แครี ลัม ผู้นำฮ่องกงระบุในวันอังคาร (15 ก.พ.) ไม่มีแผนล็อกดาวน์ทั้งเมืองในศูนย์กลางทางการเงินโลกแห่งนี้ แต่ "การยอมจำนนต่อไวรัส" ไมใช่ทางเลือก ในขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังดิ้นรนต่อสู้กับเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นไม่หยุด
ระหว่างการแถลงข่าวรายสัปดาห์ ลัม กล่าวว่าเธอไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่จะเลื่อนศึกเลือกตั้งหัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกงออกไป จากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนมีนาคม ขณะเดียวกัน เธอก็ไม่ได้พูดอย่างชัดเจนว่าเธอจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารเกาะที่อยู่ภายใต้การควบคุมของจีนแห่งนี้ต่ออีกสมัยหรือไม่
ท่ามกลางข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับอนาคตของเธอ ลัมยอมรับว่าแนวทางตอบสนองต่อโรคระบาดใหญ่ของรัฐบาลของเธอไม่เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากประสบปัญหาคนไข้ล้นโรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์แบกรับภาระไม่ไหว
"ไม่มีแผนล็อกดาวน์เมืองในวงกว้าง" ลัมกล่าว แต่ยังคงมุ่งมั่นในยุทธศาสตร์ "ไวรัสโครนาสายพันธุ์ใหม่เป็นศูนย์" แบบเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งหาทางสกัดการแพร่ระบาดทันทีที่การแพร่ระบาดเกิดขึ้น
จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันของฮ่องกงเพิ่มขึ้นราวๆ 20 เท่าในช่วง 2 สัปดาห์หลังสุด ในขณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงพยายามเดินหน้าตรวจเชื้อและบังคับกักกันโรคต่อไป "เราไม่ยอมแพ้ต่อไวรัส มันไม่ใช่ทางเลือก"
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รายวัน 2,071 คนในวันจันทร์ (14 ก.พ.) และมีเคสสันนิษฐานว่าอาจมีผลตรวจออกมาเป็นบวกอีก 4,500 ราย
ท่ามกลางเคสผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูง จีนบอกว่าจะช่วยเมืองแห่งนี้ยกระดับการตรวจเชื้อ รักษาและศักยภาพด้านการกักกันโรค รวมถึงรับประกันเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ไล่ตั้งแต่ชุดตรวจโควิดด้วยตนเอง ชุดป้องกันเชื้อโรค ไปจนถึงผักสด
ลัมเผยว่ารัฐบาลกลางจะมอบชุดตรวจโควิดด้วยตนเองมากกว่า 100 ล้านชุดแก่เกาะแห่งนี้
แม้เคสผู้ติดเชื้อพุ่งสูง แต่จำนวนผู้เสียชีวิตบนเกาะฮ่องกงยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ที่มีขนาดพอกัน นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน
นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น ฮ่องกงมีเคสผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ราวๆ 25,000 คน ในนั้นเสียชีวิตเพียงเล็กน้อย 200 คน
อย่างไรก็ตาม ด้วยระบบสาธารณสุขแออัดอยู่ก่อนแล้ว พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเมืองแห่งนี้อาจได้เห็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันแตะระดับ 28,000 คนต่อวันในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม และมีความกังวลอย่างยิ่งกรณีที่คนชราจำนวนมากยังไม่ฉีดวัคซีน
ลัม เผยว่าอาคารราชการและโรงแรมบางแห่ง อาจถูกปรับเปลี่ยนเป็นศูนย์กักกันโรค
จนถึงตอนนี้มีประชาชนของเมืองราว 84% จากทั้งหมด 7.5 ล้านคน ที่ฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม แต่ยังคงมีคนชราจำนวนมากที่ยังลังเลเข้ารับวัคซีน
ฮ่องกงจะบังคับใช้บัตรผ่านวัคซีนตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป โดยพลเมืองจะต้องแสดงบัตรรับรองการฉีดวัคซีนก่อนได้รับอนุญาตเข้าไปยังร้านอาคาร ซูเปอร์มาร์เกตและห้างสรรพสินค้า
ปัจจุบันสถานที่ต่างๆ เกือบทั้งหมด ไล่ตั้งแต่โบสถ์ไปจนถึงโรงเรียนและศูนย์ออกกำลังกาย ยังคงปิดทำการ ขณะที่ประชาชนยังคงถูกห้ามรวมตัวกันมากกว่า 2 คน การรับประทานอาหารค่ำตามร้านอาหารห้ามนั่งเกินเวลา 18.00 น. ขณะที่คนส่วนใหญ่เวลานี้ยังคงทำงานจากที่บ้าน
(ที่มา : รอยเตอร์)