xs
xsm
sm
md
lg

I have a dream

เผยแพร่:   โดย: พระบาท นามเมือง

แล้วเราก็ได้นายบาร์ค โอบามา มาเป็นประธานาธิบดีที่สร้างประวัติศาสตร์ โดยเป็นคนผิวดำคนแรกที่ได้เป็นประธานาธิบดีของประเทศมหาอำนาจ และชัยชนะของโอบามาทิ้งห่างคู่แข่ง จอห์น แมคเคน อย่างสุดกู่ครับ

แน่นอนว่าในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกนั้น โอบามาขอบคุณหลายคนและแสดงไมตรีจิตกับคู่ต่อสู้ รวมทั้งพร้อมที่จะร่วมงานด้วย แม้ว่าจะไม่มีคำคมหรือคำติดหูตรึงใจเหมือนสุนทรพจน์ของอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้

แต่เขาก็ยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นสโลแกนในการหาเสียงของเขานั้นได้เริ่มขึ้นแล้ว ทว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่จะใช้เวลาเป็นปีหรือตลอด 4 ปี ที่เขาอยู่ในตำแหน่ง เขายังกล่าวถึงทหารอเมริกันทั้งในสมรภูมิที่อิรักและในอัฟกานิสถานโดยย่อมแน่นอนว่าที่อิรักเขาถอนทหารแน่

ตามกระแสข่าว โอบามาได้เทียบเชิญนักวิชาการจำนวนหนึ่งไว้มิใช่ว่าจะมาเป็นที่ปรึกษานะครับ แต่จะให้มาดำรงตำแหน่งบริหารในรัฐบาลเลยทีเดียว

ในธรรมเนียมการบริหารแบบอเมริกานั้นมีตำแหน่งที่ต้องการเปลี่ยนไม่ต่ำกว่า 3,000 กว่าตำแหน่ง โดยตำแหน่งเหล่านี้ก็เพื่อให้ประธานาธิบดีและฝ่ายบริหารสามารถทำงานได้คล่องตัวยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า นายโอบามาจะได้คนที่อยู่ในวงการการเงินและมีความเชี่ยวชาญทั้งตลาดทุนและด้านเศรษฐกิจมหภาคมาอยู่ตำแหน่งสำคัญ ซึ่งอาจเข้าไปบริหารในตำแหน่งว่าการกระทรวงการคลังหรือกระทรวงด้านเศรษฐกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง

ผลกระทบต่อประเทศไทยนั้น ก็คาดหมายว่าไม่น่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก เราคงได้รับการสนับสนุนด้านการซื้ออาวุธใหม่ๆ มากขึ้น ขณะที่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจก็น่าจะดีขึ้น แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ เรื่องการละเมิดสิทธิบัตร และบรรดาสินค้าปลอมๆ ทั้งหลายคงจะต้องให้มีการกวดขันกันมากขึ้น

จนถึงบัดนี้ยังไม่ทราบว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในไทย จะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ นายโอบามานั้นรู้จักเอเชียตรงที่เขาเคยมาอยู่ที่อินโดนีเซียพักหนึ่ง เพราะมารดาเคยมาทำงานที่นี่ และที่อินโดนีเซียครูเก่าๆ เขาก็มีอยู่ โดยเขาเคยบอกกับครูคนหนึ่งว่า เมื่อเขาโตขึ้นก็อยากเป็นประธานาธิบดี

บัดนี้เขาสมใจอยากแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะเป็นประธานาธิบดีที่ดีหรือไม่

และจะเป็นประธานาธิบดีผิวสีที่จะประสบความสำเร็จจนเป็นแบบอย่างให้สหรัฐฯ ยอมรับที่จะมีประธานาธิบดีคนผิวสีคนต่อไปอีกหรือเปล่า

สังคมอเมริกานั้น พวกรักครอบครัวและชนชั้นกลางดูจะชื่นชมนายโอบามามาก เพราะเขาให้คุณค่ากับการเป็น “family-man” และการมีชีวิต “เยี่ยงสามัญชน”

แต่เมื่อเป็นประธานาธิบดี ชีวิตเขาและครอบครัวก็ต้องเปลี่ยนไป ไม่มีเหมือนเดิมอีก

โอบามาอาจจะเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่สร้างการเปลี่ยนแปลงต่อสังคมอเมริกันได้หลายอย่าง แต่คนอเมริกันนั้นที่ไม่ชอบเปลี่ยนแปลงก็มี เพราะว่าถ้าเปลี่ยนเร็วเกินไปก็หมายความว่า สังคมต้องจ่ายด้วยราคาแพงเสมอ

หลายคนเฝ้าระวังต่อนโยบายภาษีของเขา และวิตกเช่นกันว่าคู่แข่งทางการค้าอย่างจีนและอินเดียนั้นยังน่ากลัวอยู่ ทั้งๆ ที่ทางการจีนออกมายอมรับว่า เศรษฐกิจจีนเริ่มมีการชะลอตัวและจะเติบโตในอัตราน้อยลงกว่าเดิมใน 2-3 ปีข้างหน้าก็ตาม

หลายคนเช่นกันคิดว่าสิ่งที่น่ากลัวของโอบามาก็คือภัยจากการลอบสังหาร คนที่คิดทำร้ายเขาก็เพราะว่าไม่ใช่มีแต่พวกไม่ชอบคนผิวสี แต่เป็นพวกไม่ชอบ “คนดัง” ดังนั้นทีมงาน รปภ.ทั้งของทำเนียบขาวหรือเอฟบีไอหรือซีไอเอ เวลานี้ก็เตรียมหารายชื่อคนพวกนี้อยู่ และพร้อมที่จะติดตามแกะรอยอยู่แล้ว

กว่าโอบามาจะรับตำแหน่งอย่างเป็นเรื่องเป็นราวก็ต้นปีหรือราวๆ ต้นมกราคมปีหน้า และแน่นอนว่าสุนทรพจน์ในอย่างเป็นทางการของเขาคงจะเตรียมการมาดี คงจะมีคำพูดที่จับใจคนอเมริกันและคงเป็นคำพูดที่กระตุ้นให้คนผิวดำเกิดความภูมิใจถึงความทัดเทียมในฐานะคนอเมริกันเช่นเดียวกับเขา

มาร์ติน ลูเธอร์คิง เคยกล่าวว่า “ผมมีความฝัน”

โอบามาได้ทำความฝันของลูเธอร์คิงให้เป็นความจริงแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น