เอเจนซีส์--จีนได้เปิดฉากสำรวจสำมะโนประชากรทั่วประเทศ ซึ่งนับเป็นงานช้างประจำรอบ 10 ปี โดยจัดกองทัพเจ้าหน้าที่ 7 ล้านคน ลุยเคาะประตูบ้านนับจำนวนประชากร พร้อมคำถามใหม่ที่ไม่เคยถามมาก่อน
อย่างที่ทราบกันทั่วไป จีนเป็นชาติยักษ์ใหญ่ที่มีประชากรมากที่สุดในโลก จากข้อมูลสถิติทางการที่รวบรวมในการสำรวจครั้งล่าสุด จีนมีประชากร 1.37 พันล้านคน
ในการสำรวจประชากรครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 เจ้าหน้าที่ 7 ล้านคนได้เริ่มงานฯเมื่อวันอาทิตย์(1 พ.ย.) ไม่เพียงแค่นับหัวประชากรและคำถามคร่าวๆดังที่ผ่านมา หากผู้กำหนดนโยบายได้สร้างแบบสอบถามอันประกอบด้วยบางคำถามที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงต่างๆด้านประชากร และกำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจสังคมในขณะที่จีนกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญโดยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว
คาดว่าเจ้าหน้าที่จะประกาศผลการสำรวจในเดือนเม.ย.นี้
มาดูการสำรวจประชากรจีนที่แตกต่างไปจากครั้งก่อนหน้า
การสำรวจที่ยาวนานขึ้น
ผู้สำรวจจะไปพร้อมอุปกรณ์ทันสมัยได้แก่แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ และสมาร์ตโฟน ไม่ใช่กระดาษและปากกาเหมือนเมื่อก่อน แม้การรวบรวมข้อมูลจะมีความแม่นยำขึ้น แต่การสำรวจจะยาวนานมากขึ้นโดยใช้เวลาเดือนกว่าๆซึ่งอาจเสร็จสิ้นในวันที่ 10 ธ.ค.นี้ เทียบกับการสำรวจครั้งก่อน (2010) ที่ใช้เวลาสำรวจเพียง 10 วัน
จำนวนคำถามเพิ่มจาก 18 ข้อ เป็น 19 ข้อ หลังจากนั้นประชากรราว 10 เปอร์เซ็นต์ จะถูกเลือกเพื่อตอบคำถามชุดที่สอง ซึ่งมี 48 ข้อ เทียบกับครั้งก่อนที่มี 45 ข้อ
ตัวเลขบัตรประจำตัว
หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งถูกเก็บเป็นอย่างแรก จะถูกบันทึกในระบบอิเลคทรอนิกส์และลิงค์กับข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ เจ้าหน้าที่เผยว่ารายละเอียดในบัตรประชาจำตัวประชาชนจะถูกลิงค์กับข้อมูลของหน่วยตำรวจและสถานบริการรักษาสุขภาพ โดยเจ้าหน้าที่สัญญาว่าจะเก็บข้อมูลเหล่านี้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด โดยจะไม่นำไปใช้ในวัตถุประสงค์ใดนอกเหนือจากการสำรวจ
ฮ่องกง ไต้หวัน
เป็นครั้งแรกที่ผู้ตอบคำถามจะต้องเปิดเผยว่ามีสมาชิกในครอบครัวกี่คนที่อาศัยในฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน หรือถือสัญชาติต่างชาติ โดยที่จะไม่ถามรายละเอียดของสมาชิกครอบครัวเหล่านั้น
ค่าเช่าที่ที่สูงขึ้น
ในชุดคำถามที่ยาวกว่า ผู้ตอบจะต้องบอกตัวเลขค่าเช่าที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน โดยช่วงแถบสูงสุดคือ 10,000 หยวน หรือ สูงกว่า ซึ่งในการสำรวจสำมะโนครัวปี 2010 ช่วงแถบที่สูงสุดคือ 3,000 หยวน หรือ สูงกว่า อันแสดงถึงมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในจีนช่วงสิบปีที่ผ่านมา และค่าครองชีพที่สูงขึ้น
เจ้าของรถยนต์
ในคำถามชุดที่สอง เป็นครั้งแรกมีการถามการเป็นเจ้าของรถยนต์ และมูลค่าของรถยนต์ทั้งหมดที่พวกเขาครอบครองอยู่ แสดงถึงความมั่งคงที่สูงขึ้นของเอกชนในช่วงสิบปีที่ผ่านมา นอกไปจากนี้ไม่มีการถามถึงจำนวนสินทรัพย์อื่นๆที่ครอบครองอยู่
กรรมสิทธิ์เหนือที่ดิน
ในอดีต ผู้ตอบถูกถามว่าพวกเขามีใบอนุญาตอาศัยในเขตเมืองหรือเขตชนบทตามระบบทะเบียนครัวเรือนแบบเก่าที่จีนเรียกว่า “ฮู่โข่ว” หรือไม่ ในการสำรวจฯปีนี้ ผู้ตอบจะถูกถามว่าพวกเขามีสิทธิจัดการเหนือที่ดินในเขตชนบทหรือไม่ ซึ่งสะท้อนว่าจีนได้เปลี่ยนมาพุ่งความสำคัญไปที่ทรัพยากรที่ดินในชนบทและการใช้ประโยชน์ ทั้งนี้ที่ดินในเขตชนบทจีนเป็นกรรมสิทธิ์ร่วมภายในท้องถิ่น เกษตรกรจะได้รับสิทธิการใช้ที่ดินภายใต้สัญญาเช่าใช้ระยะยาว โดยสามารถปล่อยเช่าให้แก่ผู้อื่นตามต้องการ
อายุ
ในการสำรวจปี 2010 พลเมืองที่อายุ 60 ปีขึ้นไป จะต้องเผยสุขภาพทั่วไปของตน สำหรับปีนี้เป็นครั้งแรกที่ในการสำรวจสำมะโนประชากร ผู้ตอบต้องตอบเกี่ยวกับการใช้ชีวิต-ความเป็นอยู่ ได้แก่ อยู่คนเดียวหรือไม่ มีคู่ชีวิตหรือไม่ อาศัยอยู่กับลูกหลาน หรืออาศัยอยู่กับสถาบันใด ทั้งนี้จีนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่เรียกว่า “ระเบิดเวลาทางประชากร” หลังจากที่ใช้นโยบายลูกคนเดียวมาหลายสิบปีซึ่งถูกยกเลิกไปเมื่อปี 2016 ในปี 2018 เกือบ 1 ใน 5 ของพลเมืองจีน อายุ 60 และสูงกว่า หรือ 249 ล้านคน