โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล นักวิชาการอิสระ
หากกล่าวถึงเหล้าขาวจีน คนไทยจะเรียกติดปากกันว่า “เหล้าเหมาไถ” (MOUTAI) แต่จริงๆ แล้วคำว่า เหมาไถ คือเหล้าขาวจีนแบรนด์หนึ่งเท่านั้น ในบทความนี้ผู้เขียนอยากจะมาเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับเหล้าขาวเหมาไถ ในแง่มุมของประวัติศาสตร์ บทบาทและคุณค่าเชิงวัฒนธรรม สถานภาพของเหมาไถในประเทศจีน ในเชิงธุรกิจและการพัฒนาแบรนด์ ปัจจุบันเหมาไถนั่งแท่นอันดับหนึ่งเหล้าขาวในจีนมาหลายสิบปีแล้ว
ผู้เขียนขอเกริ่นคร่าวๆ ถึงกลุ่มบริษัทเหมาไถก่อน กลุ่มบริษัทเหมาไถมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองจุนอี้เหรินไหว ตำบลเหมาไถ มณฑลกุ้ยโจว ซึ่งสถานที่ตั้งสำนักงานใหญ่ก็เป็นสถานที่จุดกำเนิดของเหล้าเหมาไถด้วย ในปัจจุบันกลุ่มบริษัทเหมาไถแตกแขนงดำเนินธุรกิจหลายประเภท โดยมีเข้าไปลงทุนในภาคการธนาคาร ธุรกิจประกันชีวิตและประกันภัย ธุรกิจท่องเที่ยว การศึกษา ธุรกิจสีเขียว ไปจนถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ธุรกิจที่สำคัญที่สุดของกลุ่มบริษัทเหมาไถก็ยังคงเป็นธุรกิจการผลิตและจัดจำหน่ายเหล้า (นอกจากเหล้าขาวแล้ว ยังมีเหล้าดองเพื่อสุขภาพและไวน์อีกด้วย) ณ ปัจจุบัน มูลค่าสินทรัพย์รวมทั้งสิ้นของกลุ่มบริษัทเหมาไถมีสูงกว่า 2.34 แสนล้านหยวน และในหลายปีที่ผ่านมาก็ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยอันดับแบรนด์ที่แข็งแกร่งของโลก ‘เหมาไถ’ ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมจีนที่สืบทอดต่อกันมา และเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่ได้รับการอนุรักษ์โดยรัฐบาลจีน ถือเป็นนามบัตรที่สำคัญทางวัฒนธรรมของจีน
ตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา บริษัทเหมาไถผลิตเหล้าขาวสะสมไปแล้วมากกว่า 1 ล้านตัน ยอดจำหน่ายมีมากกว่า 3.5 แสนล้านหยวน กำไรมีมากกว่า 2.19 แสนล้ายหยวน จ่ายภาษีให้รัฐไปสะสมมากกว่า 1.45 แสนล้านหยวน หากเราดูกันที่ตัวยอดขายกับกำไรจะเห็นว่ากลุ่มบริษัทเหมาไถทำกำไรได้จำนวนมากจากการจำหน่ายเหล้า จนทำให้เมื่อปี 2018 เหมาไถกลายเป็นแบรนด์จีนที่ทรงคุณมูลค่ามากที่สุด โดยหุ้นเหมาไถในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้น และเซี่ยงไฮ้ได้รับความนิยม เป็นหุ้นที่มีราคาสูง คนซื้อเก็บ เป็นหุ้นตัวหลักในกระดานติดต่อกันมาหลายปี สำหรับมูลค่าของกลุ่มบริษัทเหมาไถในตลาดหุ้น ณ ขณะนี้มีมูลค่ามากกว่าหมื่นล้านหยวนไปแล้ว นับเป็นบริษัทเหล้าที่มีมูลค่าในตลาดหุ้นสูงที่สุดในโลก และหลังจากรัฐบาลจีนผลักดันข้อริเริ่ม ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ กลุ่มบริษัทเหมาไถก็เริ่มออกไปตีตลาดในต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อเปิดตลาดและทำให้เหล้าจีนได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติมากขึ้น
