สื่อต่างประเทศรายงาน (26 ก.ย.) - ขนาดของอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์หลักของจีน พุ่งแตะ 5.1 หมื่นล้านหยวน (7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ) แล้ว มีบริษัทสตาร์อัพ AI มากกว่า 2,600 แห่ง
เมื่อวันที่ 15-17 กันยายนที่ผ่านมา หวาง จื่อจุน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศจีน ได้ร่วมในงาน Smart China Expo Online ประจำปี 2020 ซึ่งจัดขึ้นในเขตเทศบาลนครฉงชิ่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน โดยปีนี้ สิงคโปร์ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพร่วมฯ ซึ่งกำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีของจีนท่ามกลางความตึงเครียดในสหรัฐฯ
เทนเซนต์ และ อาลีบาบา กำลังเพิ่มการลงทุนที่สิงคโปร์ ในขณะที่ ByteDance (เจ้าของ TikTok) ก็มีรายงานว่าลงทุนในสิงคโปร์หลายพันล้านดอลลาร์ ความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งกำลังเป็นศัตรูกันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี การขยายธุรกิจในสิงคโปร์ของบริษัทไฮเทคจีน ซึ่งถือเป็นดินแดนที่เป็นกลางมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งสหรัฐฯและจีน เบื้องต้นคงเพื่อรองรับธุรกิจที่กำลังเติบโตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอื่น ๆ หรือที่เรียกว่าเป็น "ส่วนเสริมเชิงกลยุทธ์"
ในภาพรวมฯ การพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ จีนแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้านนวัตกรรมที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นทุกที ด้วยเทคโนโลยีประยุกต์อุตสาหกรรม AI กับสถานการณ์ระดับโลก อาทิ โรคระบาดโควิด-19
นโยบายพิเศษและการพัฒนาเทคโนโลยีพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง เช่นการสื่อสาร 5G และโครงสร้างพื้นฐานใหม่ AI ของจีน รายงานสำรวจฯ พบว่ากำลังเข้าสู่ขั้นตอนของการเติบโตในอัตราเร่งรวดเร็ว ในฐานะที่เป็นตลาดแอปพลิเคชันปัญญาประดิษฐ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ความเร็วของจีนในการพัฒนาเทคโนโลยีจะทวีคูณเมื่อเทียบกับการพัฒนาภาคอื่น ๆ และหมายถึงในประเทศอื่น ๆ ด้วย เฉพาะ AI ของจีนได้รับการปรับใช้อย่างรวดเร็วและใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายอุตสาหกรรมและสถานการณ์แล้ว
รายงานการวิจัยที่เผยแพร่โดย iiMedia Research ซึ่งสำรวจสถานะการพัฒนาของอุตสาหกรรม AI ของจีน เผยข้อมูลในจีน ยืนยันว่า หลังจากการระบาดของโควิด-19 ในปีนี้ความต้องการใช้ AR และ VR ในภาครัฐหลายแห่งเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน และยังมีที่น่าจับตาคือ #WIMI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโฮโลแกรมที่ใหญ่ที่สุดในจีน หลังจากห้าปีของการพัฒนาได้จัดตั้งระบบวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีโฮโลแกรม เป็นเจ้าของสิทธิบัตรเกี่ยวกับโฮโลแกรม 132 รายการและลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ 214 รายการแล้ว มีพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่า 500 ราย
เป้าหมายของ WIMI คือการสร้างระบบนิเวศทางการค้าบนพื้นฐานของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีโฮโลแกรม
ทั้งหมดนี้เป็นแผนการดำเนินงานต่อเนื่องของรัฐบาลจีน ตั้งแต่ประกาศใช้นโยบาย Made in China 2025 ในปี 2015 ภายใต้เงินลงทุนกว่า 9.6 ล้านล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระยะคือ ปี 2016 – 2025 พัฒนาและปรับปรุงคุณภาพการผลิต ปี 2026 – 2035 เพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรม ปี 2036 – 2049 ยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมการผลิต