xs
xsm
sm
md
lg

“วังต้องห้าม” เปิดนิทรรศการครบรอบ 600 ปี “มหาราชวัง”ใหญ่สุดในโลก

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วังต้องห้ามถือเป็นมหาราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่โตโอ่อ่าอลังการแห่งนี้แสดงถึงยุคทองที่บรรเจิดที่สุดในประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมจีน
ไชน่าเดลี่/ซินหัว--นิทรรศการ “600 ปี วังต้องห้าม พระราชวังอันงดงามสถาพร” เปิดฉากจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์พระราชวังในกรุงปักกิ่ง เนื่องในโอกาสที่ปี 2020 นี้เป็นปีครบรอบ 600 ปีที่พระราชวังต้องห้ามก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์
   


พิพิธภัณฑ์พระราชวังจัดนิทรรศการครั้งนี้ระหว่างวันที่ 10 ก.ย.-15 พ.ย. โดยนำเสนอผ่าน 3 หัวข้อใหญ่ และช่วงตอนทางประวัติศาสตร์ 18 ช่วง เพื่อบอกเล่าแผนการสร้างวังต้องห้าม การวางผัง การก่อสร้าง ชีวิตภายในพระราชวัง ตลอดจนเรื่องราวการบูรณะซ่อมแซมและปกปักรักษา

ภายในนิทรรศการฯ จัดแสดงโบราณวัตถุกว่า 400 ชิ้น เพื่อสะท้อนประวัติศาสตร์อดีตพระราชวังหลวงแดนมังกร

พิธีเปิดนิทรรศการ “600 ปี วังต้องห้าม พระราชวังอันงดงามสถาพร” ณ พิพิธภัณฑ์พระราชวังในกรุงปักกิ่ง ระหว่างวันที่ 10 ก.ย.-15 พ.ย. 2020 (ภาพ ซินหัว)
“พระราชวังต้องห้าม” เป็นที่ประทับของพระจักรพรรดิจีนจากค.ศ. 1420 ปีที่การก่อสร้างวังแล้วเสร็จ จนถึงค.ศ. 1911 ซึ่งเป็นปีที่ระบอบราชวงศ์ฮ่องเต้จีนล่มสลาย พระจักรพรรดิจีนแห่งราชวงศ์หมิง(ค.ศ.1368-1644) และราชวงศ์ชิง(ค.ศ.1644-1911)ที่ได้ประทับในพระราชวังต้องห้าม รวม 24 พระองค์

อาณาจักรวังหลวงแห่งกรุงปักกิ่งนี้ครอบคลุมพื้นที่ 720,000 ตารางเมตร มีอาคารและตำหนักโบราณ 1,050 หลัง

“วังต้องห้ามถือเป็นมหาราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่โตโอ่อ่าอลังการแห่งนี้แสดงถึงยุคทองที่บรรเจิดที่สุดในประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมจีน” หวัง ซูต่ง ผู้อำนวยการวังต้องห้ามกล่าวระหว่างเปิดนิทรรศการฯเมื่อวันพฤหัสฯ(10 ก.ย.)


หวังอธิบายอีกว่า วังต้องห้ามมุ่งแสดงถึงความสำคัญของพิธีกรรม ความกลมกลืนระหว่างมนุษย์และสวรรค์ นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงการบรรสานวัฒนธรรมที่แตกต่าง อย่างเช่น จักรพรรดิราชวงศ์ชิงเป็นชนชาติแมนจู วังต้องห้ามได้ผสมผสานองค์ประกอบวัฒนธรรมชาติพันธุ์ของแมนจูเข้าไว้ด้วย บางอาคารได้ผสมศิลปะจีนเข้ากับศิลปกรรมแบบตะวันตก วังต้องห้ามยังเป็นตัวแทนที่สะท้อนถึงความครอบคลุมของอารยธรรมจีน

ปี ค.ศ. 1406 “จู่ตี้” พระจักรพรรดิองค์ที่สามแห่งราชหมิงได้ตัดสินพระทัยย้ายเมืองหลวงจากหนันจิง (นานกิง) มายังนครปักกิ่ง
การถือกำเนิดของวังต้องห้ามเนื่องมาจากในปี ค.ศ. 1406 “จู่ตี้” พระจักรพรรดิองค์ที่สามแห่งราชหมิงได้ตัดสินพระทัยย้ายเมืองหลวงจากหนันจิง (นานกิง)เมืองเอกของมณฑลเจียงซูในปัจจุบัน มายังนครปักกิ่ง ราชสำนักหมิงเตรียมการก่อสร้างวังต้องห้ามเป็นเวลานานนับสิบปี จนสามารถเริ่มงานก่อสร้างในปี 1417 และแล้วเสร็จ ในปี 1420

แม้ว่าบางส่วนในวังต้องห้ามเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการบูรณะซ่อมแซม แต่โครงสร้างพื้นฐานก็ยังคงอยู่เช่นเดิม


ส่วนพิพิธภัณฑ์วังต้องห้ามนั้นก่อตั้งในปี 1925 ต่อมา ในปี 1987 วังต้องห้ามได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกด้านวัฒนธรรมของยูเนสโก ภายในวังต้องห้ามมีโบราณวัตถุ 1.86 ล้านชิ้น ในปี 2019 มีผู้เข้าเยี่ยมชม 19 ล้านคน


“ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ พิพิธภัณฑ์วังต้องห้ามได้พัฒนาไปไกลมากในแง่ของการจัดแสดง การบูรณะสถาปัตยกรรมโบราณ การศึกษา การนำระบบดิจิตัลมาใช้ และการพัฒนาด้านอื่นๆ” หู เหอผิง รัฐมนตรีวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวกล่าวในพิธีเปิดเมื่อวันพฤหัสฯ(10 ก.ย.) และว่าความก้าวหน้าเหล่านี้เป็นการฟื้นฟูใหม่ของวังต้องห้าม


“หน้าที่ต่ออารยธรรมของมนุษย์ชาติได้บรรลุอย่างเต็มเปี่ยมเมื่อวังต้องห้ามได้รับการอนุรักษ์อย่างดี” หู กล่าว


*แฟ้มภาพซินหัว: บรรยากาศในวันเปิดนิทรรศการ “600 ปี วังต้องห้าม พระราชวังอันงดงามสถาพร” 10 ก.ย.2020









วังต้องห้ามได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกด้านวัฒนธรรมของยูเนสโกในปี 1987


กำลังโหลดความคิดเห็น