สำนักข่าวซินหัว, 21 ธ.ค. — ทางด่วนจีน-ลาว ซึ่งนับเป็นทางด่วนสายแรกของลาว ช่วงเวียงจันทน์-วังเวียง ที่ก่อสร้างโดยรัฐบาลลาวร่วมกับบริษัท อวิ๋นหนาน คอนสตรักชัน แอนด์ อินเวสต์เมนท์ โฮลดิง กรุ๊ป จำกัด (YCIH) ของจีน เริ่มเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันอาทิตย์ (20 ธ.ค.) ที่ผ่านมา
พิธีเปิดใช้งานทางด่วนจัดขึ้นพร้อมกันในนครหลวงเวียงจันทน์ของลาว และเมืองคุนหมิง มณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ผ่านการประชุมทางไกล
ผู้เข้าร่วมพิธีในเวียงจันทน์ประกอบด้วยบุนยัง วอละจิด เลขาธิการพรรคประชาชนปฏิวัติลาวและประธานาธิบดีลาว และสอนไซ สีพันดอน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน ขณะผู้เข้าร่วมพิธีในคุนหมิงประกอบด้วยหร่วนเฉิงฟา เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำอวิ๋นหนาน และหวังอวี่โป รักษาการผู้ว่าการอวิ๋นหนาน โดยมีคณะผู้แทนจากจีนและลาวร่วมพิธีเปิดในสองเมืองด้วย
ทางด่วนจีน-ลาว มีจุดเริ่มต้นในเวียงจันทน์และสิ้นสุดที่อำเภอบ่อเต็น บริเวณชายแดนลาว-จีน มีความยาวประมาณ 440 กิโลเมตร ใช้มาตรฐานทางเทคนิคของจีนในการก่อสร้างและดำเนินงาน โดยแผนดำเนินการแบ่งออกเป็น 4 ระยะด้วยกัน
การก่อสร้างระยะแรกคือทางด่วนช่วงเวียงจันทน์-วังเวียง โดยงานก่อสร้างเริ่มต้นเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2018 ด้วยความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ และรัฐบาลลาว
ทางด่วนช่วงเวียงจันทน์-วังเวียง เริ่มเปิดให้สัญจรเมื่อวันอาทิตย์ (20 ธ.ค.) เป็นทางด่วน 2 ทิศทาง 4 ช่องจราจร มีความยาวประมาณ 110 กิโลเมตร พร้อมความเร็วออกแบบ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลงทุนโดยบริษัทฯ ร้อยละ 95 และรัฐบาลลาวร้อยละ 5 โดยจะเปิดดำเนินการภายใต้รูปแบบสร้าง-โอนให้-ให้บริการ (BOT) เป็นระยะเวลา 50 ปี
ขณะเดียวกันทางด่วนช่วงดังกล่าวประกอบด้วยสะพาน 36 แห่ง ท่อระบายน้ำ 402 แห่ง ทางแยก 7 แห่ง ทางแยกต่างระดับ 11 แห่ง อุโมงค์ 1 แห่ง ด่านเก็บเงิน 8 แห่ง พื้นที่ให้บริการ 3 แห่ง และที่จอดรถ 2 แห่ง
การก่อสร้างทางด่วนช่วงเวียงจันทน์-วังเวียง ก้าวผ่านอุปสรรคนานัปประการ โดยเฉพาะผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยทางด่วนจะลดทอนเวลาการเดินทางจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปยังเมืองท่องเที่ยววังเวียงจากเดิม 3.5 ชั่วโมงเหลือเพียง 1 ชั่วโมง
แถลงการณ์จากบริษัทฯ ระบุว่าหลังก่อสร้างแล้วเสร็จ ทางด่วนจีน-ลาวจะกลายเป็นกระดูกสันหลังของการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ตอนกลางและตอนเหนือของลาว ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในลาว อีกทั้งจะช่วยเร่งการสร้างเครือข่ายการขนส่งเร่งด่วนอันครอบคลุมคาบสมุทรอินโดจีนทั้งหมด
ทั้งนี้ บริษัทฯ หวังว่าทางด่วนข้างต้นจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการขับรถเที่ยวด้วยตนเองข้ามพรมแดน โลจิสติกส์ข้ามพรมแดน การค้าข้ามพรมแดน และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ตลอดจนส่งเสริมการสร้างระเบียงเศรษฐกิจคาบสมุทรจีน-อินโดจีน การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค ประชาคมภูมิภาคที่มีอนาคตร่วมกัน รวมถึงการดำเนินงานตามแผนริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (BRI)