สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในฮ่องกงกำลังรุนแรงน่าสะพรึง จากข้อมูลเมื่อวานนี้(2 มี.ค.) จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ต่ำกว่า 55,000 ราย ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นที่ 117 ราย กระแสล็อกดาวน์หนาหูจนประชาชนแห่กักตุนสินค้า
ล่าสุดในวันนี้(3 มี.ค.) เจ้าหน้าที่สถานีรถไฟใต้ดิน บริษัทเดินรถประจำทางและซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ของเกาะ ออกมาแจ้งลดบริการฯ
ด้านผู้นำฮ่องกงแถลงยืนยันใช้ “ยุทธศาสตร์โควิดเป็นศูนย์” เช่นเดียวกับแผ่นดินใหญ่ ซึ่งยิ่งสร้างความเครียดบนเกาะที่เป็นศูนยกลางการเงินโลก
กลุ่มนายแบงค์และที่ปรึกษาการลงทุนได้ออกมาชี้ถึงผลกระทบของนโยบายโควิดเป็นศูนย์” ของทางการปักกิ่ง ที่ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนบุคคลากรความสามารถบนเกาะฮ่องกงขึ้นมาแล้ว และความเสี่ยงจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์นี้กำลังขยายวงในดินแดน ขณะที่ชาติอื่นๆเริ่มเพลาๆมาตรการควบคุมโควิดกันแล้ว
เมื่อบ่ายวานนี้(2 มี.ค.) หน่วยงานรับผิดชอบการคมนาคมฮ่องกง ประกาศงดบริการรถบัสใน 98 เส้นทาง เพราะขาดแคลนคนงาน โดยเป็นผลพวงมาจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่สูงมาก และลูกค้ามาใช้บริการลดฮวบเพราะมาตรการระยะห่างสังคมที่เข้มงวด
ด้านผู้ประกอบการสถานีรถไฟใต้ดิน MTR Corp ก็ออกมาแถลงในวันนี้(3 มี.ค.) ตัดลดบริการรถไฟใต้ดิน 8 สาย เนื่องจากขาดแคลนสต๊าฟ และลูกค้ามาใช้บริการลดฮวบ
ParknShop เชนซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่สุดในฮ่องกง แจ้งการลดชั่วโมงเปิดให้บริการของเอาท์เล็ตมากกว่า 200 แห่ง เพื่อปกป้องสต๊าฟและลูกค้า บางร้านสาขาปิดเร็วบ่ายสามโมง
นับจากการระบาดฯในปี 2020 ที่ฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อ กว่า 290,000 ราย เสียชีวิตทั้งสิ้น ประมาณ 1,100 ราย โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้เสียชีวิต ราว 700 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ไม่ฉีดวัคซีน
ในสัปดาห์นี้ยังเกิดความวุ่นวายสับสนในหมู่ผู้อาศัยบนเกาะเนื่องจากท่าทีการแถลงของรัฐบาลที่คลุมเครือเกี่ยวกับการล็อกดาวน์ทั่วเกาะและมาตรการที่ปรับเปลี่ยนไปมาในแต่ละวันไม่รู้เอายังไงแน่
ที่มา ข่าวรอยเตอร์ เอเจนซีส์