โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล
ในช่วงนี้มีข่าวดังหนึ่งเกี่ยวกับตัวเลขสถิติจำนวนประชากรของจีนในปี 2022 ที่มีจำนวนลดลงกว่า 850,000 คน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 61 ปี ของจีนที่จำนวนประชากรลดลง สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนรายงานว่าเหตุผลหลักที่ทำให้ประชากรจีนมีจำนวนลดลง มีอยู่ 2 ปัจจัยหลัก คือ อัตราเกิดลดลง และอัตราผู้สูงอายุพุ่งสูงขึ้น
ในหลายปีที่ผ่านมานี้ ทัศนคติการแต่งงานมีครอบครัวของชาวจีนยุคใหม่เปลี่ยนไป ความกดดันในชีวิตมีหลายด้าน และผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้คนจีนยุคใหม่ไม่กระตือรือร้นที่จะมีบุตร โดยทางสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนได้รายงานเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ที่ประชากรจีนลดลงนี้มาเร็วกว่าที่คาดการณ์หลายปี โดยหากมองถึงประเทศที่พัฒนาแล้ว ประชาชนมีรายได้ที่มากขึ้นก็จะมีความต้องการมีบุตรลดลง อัตราการเกิดลดลงเป็นลำดับ ในอนาคตจีนจะเป็นแบบนั้นเช่นกัน
ต่อเนื่องจากจำนวนประชากรที่ลดลง อีกปัญหาหนึ่งที่เป็นความท้าทายของจีนคือ “สังคมผู้สูงอายุ” จากข้อมูลถึงปี 2022 ประชากรจีนที่อายุมากกว่า 60 ขึ้นไปมีมากถึง 280 ล้านคน คิดเป็น 19.8% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ จากสัดส่วนนี้บ่งชี้ว่าจีนได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ด้านรัฐบาลจีนได้ยกสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุเป็นวาระแห่งชาติมาตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งในขณะนั้นมีเพียง 3 มณฑลของจีนที่มีอัตราการเติบโตของจำนวนประชากรเป็นลบ แต่ในปี 2022 ที่ผ่านมานี้ มณฑลที่มีอัตราการเติบโตประชากรเป็นลบมีมากถึง 13 มณฑล
สังคมผู้สูงอายุจีน มาพร้อมกับโอกาสทางเศรษฐกิจมากมาย ในบทความนี้ผู้เขียนขอเจาะประเด็น “เศรษฐกิจคนผมขาว” หรือภาษาจีนที่ว่า “银发经济” อ่านว่า อิ๋นฟ่าจิงจี้ ประเด็นนี้ถูกยกขึ้นมากล่าวถึงมากมายในโซเชียลว่า “เศรษฐกิจคนผมขาว” จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจีนได้มากถึง 1 ล้านล้านหยวน และในอีก 10 ปีข้างหน้า กลุ่มคนผู้สูงอายุจะเป็นกลุ่มที่สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน ดังนั้น ในด้านการใช้จ่ายในประเทศจะให้ความสำคัญกับกลุ่มคนวัยทำงานอย่างเดียวไม่ได้อีกแล้ว
“เศรษฐกิจคนผมขาว” ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ ภาคสินค้าอุปโภคบริโภคของผู้สูงอายุ ภาคยาและผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุและภาคการบริการอำนวยความสะดวกในด้านการใช้ชีวิตให้แก่ผู้สูงอายุ ในปี 2030 ขนาดของเศรษฐกิจคนผมขาวของจีนจะทะลุ 20 ล้านล้านหยวน ดังนั้น ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด
กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับสังคมผู้สูงอายุมีสายป่านที่ยาว ตั้งแต่การรักษาสุขภาพและการรักษาโรค โรงพยาบาล การบันเทิงและสันทนาการ บ้านพักดูแลผู้สูงอายุ และการเงินการธนาคารและประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้เขียนสังเกตว่าปัจจุบันจีนค่อนข้างให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้สูงอายุอย่างมาก เช่น เมื่อปลายปี 2022 ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนให้ธนาคารรัฐวิสาหกิจและธนาคารเอกชนร่วมกันชักชวนให้กลุ่มคนผู้สูงอายุลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เหมือนกับกองทุน LTF และ RMF ของไทย โดยรัฐบาลจีนมุ่งหวังให้ประชาชนมีเงินเก็บสำรองไว้ใช้ในยามชรามากขึ้นและไม่รอพึ่งพารัฐอย่างเดียว และกำลังจัดระเบียบให้อุตสาหกรรมธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุเข้าร่องเข้ารอยมากขึ้น นอกจากนี้ ยังจัดการกับกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงกลุ่มผู้สูงอายุอย่างเข้มข้น
กลุ่มผู้สูงอายุจีนในยุคนี้ส่วนใหญ่มีความต้องการ 3 ประเภทหลักๆ ด้วยกันคือ หนึ่งการประคองให้สุขภาพแข็งแรง สองการดูแลเอาใจใส่ และสามการนันทนาการ เพราะผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะกลัวความเหงาและกลัวว่าตัวเองจะไร้ค่าในสังคม
ผู้สูงอายุจีนมีความต้องการใช้จ่ายเพื่อแสวงหาความสุขให้ตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะการเดินทางท่องเที่ยว ผู้สูงอายุกลุ่มนี้ไม่ใช่แค่มีเงินเพื่อการใช้จ่ายท่องเที่ยวเท่านั้น ยังสามารถใช้เทคโนโลยีได้ค่อนข้างดี แสวงหาความทันสมัยและกลุ่มนี้เองที่จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมบริการจีนโดยรวมเติบโตได้ขึ้นไปอีก
แล้ว “เศรษฐกิจคนผมขาว” ของจีนมีปัญหาอะไรอยู่ และจะเติบโตอย่างไร? ผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจดูแลผู้สูงอายุจีนรายหนึ่งกล่าวว่า ปัจจุบันตลาดจีนยังขาดแคลนบุคลากรที่เป็นมืออาชีพในการดูแลผู้สูงอายุ ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุยังย่ำอยู่กับที่ โดยที่มีทำอยู่มากในปัจจุบันยังเป็นบริการขั้นพื้นฐานเท่านั้น ยังไม่มีการพัฒนาไปจนเป็นระดับ “พรีเมียม” การบริการยังไม่ตรงจุดและยังไม่ดีพอ ทำให้ธุรกิจบริการผู้สูงอายุในจีนยังติดกับดักอยู่ ยังไม่ขึ้นไปถึงระดับสูงได้
การตลาดและการรับรู้ของประชาชนในเรื่องธุรกิจบริการผู้สูงอายุยังไม่ดีพอ รัฐบาลแต่ละท้องที่มีการพัฒนาด้านบริการผู้สูงอายุที่ต่างกัน การมีส่วนร่วมของเอกชนยังน้อยอยู่มาก ผู้สูงอายุจีนจำนวนมากยังคงมีอคติกับบ้านพักและบริการต่างๆ เพื่อคนชรา อีกนัยหนึ่งคือผู้สูงอายุจีนในปัจจุบันเป็นกลุ่มคนรุ่นเก่าที่ชอบเก็บเงินและไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย เหตุผลต่างๆ เหล่านี้เป็นเหตุผลที่ทำให้การเติบโตของ “เศรษฐกิจคนผมขาว” ของจีนในปัจจุบันมีจำกัด
ในปี 2023 นี้รัฐบาลจีนมีการอนุมัติจัดตั้งเขตนิคมอุตสาหกรรมเพื่อผู้สูงอายุทั้งหมด 10 กว่าแห่งทั่วประเทศครอบคลุมทั้งประเทศ เพราะการสนับสนุนของรัฐบาลนี้ทำให้บริษัทเอกชนจีนกระโดดเข้ามาหาโอกาสในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สุงอายุ เช่น อสังหาริมทรัพย์+บริการดูแลและฟื้นฟูผู้สูงอายุ การรักษาพยาบาล+กายภาพฟื้นฟูและระบบการดูแลผู้สูงอายุอัจฉริยะ เป็นต้น
บริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนทั้งหลายเริ่มเบนเข็มมองหาโอกาสจากการสร้างที่พักอาศัยเพื่อผู้สูงอายุ เนื่องจากภาคอสังหาริมทรัพย์สร้างบ้านขายทั่วไปยอดขายไม่กระเตื้องและจำนวนประชากรเกิดใหม่มีแนวโน้มลดลง จำนวนบ้านพักอาศัยทั่วไปที่มีอยู่ก็ล้นตลาดเกินความต้องการอยู่แล้ว และบริษัทประกันภัยหลายบริษัทเริ่มเข้ามารุกตลาดกลุ่มผู้สูงอายุอย่างจริงจังตั้งแต่ปี 2021 โดยบริษัทประกันภัยของจีนได้สร้างบ้านพักคนชราใน 34 เมืองทั่วประเทศ มีเตียงรองรับทั้งหมด 130,000 เตียง (ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในปัจจุบันและอนาคต) อีกทั้งผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ขายอยู่ในตลาด 47% เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการวางแผนในวัยชรา
ในช่วงปี 2019-2021 อุตสาหกรรมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยใน 3 ปีนี้อัตราการเติบโตของการจดทะเบียนบริษัทด้านธุรกิจบริการผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นต่อปีประมาณ 36% นับเป็นอัตราการเติบโตที่สูงมากภายใต้ภาวะกดดันจากโควิด-19 ในขณะนั้น โดยบริษัทเกิดใหม่จำนวนมากถูกจัดตั้งในเมืองกว่างโจว และเกาะไหหลำ
จีนกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า อุตสาหกรรมการให้บริการและเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงอายุจะมีมากขึ้น เมืองทางตอนใต้ของจีนที่อากาศไม่หนาวเย็นเป็นทางเลือกของคนจีนที่มีเงินส่วนใหญ่ในยามบั้นปลาย อย่างเช่น เพื่อนๆ หรือรุ่นพี่ของผู้เขียนหลายคนที่ปัจจุบันอยู่ในปักกิ่ง หลายคนได้เตรียมวางแผนไปใช้ชีวิตทางตอนใต้ยามเกษียณ บางครอบครัวมีไปซื้อบ้านเมืองทางตอนใต้เอาไว้แล้วด้วย
ในปี 2035 ประชากรสูงอายุจีนจะมีสัดส่วนถึง 30% ของประชากรทั้งประเทศ และในปี 2050 “เศรษฐกิจคนผมขาว” ในจีนจะมีขนาดมากถึง 106 ล้านล้านหยวน อุตสาหกรรมและบริการที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุอาจจะสูงถึง 33% ของ GDP และจีนจะกลายเป็นประเทศหนึ่งในโลกที่มีโอกาสทางธุรกิจด้านการดูแลรักษาผู้สูงอายุมากที่สุด
ส่วนด้านโอกาสของไทยกับธุรกิจการดูแลผู้สูงอายุจีนยังมีพื้นที่ว่างเพื่อการพัฒนาอยู่มาก โดยไทยเรามีข้อได้เปรียบเรื่องการท่องเที่ยวพักผ่อน สภาพอากาศเหมาะกับการอยู่อาศัยของคนในวัยเกษียณ อีกทั้งมาตรฐานการบริการของคนไทยก็ขึ้นชื่อในระดับโลก กลุ่มผู้สูงอายุจีนในอนาคตจะเป็นคนกลุ่มใหม่ที่มีความรู้ ใช้เทคโนโลยีได้ คนจีนกลุ่มนี้ที่มีศักยภาพทางการเงินอาจจะมองหาสถานที่พักยามเกษียณในต่างประเทศ อย่างประเทศไทยมีการให้วีซ่าเกษียณให้ชาวต่างชาติมาระยะหนึ่งแล้ว แต่หากอุตสาหกรรมการบริการผู้สูงวัยเพื่อชาวต่างชาติมีการให้บริการและอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร น่าจะเป็นอีกโอกาสทางธุรกิจที่มหาศาล ไม่ใช่แค่การเดินทางเข้ามาเที่ยวใช้จ่ายแป๊บเดียวแล้วก็กลับไป