ขนาดเศรษฐกิจโลกอาจดูเหมือนเป็นนามธรรมที่เปรียบเทียบขนาดได้ยาก แต่ก็มีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของเรา ทั้งในรูปแบบที่ชัดเจนและละเอียดอ่อน โดยเฉพาะสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันจนนับจากนี้ต่อไป ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19
อีกครั้งที่กราฟิกของ visualcapitalist แสดงภาพซึ่งใช้คณิตศาสตร์ในการสร้าง หรือ ภาพแบบ voronoi โดยอาศัยข้อมูลจากธนาคารโลก ในผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เศรษฐกิจโลกซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 87.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2562 (2019) ซึ่งข้อมูลนี้ยังไม่ได้แสดงถึงผลกระทบของสถานการณ์โรคระบาดล่าสุด
ในช่วงเวลาหนึ่งปีนับตั้งแต่การเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการครั้งล่าสุดในปี 2018 เศรษฐกิจโลกเติบโตขึ้นประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์หรือประมาณ 2.3%
สหรัฐอเมริกายังคงมีจีดีพีสูงสุดซึ่งคิดเป็นเกือบหนึ่งในสี่ของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้จีนยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในส่วนแบ่งของ GDP โลกจาก 15.9% เป็น 16.3%
10 อันดับประเทศที่มีสัดส่วนจีดีพี % สูงสุด (T - หน่วยล้านล้าน)
อันดับ 1 สหรัฐอเมริกา $ 21.4T สัดส่วน 24.4%
อันดับ 2 จีน $ 14.3 สัดส่วน 16.3%
อันดับ 3 ญี่ปุ่น $ 5.1T สัดส่วน 5.8%
อันดับ 4 เยอรมนี $ 3.9T สัดส่วน 4.4%
อันดับ 5 อินเดีย $ 2.9T สัดส่วน 3.3%
อันดับ 6 สหราชอาณาจักร $ 2.8 สัดส่วน 3.2%
อันดับ 7 ฝรั่งเศส $ 2.7T สัดส่วน 3.1%
อันดับ 8 อิตาลี $ 2.0T สัดส่วน 2.3%
อันดับ 9 บราซิล $ 1.8T สัดส่วน 2.1%
อันดับ 10 แคนาดา $ 1.7T สัดส่วน 2.0%
จากข้อมูล จะพบว่า 10 อันดับแรกของประเทศที่มีจีดีพีมากสุดรวมกันเป็นมูลค่า $ 58.7 T เทียบสัดส่วน 66.9% ของโลก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจอินเดียยังคงมีทิศทางที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แซงทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสขึ้นเป็น 1 ใน 5 ประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก
โดยรวมแล้ว 10 ประเทศเหล่านี้รวมกัน มีจีดีพีมากกว่า 2 ใน 3 ของ GDP ทั่วโลก
น่าจับตามอง 2020 ปีแห่งการหดตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งหลายประเทศประสบปัญหาเศรษฐกิจหดตัวชั่วคราว รวมถึงหลายประเทศ ใน 10 อันดับแรกที่ระบุไว้ข้างต้น
ข้อมูลจากสองไตรมาสแรกในปีนี้ 2020 ระบุว่า หนึ่งในประเทศที่จะได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือเปรู ประเทศในละตินอเมริกาซึ่งมีขนาดจีดีพีใหญ่เป็นอันดับที่ 50 โดยเศรษฐกิจหดตัวลง 30.2% ในไตรมาส 2 แม้ว่าจะมีความพยายามในการยับยั้งไวรัสในช่วงต้น
สเปนและสหราชอาณาจักรก็โดนผลกระทบเช่นกัน โดยจีดีพีรายไตรมาสมีขนาดเล็กลง 22.1% และ 21.7% ตามลำดับ
ในขณะเดียวกันไต้หวันและเกาหลีใต้เป็นสองประเทศที่สามารถรับมือกับโรคระบาดโควิด-19 ได้ดีที่สุด อานิสงค์ให้เศรษฐกิจหดตัวเล็กน้อยในไตรมาสที่ผ่านมา ขณะที่เศรษฐกิจโลกดูเหมือนจะหยุดชะงัก
สำหรับการคาดการณ์ข้างหน้า จากข้อมูลของธนาคารโลก เศรษฐกิจโลกอาจหดตัวลง 5.2% ในปี 2020 ซึ่งเป็นการลดลงที่หนักที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
ธนาคารโลกคาดการณ์เกี่ยวกับจีดีพีในปี 2020 เมื่อสถานการณ์โรคระบาดบรรเทา รวมถึงศักยภาพในการฟื้นตัว (Rebound Forecast) ในปี 2021 ไว้ดังนี้ (ประเทศ/ภูมิภาค/กลุ่มเศรษฐกิจ)
สหรัฐอเมริกา หดตัว -6.1% ฟื้นตัว 4.0%
กลุ่มเขตยูโร หดตัว -9.1% ฟื้นตัว 4.5%
กลุ่มเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้ว หดตัว -7.0% ฟื้นตัว 3.9%
กลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ หดตัว -2.5% ฟื้นตัว 4.6%
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก หดตัว -0.5% ฟื้นตัว 6.6%
ภูมิภาคยุโรปและเอเชียกลาง หดตัว -4.7% ฟื้นตัว 3.6%
ภูมิภาคละตินอเมริกาและแคริบเบียน หดตัว -7.2% ฟื้นตัว 2.8%
ภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ หดตัว -4.2% ฟื้นตัว 2.3%
ภูมิภาคเอเชียใต้ หดตัว -2.7% ฟื้นตัว 2.8%
ภูมิภาคซับซาฮาราแอฟริกา หดตัว -2.8% ฟื้นตัว 3.1%
การเติบโตทั่วโลก หดตัว -5.2% ฟื้นตัว 4.2%
(ที่มา: อนาคตเศรษฐกิจโลกของธนาคารโลก เผยแพร่เมื่อเดือนมิถุนายน 2020)