ทำไมคนจีนทั้งประเทศถึงยกนิ้วให้เหล้าขาวเหมาไถเป็นนัมเบอร์วันมาโดยตลอด เหมาไถไม่ใช่เพียงแค่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จีน ที่ทำให้คนจีนผูกพันจนกลายมาเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม
- เหล้าขาวเหมาไถกับกองทัพแดงในช่วงการต่อสู้สงครามปฏิวัติจีนใหม่จนพิชิตชัยชนะ โดยสมัยนั้นกองทัพแดงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เข้าไปหยุดพักและใช้ตำบลเหมาไถ ในมณฑลกุ้ยโจวเป็นฐานทัพอยู่นานถึง 3 เดือน เหล่าทหารกองทัพแดงได้กินข้าว เนื้อสัตว์เพื่อเพิ่มพลังงานและฟื้นฟูร่างกายไปพร้อมกับดื่มเหล้าขาวที่ผลิตในท้องถิ่นเป็นประจำ ทหารหลายคนยังใช้เหล้าขาวเหมาไถนี้มาแช่เท้าหรือเอามาทาบาดแผลเป็นประจำ ทำให้สรรพคุณของเหล้าขาวเหมาไถในขณะนั้นถูกบอกกันปากต่อปากในหมู่ทหารภายในกองทัพ และได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักในหมู่ทหารตั้งแต่นั้นมา หลังจากนั้น 10 กว่าปีให้หลังทหารในกองทัพแดงเหล่านี้ต่างได้ขึ้นไปมีตำแหน่งในทางการเมือง เป็นกลุ่มที่มีอำนาจปกครองบริหารประเทศ แน่นอนว่าเหล้าขาวเหมาไถก็ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้นำประเทศจีนตั้งแต่นั้นมา
- เหล้าขาวของจีนมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน สีจากเหลืองไปขาว เนื้อของเหล้าจากขุ่นไปใส รสชาติจากหวานไปหอม ระดับแอลกอฮอล์จากต่ำไปสูง โดยหากจะพูดถึงเหล้าจีนที่มีมาในอดีตก็ตั้งแต่ก่อนสมัยราชวงศ์ฮั่น เมื่อราว 135 ปีที่ก่อนคริสตกาล ในขณะนั้นเหล้าเหมือนของหวานที่มีแอลกอฮอล์ไม่สูงและมีรสหวาน ต่อมาก็มีการพัฒนามาเรื่อยๆ เหล้าขาวจีนเกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง โดยใช้วิธีการกลั่นออกมา เหล้าที่ได้จึงมีความใสและมีความเข้มข้นสูง สูตรของเหล้าขาวมีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย อย่างสมัยราชวงศ์ชิงแต่ละช่วงสมัยจักรพรรดิ คนที่รู้สูตรทำเหล้ามีอยู่แค่ 1-2 คน ทำให้สูตรดั้งเดิมที่ว่ากันไม่ใช่สูตรที่ตายตัว
สำหรับเหล้าเหมาไถเริ่มถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ในสมัยราชวงศ์หมิง โดยกลุ่มพ่อค้าเกลือในเมืองเหมาไถในขณะนั้นได้สร้างสถานที่ผลิตและกลั่นเหล้าเหมาไถ ในช่วงราชวงศ์ชิง เหล้าขาวเหมาไถได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่งในตัวเมืองแล้ว แต่การส่งออกไปขายต่างเมืองยังทำได้ลำบาก ส่วนใหญ่เป็นการขายอยู่ในเมือง จนถึงปลายราชวงศ์ชิง เริ่มมีพ่อค้าคนกลางเดินทางไปซื้อเหล้าขาวเหมาไถถึงแหล่งผลิตและขนส่งไปขายยังต่างเมือง โดยในขณะนั้นเหมาไถถูกขนส่งไปขายในตลาดที่ไกลที่สุดคือแค่เมืองฉงชิ่ง และมีขายจำนวนไม่มากนัก เพราะการขนส่งที่ยากลำบาก
