ซีเอ็นเอ็นสื่ออเมริกันรายงานว่า นักชาตินิยมและสื่อของรัฐบาลจีนแทบระงับความสะใจเอาไว้ไม่อยู่ หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันศุกร์ (14 มี.ค.) ให้ยุบวิทยุเสียงอเมริกา (Voice of America -VOA) วิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia - RFA) ตลอดจนองค์กรสื่ออื่นๆ ซึ่งกระจายเสียงไปยังระบอบเผด็จการด้วยเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
ซีเอ็นเอ็นระบุว่า รัฐบาลจีนและเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อได้โจมตีวีโอเอและอาร์เอฟเออย่างไม่ลดละมาเป็นเวลาหลายปีที่รายงานข่าววิพากษ์วิจารณ์ประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพทางศาสนา แต่รัฐบาลทรัมป์กำลังปิดปากสถาบันเหล่านี้ไปเสียอย่างนั้นในช่วงเวลาที่จีนกำลังจ่ายเงินไม่อั้นเพื่อขยายฐานสื่อของรัฐบาลจีนในทั่วโลก ตามรายงานของซีเอ็นเอ็น ในบทบรรณาธิการเมื่อวันจันทร์ของโกลบอลไทมส์ หนังสือพิมพ์ซึ่งบริหารโดยพรรคคอมมิวนิวต์จีนและชอบท้าตีท้าต่อยฉบับนี้ได้ประณามวีโอเอว่า เป็น “โรงงานโกหก” ด้วย “ประวัติการรายงานข่าวเกี่ยวกับจีนที่แย่มาก” ไม่ว่าจะเป็นรายงานข่าวกล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคซินเจียง ข่าวข้อพิพาททะเลจีนใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง การระบาดของไวรัสโคโรนา และเศรษฐกิจของจีน “แทบทุกข่าวโป้ปดมดเท็จ ประสงค์ร้าย และมีลายนิ้วมือของวีโอเออยู่เต็มไปหมด”
วีโอเอ รายงานข่าวเกี่ยวกับจีนมานานหลายทศวรรษ การออกอากาศภาคภาษาจีนกลายเป็นแหล่งข้อมูลสำคัญสำหรับชาวจีนในช่วงการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี พ.ศ.2532 วีโอเอยุติการออกอากาศภาคภาษาจีนในปี พ.ศ.2554 แต่เว็บไซต์ภาษาจีนยังคงออนไลน์อยู่จนถึงวันจันทร์ (17 มี.ค.)
ส่วน อาร์เอฟเอ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2539 มีการออกอากาศไปยังประเทศจีนด้วยบริการภาษาอังกฤษ จีน อุยกูร์ และทิเบต โดยให้บริการแก่ชนกลุ่มน้อยซึ่งรัฐบาลจีนถูกกล่าวหาว่าละเมิดเสรีภาพมานาน
เบย์ ฟาง ซีอีโอของ อาร์เอฟเอ เรียกการตัดเงินช่วยเหลือนี้ว่าเป็น "รางวัลสำหรับผู้นำเผด็จการและผู้กดขี่ รวมถึงพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการมีอิทธิพลที่ไม่ถูกตรวจสอบในพื้นที่ของข้อมูลข่าวสาร”
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของอินฟลูเอ็นเซอร์ชาตินิยมในโซเชียลมีเดียของจีนที่ซีเอ็นเอ็นรายงานกลับเป็นคนละเรื่องกันเลย
นายหู สีจิ้น อดีตบรรณาธิการบริหารของโกลบอลไทมส์และนักวิจารณ์ชาตินิยมชื่อดังโพสต์ว่า “ช่างน่ายินดีจริงๆ” ในเว่ยปั๋ว ซึ่งมีผู้ติดตามเขาเกือบ 25 ล้านคน และ “ชาวจีนเกือบทั้งหมดรู้จักวิทยุเสียงอเมริกาว่าเป็นเครื่องมือเชิงสัญลักษณ์ในการแทรกซึมทางอุดมการณ์ของสหรัฐฯ เข้าสู่จีน”
นักวิจารณ์ชาตินิยมอีกคนกล่าวหาสื่อที่ถูกยุบทั้งสองว่า “เป็นเครื่องจักรโฆษณาชวนเชื่อที่ฉาวโฉ่เพื่อการปฏิวัติสี” ซึ่งเขาหมายถึงการเดินขบวนประท้วงของประชาชนโค่นล้มรัฐบาลชาติอดีตสหภาพโซเวียตและชาติในคาบสมุทรบอลข่านในช่วงปี พ.ศ.2543-2552
“ผมกำลังหัวเราะขำกลิ้ง” เขาบอก
อีกหลายคนโห่ร้องยินดีกับทรัมป์
“ขอบคุณสหายชวนเจี้ยนกั๋วและอีลอน มัสก์ โปรดดูแลตัวเองและขอให้ปลอดภัยนะ” ผู้ใช้เว่ยปั๋วคนหนึ่งระบุเมื่อวันจันทร์ (17 มี.ค.)
ซีเอ็นเอ็นระบุว่า “ชวนเจี้ยนกั๋ว” หรือ “ทรัมป์ผู้สร้างชาติ (จีน)” เป็นฉายาที่ชาวเน็ตจีนเรียกทรัมป์ช่วงดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรก ซึ่งเป็นการเหน็บแนมนโยบายต่างประเทศแบบแยกตัวเองจากชาติอื่น รวมถึงนโยบายที่สร้างความแตกแยกภายในสหรัฐฯ เองของทรัมป์กำลังช่วยให้รัฐบาลจีนแซงหน้ารัฐบาลสหรัฐฯ บนเวทีโลก โดยมัสก์ที่ปรึกษาอภิมหาเศรษฐีของทรัมป์ ผู้เป็นหัวหอกในการลดการใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐฯ ครั้งใหญ่ ได้ใช้แพลตฟอร์ม X ของเขา เรียกร้องให้ปิดวีโอเอ
“ข่าวนี้ถือเป็นจุดจบของยุคสมัยหนึ่ง” อีกหนึ่งความเห็นในเว่ยปั๋วเมื่อวันอาทิตย์ (16 มี.ค.)
ที่มา : ‘How gratifying’: Cheers in China as Trump dismantles Voice of America ใน CNN