเที่ยวยังไม่ใช่วิกฤตที่แท้จริงหรอกครับ เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

วิกฤตที่แท้จริงที่ควรจะเป็นวาระแห่งชาติคือวิกฤตความมั่นคงของชาติ !

ประเทศไทยวันนี้ไม่ได้ยืนบนปากเหวหรอก แต่ตกลงไปค่อนตัวแล้วแต่คนไทยจำนวนมากยังไม่รู้ว่าตนอยู่ในจุดอันตรายเพียงใด และมีไม่น้อยที่ไม่รู้จะออกมาแก้ปัญหาตนเองอย่างไร

เรายังมีความหวังที่จะเห็นการหลอมรวมพลัง-ทรัพยากร-ความมุ่งมั่น-เชื่อมร้อยวิญญาณของพลเมืองปลุกสำนึกสาธารณะครั้งสำคัญเพื่อนำชาติพ้นจากวิกฤตใหญ่ให้ได้

นี่คือวาระแห่งชาติที่แท้จริงครับคุณอภิสิทธิ์ !!
กำลังโหลดความคิดเห็น