ต่อมาหลังจากการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์ในปี 1949 โรงงานเหล้าเหมาไถได้ถูกควบรวมกิจการโดยรัฐบาลท้องถิ่นและกลายเป็นรัฐวิสาหกิจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เหมาไถกลายเป็นเครื่องดื่มแห่งการเฉลิมฉลองในงานเลี้ยงใหญ่ ได้ขึ้นโต๊ะอาหารในงานเลี้ยงของกลุ่มผู้นำและแขกบ้านแขกเมืองของประเทศหลายครั้ง
- เหล้าขาวเหมาไถถูกยกให้เป็น “国酒” อ่านว่า กั๋วจิ่ว หรือ ‘สุราแห่งชาติ’ โดยรองนายกรัฐมนตรีหวางเฉิน ในปี 1975 เป็นผู้กล่าวยก ‘เหมาไถ’ เป็น ‘สุราแห่งประเทศจีน’ หมายถึงเป็นตัวแทนทางสัญลักษณ์และวัฒนธรรมของจีน ผู้นำสาธารณรัฐประชาชนจีนในยุคแรกๆ อย่างนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหล และเติ้งเสี่ยวผิง ผู้นำใหญ่สองท่านนี้ชอบดื่มเหล้าขาวเหมาไถที่หมักมามากกว่า 15 ปี ส่วนท่านประธานเหมาเจ๋อตง เป็นคนไม่ค่อยดื่มเหล้า แต่ชอบให้เหล้าเหมาไถมอบเป็นของขวัญให้เหล่ามิตรสหาย จากประวัติศาสตร์ตรงนี้จะทราบว่าเหล้าขาวเหมาไถเป็นเหล้าที่มีบทบาทพิเศษ โดยมีความสำคัญในชนชั้นปกครองและชนชั้นสูงของจีนมาตลอดจวบจนปัจจุบัน
- เหล้าขาวเหมาไถกลายเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยและสินค้าเพื่อการลงทุนในจีน คำว่าสินค้าฟุ่มเฟือยหมายถึงสินค้าที่มีราคาสูง ทำให้คนทั่วไปไม่สามารถซื้อมาดื่มกันเล่นๆ ได้ ผู้เขียนขอยกตัวอย่าง เหล้าเหมาไถ รุ่นเฟยเทียน 53 ดีกรี เป็นเหล้าเหมาไถที่ขาดตลาดตลอดกาล โดยบริษัทเหมาไถตั้งราคาขายไว้ที่ขวดละ 1,499 หยวน หรือประมาณ 7,500 บาท แต่แทบจะไม่มีคนสามารถซื้อเหล้าเหมาไถราคานี้ได้เลย ในตลาดขายต่อ (Resell) ราคาของเหล้าเหมาไถรุ่นเฟยเทียน มีราคาสูงถึง 4,000-6,000 กว่าหยวน หรือประมาณ 20,000-30,000 บาท หรืออาจจะแพงกว่านั้นขึ้นอยู่กับความเก่า โดยแพงขึ้นไปเป็นหลักแสนบาทก็มี เหล้าขาวเหมาไถรุ่นเฟยเทียน ยิ่งเก่ายิ่งแพง ดังนั้นคนจีนจึงถือว่าเหล้าเหมาไถคือการลงทุนและการที่มีเหล้าเหมาไถของแท้วางไว้บนโต๊ะอาหารเพื่อดื่มสังสรรค์ ก็เป็นหน้าเป็นตา บ่งบอกฐานะทางสังคมของเจ้าภาพมื้ออาหารอีกทางหนึ่ง
โดยสรุปเหล้าขาวเหมาไถก็ยังเป็น “ตำนานที่เล่าขานจากรุ่นสู่รุ่น” ความเป็นมา และเรื่องราวที่น่าสนใจในแง่มุมต่างๆ ความพิถีพิถันของการกลั่นเหล้าขาวให้ออกมามีกลิ่น รสพิเศษ อีกทั้งคนจีนหลายคนคอเหล้ายังบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เหล้าเหมาไถ เป็นเหล้าขาวแบรนด์เดียวเท่านั้นที่ดื่มมากแล้ววันถัดมาไม่มีอาการปวดหัว คลื่นไส้ ถูกยกเป็นเหล้าที่มีคุณภาพดี