กระแสเก็งกำไรบิทคอยน์ (Bitcoin) ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หรือสกุลเงินดิจิตัลตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากสุดในโลก กลับมาแรงสุดๆในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา โดยดีดตัวขึ้นถึง 64,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือ สองล้านบาท) หลังจากที่การค้าบิทคอยน์สวิงขึ้นๆลงๆในช่วงปีโควิด-19 ขณะที่ประเทศจีนเป็นแหล่งขุดเหมืองคริปโตฯแห่งใหญ่โดยการขุดเหมืองฯว่าครึ่งของโลกมาจากจีน ว่ากันว่าการขุดเหมืองคริปโตฯกินพลังงานมากกว่าบางประเทศเสียอีก เช่น สวีเดน ปากีสถาน อาร์เจนติน่า อีกทั้งยังกระตุ้นการกลับมาใช้พลังงานถ่านหินที่สร้างมลพิษสูงอีกด้วย เนื่องจากการขุดเหมืองคริปโตต้องใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะมาแก้สมการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนเพื่อทำธุรกรรมเงินดิจิทัลพวกนี้ ดังนั้นการขุดเหมืองคริปโตฯมักไปกระจุกตัวอยู่ตามเขตที่มีพลังงานไฟฟ้าอุดมอย่างเช่นมณฑลเสฉวนซึ่งเป็นแหล่งขุดเหมืองคริปโตฯใหญ่สุดแห่งหนึ่งในจีน มันเป็นกิจการที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และล้างผลาญพลังงานไฟฟ้าอย่างมหาศาล
พญามังกรเผด็จศึกกวาดล้างเหมืองคริปโตฯในชั่วเวลาหนึ่งเดือน
จีนมุ่งมั่นการพัฒนาที่ยั่งยืนสร้างสังคมสีเขียว และกำลังจัดงานเฉลิมฉลองใหญ่ครบรอบหนึ่งร้อยปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ดังนั้นย่อมไม่ปล่อยให้กิจกรรมที่อาจทำให้ภาพลักษณ์จีนเสื่อมเสียเยี่ยงนี้ปรากฏอยู่ในแผ่นดิน
ในวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการรับผิดชอบการพัฒนาและเสถียรภาพด้านการเงิน (Financial Stability and Development Committee)สังกัดคณะมุขมนตรีจีน ซึ่งต่อไปขอเรียกย่อๆว่า คณะกรรมาธิการการเงิน โดยมีนาย หลิวเฮ่อ คณะกรรมาธิการการเงิน รองนายกฯ และสมาชิกหมุนเวียนกรมการเมืองของพรรคฯ นั่งเป็นประธานการประชุมฯ ที่ประชุมได้ตัดสินลงดาบเด็ดขาดสองเรื่อง คือ
1) ปราบปรามการขุดเหมืองและการค้าคริปโตเคอร์เรนซี เพื่อป้องกันความเสี่ยงขยายวงลามไปยังภาคสังคมอื่นๆ
2) เพื่อคุ้มครองการดำเนินการที่มั่นคงของตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ตลาดพันธบัตร และตลาดหุ้น จึงต้องปราบปรามพฤติกรรมผิดกฎหมายในตลาดหลักทรัพย์ และกิจกรรมผิดกฎหมายในภาคการเงิน
เมื่อตัดสินนโยบายชัดเจน จีนก็ลุยกวาดล้างเหมืองคริปโตฯซึ่งเป็นสกุลเงินเสมือน (Virtual currency) ในทันที
ปลายเดือนพ.ค.: มีการเปิดประชุมประมวลสถานการณ์การขุดเหมืองคริปโตฯ ในมณฑลต่างๆ อาทิ เขตปกครองตัวเองมองโกเลียใน มณฑลเสฉวน และมณฑลอื่นๆ โดยกำหนดขนาดปฏิบัติการพร้อมจัดมาตรการเสริมประสิทธิภาพ
25 พ.ค.: คณะกรรมาธิการการปฏิรูปและการพัฒนาประจำเขตปกครองตัวเองมองโกเลียใน ประกาศ ‘แปดมาตรการ ปราบปรามการขุดเหมืองเงินเสมือน’
9 มิ.ย.: ปิดเหมืองคริปโตในแคว้นปกครองตัวเองชนชาติหุย ในมณฑลซินเจียง
9 มิ.ย.: หน่วยงานเทคโนโลยีสารสนเทศและอุตสาหกรรมประจำมณฑลชิงไห่ออก “ประกาศว่าด้วยการปิดการขุดเหมืองสกุลเงินเสมือนอย่างบริบูรณ์” ดำเนินการกวาดล้าง ปิดกิจการในทุกๆเขต ขณะเดียวกัน จัดปฏิบัติการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน
12 มิ.ย.: สำนักงานพลังงานประจำมณฑลอวิ๋นหนัน หรือยูนนาน จัดปฏิบัติการตอบสนองข้อเรียกร้องนโยบายและจัดตั้งปฏิบัติการตรวจสอบร่วมระหว่างสำนักงานไฟฟ้าทุกหน่วย และกำหนดเส้นตายมาตรการการกวาดล้างฯภายในปลายเดือนมิ.ย.นี้ เช่น การระงับการใช้ไฟฟ้าของบริษัทขุดเหมืองคริปโต ตรวจสอบอย่างเคร่งครัดว่ากลุ่มบริษัทจ่ายไฟฟ้ายังจ่ายไฟฟ้าให้กับบริษัทขุดเหมืองหรือไม่
19-20 มิ.ย.: ปฏิบัติการกวาดล้างใหญ่บริษัทขุดเหมืองคริปโต ในมณฑลเสฉวน ขณะนี้ กิจบริษัทขุดเหมืองคริปโตทุกแห่งในเสฉวนถูกตัดไฟปิดกิจการเรียบร้อย และกำหนดเส้นตายตรวจสอบและกวาดล้างอย่างถ้วนทั่วภายในวันที่ 25 มิ.ย.นี้
อนึ่ง ก่อนที่จีนตัดสินลงดาบปราบเหมืองคริปโตฯ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญในมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่างมหาวิทยาลัยชิงหัวในปปักกิ่ง และสถาบันการศึกษาชั้นสูงอื่นๆได้เผยแพร่การวิจัยในนิตยสารสาร “ธรรมชาติ” ระบุว่าการขุดเหมืองคริปโตทำให้เกิดการผลาญพลังงานและปล่อยคาร์บอนในจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว หากไม่มีการควบคุมแล้ว การบริโภคพลังงานจากการขุดเหมืองคริปโตฯไปจนถึงปี 2024 จะพุ่งสูงถึงขีดสุดที่ 297 ล้านวัตต์-ชั่วโมง* และจะปล่อยคาร์บอนถึง 130 ล้านเมตริกตัน (metric ton) ซึ่งสูงกว่าค่าตัวเลขการแพร่กระจายก๊าซเรือนกระจกตลอดทั้งปีของประเทศในยุโรปขนาดกลางๆ (อย่างเช่น อิตาลีหรือประเทศเช็กเกีย)
*ชั่วโมง (kilowatt – hour) ความหมายคือ หน่วยวัดการใช้กำลังไฟฟ้าในเวลา 1 ชั่วโมง