ในห้องประชุมข่าวกระทรวงต่างประเทศจีนในกรุงปักกิ่งเมื่อบ่ายของวันที่ 10 ต.ค. โฆษกประจำกระทรวงต่างประเทศจีน นาย กัว จยาคุน ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวจีน ที่ลุกขึ้นถามว่า “เมื่อไม่นานมานี้ มีสื่อตะวัตกได้รายงานว่า “จีนได้ให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธจำนวนมากแก่กัมพูชา กระตุกกระแสสงสัยว่าจีนลำเอียงเข้าข้างอีกฝ่ายในข้อพิพาทชายแดนไทยกับกัมพูชา ซึ่งเป็นการบิดเบือนความร่วมมือในด้านการปกป้องดินแดนระหว่างจีนกับประเทศที่เกี่ยวข้อง ขอถามว่า “ฝ่ายจีนมีความเห็นต่อประเด็นนี้อย่างไร?”
กัว จยาคุน ตอบว่า นับตั้งแต่เกิดการปะทะบริเวณชายแดนไทยและกัมพูชา จีนซึ่งเป็นมิตรประเทศที่ใกล้ชิดของทั้งสองชาติ ได้ยึดมั่นจุดยืนที่เป็นธรรมและเป็นกลาง อีกทั้งได้ผลักดันการเจรจาสันติภาพอย่างแข็งขัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชาได้บรรลุฉันทามติในการกอบกู้สันติภาพ และได้จัดการเจรจาอย่างไม่เป็นทางการระหว่างสามฝ่าย ขณะเดียวกันผู้แทนพิเศษฝ่ายกิจการเอเชียของกระทรวงต่างประเทศจีน ได้เดินทางไปยังประเทศไทย และกัมพูชาหลายครั้งเพื่อเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง
ขณะเดียวกัน จีน มาเลเซีย และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่างได้ร่วมกันไกล่เกลี่ยจนไทยและกัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และได้สื่อสารผ่านกลไกทวิภาคีกันมาโดยตลอด โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องฯแสดงความชื่นชมอย่างมากต่อบทบาทของจีนที่ไม่มีผู้ใดจะมาแทนที่ได้นี้
กัว จยาคุน กล่าวว่า ฝ่ายจีนสนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายไทยและกัมพูชาคลี่คลายความขัดแย้วงกันโดยการเจรจาและการหารือกัน อีกทั้งสนับสนุนมาเลเซียให้แสดงบทบาทเต็มที่ในฐานะประธานหมุนเวียนของอาเซียน ใช้กลไกของอาเซียนในการแก้ปัญหาการเมือง จีนยินดีที่จะเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยและส่งเสริมการเจรจาในวิถีของตัวเองภายใต้ความประสงค์และความเต็มใจของฝ่ายไทยและกัมพูชา เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่ข้อตกลงหยุดยิง และการแก้ไขปัญหาขัดแย้งโดยสันติวิธี
“จีนได้ผลักดันและดำเนินความร่วมมือด้านการปกป้องกันดินแดนตามซึ่งเป็นปฏิบัติการปกติกับกลุ่มประเทศในอาเซียนรวมทั้งไทยและกัมพูชา แต่สื่อตะวันตกบางรายพยายามที่จะบ่อนทำลายความสัมพันธ์ฉันมิตรกับประเทศที่เกี่ยวข้องเหล่านี้ แต่พวกเขาจะไม่มีวันทำสำเร็จ”
ไทมไลน์ความขัดแย้งและการเจรจาไกล่เกลี่ยฯ
-ในวันที่ 24 ก.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) เกิดเหตุปะทะบริเวณพรมแดนไทยและกัมพูชา โดยต่างฝ่ายต่างก็กล่าวหากันว่าอีกฝ่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและทำลายเสถียรภาพอาณาบริเวณ
-วันที่ 28 ก.ค. ภายใต้การไกล่เกลี่ยของ นาย อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซีย ได้จัดการเจรจาระหว่างไทยและกัมพูชา และได้ข้อตกลงกันว่าจากเวลา 24.00 น. ของวันเดียวกันเป็นต้นไป สองฝ่ายจะหยุดยิงกันโดยไม่มีเงื่อนไขใด พร้อมกันนี้ คู่กรณีสองฝ่ายได้จัดตั้งคณะกรรมาธิการชายแดน ฟื้นฟูสถานการณ์ชายแดน เสถียรภาพ และสันติภาพ
-วันที่ 7 ส.ค. คณะกรรมาธิการชายแดนได้จัดการประชุมพิเศษเพื่อบรรลุฉันทามติเกี่ยวกับการจัดการการหยุดยิง สองฝ่ายได้ลงนามในเอกสารข้อตกลงอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการวางรากฐานสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทยและกัมพูชา