ผู้เขียน ร่มฉัตร จันทรานุกูล มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ วิทยาลัยนานาชาติ กรุงปักกิ่ง
สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19ในหลายประเทศแตกต่างกันไป สำหรับจีนแล้วเป็นประเทศแรกในโลกที่เกิดการระบาดเป็นวงกว้างในอู่ฮั่นและใช้เวลาประมาณ 2 เดือนกว่าๆในการระงับการระบาดอย่างรวดเร็ว จนประมาณกลางปีที่ผ่านมาประชาชนจีนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติและกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศเริ่มกลับมาฟื้นฟู หากว่าเราดูตัวเลข GDP ของจีนในปีนี้ไตรมาสแรก การเติบโตติดลบ 6.8% แต่พอมาถึงไตรมาสที่สองของปีนี้การเติบโตของ GDP กลับขึ้นมาเป็นบวก เติบโต 3.2% สาเหตุหลักคือกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศกลับมาฟื้นฟูเร็ว ทั้งภาคการผลิต ภาคการบริการและการฟื้นฟูความมั่นใจของผู้บริโภคในประเทศ
นโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียนถูกหยิบยกขึ้นมาโดยรัฐบาลจีน พร้อมทั้งได้รับความสนในสื่อและภาคประชาชน ในช่วงของการระบาดโควิด-19 ของโลกนำมาซึ่งความไม่แน่นอน ทั้งนี้เองอุปสรรคที่ท้าทายของจีนคือ กิจกรรมการค้าระหว่างประเทศที่ต้องหยุดชะงัก อุปสรรคด้านการเดินทาง การสื่อสารที่ได้รับผลกระทบ ออเดอร์ต่างประเทศของจีนยังลดลงและชะงักไปอีกด้วย และนอกจากนี้แล้วจีนยังประสบภาวะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อน ทำให้จีนต้องกลับมาทบทวนแนวทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของตัวเองใหม่อีกรอบหนึ่ง
แน่นอนว่าการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศเป็นเรื่องที่ดำเนินนโยบายมานานแล้ว แต่ในครั้งนี้จีนได้เพิ่มและเน้นการช่วยเหลือธุรกิจส่งออกเข้าไป กล่าวคือให้ธุรกิจส่งออกไม่เพิ่งพาตลาดต่างประเทศมากเกินไปนัก แต่ต้องกลับมาผลิตและขายให้ประชาชนในประเทศด้วย ให้ได้ใช้ของดี ราคาถูก
คำว่า เศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศ หรือที่ภาษาจีนเรียกกันว่า 经济内循环(อ่านว่า จิงจี้เน่ยซุนหวน)เป็นคำใหม่และแนวทางการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ของจีนหลังจากนี้ แนวทางนี้ไม่ใช่ว่าจะหยุดหรือตัดขาดการค้ากับต่างประเทศแต่จะเป็นการเพิ่มการบริโภค นำสินค้าประเภทที่ส่งออกมาให้คนในประเทศได้เลือกซื้อ ประชาชนจะมีทางเลือกในการบริโภคมากขึ้น สิบกว่าปีที่ผ่านมาของการเติบโตด้านการค้าต่างประเทศของจีนเป็นไปอย่างรวดเร็ว สินค้าหลายแบรนต์ระดับโลกมีโรงงาน OEM ผลิตอยู่ในจีนและถูกส่งออกไปทั่วโลก โดยในปี 2019 ปริมาณการค้าระหว่างประเทศทั่วโลกจีนครองสัดส่วน 16% ของการค้าโลก นับว่าจีนขนาดและปริมาณของการส่งออกสินค้าจีนมีมากมายเลยทีเดียว
มีผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจในจีนหลายรายมองว่า จริงๆแล้วคำว่าเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศ ก็คือคำเรียกใหม่ของการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ จุดประสงค์หลักก็คือนอกจากการกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนภายในประเทศแล้ว ยังเพิ่มการสนับสนุนโรงงานที่ผลิตเพื่อส่งออกกลับมาผลิตเพื่อขายให้แก่คนในประเทศมากขึ้น สินค้าหลายอย่างที่เป็นมาตรฐานส่งออก คุณภาพดี ไม่เหมือนกับมาตรฐานภายในประเทศจีน ทำให้ประชาชนจีนไม่ค่อยจะได้ใช้สินค้ามาตรฐานส่งออกกันเท่าไหร่นัก ดังนั้นการสนับสนุนของรัฐบาลนี้ จะทำให้ประชาชนจีนได้ใช้ของคุณภาพดีที่ราคาถูกลง
แผนในการพัฒนา เศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศ ของจีนแบ่งเป็น 2 วิธีหลักด้วยกันคือ
1. กระตุ้นการบริโภค ผลกระทบของโรคโควิด19ในคราวนี้ ทำให้การบริโภคของคนในประเทศลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในคนกลุ่มที่รายได้น้อยกับรายได้ปานกลาง ชนชั้นล่างถึงชนชั้นกลางของประเทศได้รับผลกระทบโดยตรงและมากที่สุด ทำให้นโยบายที่จีนกำหนด เน้นไปที่ช่วยเหลือกลุ่มคนรายได้น้อยถึงกลุ่มคนรายได้ปานกลางของสังคม อย่างเช่น การผ่อนคลายกฎการตั้งแผงขายของแบกะดินข้างทาง การช่วยเหลือเด็กเรียนจบใหม่ด้านการหางานทำ สิทธิพิเศษทางภาษี การสนับสนุนเงินกู้ให้แก่กลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก และการช่วยเหลืออบรมชนบทและมีเงินอุดหนุนสินค้าเกษตรในการค้าขายบน อี คอมเมิร์ช เป็นต้น
2. พัฒนาระบบการเงินในภาคธุรกิจขนาดย่อยและภาคประชาชน นักวิชาการของจีนท่านหนึ่งเคยกล่าวว่า “ที่ผ่านมารัฐบาลจีนไม่เคยให้ความสนใจกับระบบการเงินในภาคธุรกิจขนาดย่อยและภาคประชาชนมากขนาดนี้มาก่อน เป็นโอกาสของธุรกิจขนาดย่อยในการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่ายขึ้นอย่างไม่เคยมีมา”ระบบธนาคารของประเทศเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ การพัฒนาระบบการเงินการธนาคารให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง การเข้าถึงเงินกู้เงินช่วยเหลือของธุรกิจขนาดย่อยที่ง่ายขึ้น ทำให้การพัฒนาธุรกิจมีความคล่องตัวขึ้น กระตุ้นการจ้างงาน การเพิ่มเงินเดือน ทำให้ประชาชนชั้นกลางมีเงินใช้จ่ายมากขึ้น
นักวิชาการจีนยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา การพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศของจีนเน้นที่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ การสร้างพัฒนาด้านการรถไฟ ถนนหนทาง การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จนกลายเป็นฟองสบู่ใหญ่ และการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ ดังนั้นที่ผ่านมาการใช้จ่ายภายในประเทศยังได้รับการกระตุ้นน้อยมาก
ต่อมามีคำถามที่ว่า แล้วนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศนี้ เศรษฐกิจหมุนเวียนภายนอกยังคงต้องการอีกหรือไม่ แน่นอนว่าทั้งสองแนวทางต้องไปด้วยกัน ในยุคสมัยนี้จีนไม่สามารถที่จะอยู่ด้วยตัวเองโดยไม่ติดต่อกับต่างประเทศได้ ดังนั้นการร่วมมือกับต่างประเทศของจีนต้องไปพร้อมกับการปรับยุทธศาสตร์ของเอกชน ที่อาจจะต้องลดการพึ่งพาต่างประเทศที่อาจจะมากเกินไป จีนเป็นประเทศที่มีห่วงโซ่อุตสาหกรรมการผลิตหลายประเภทที่มีครบตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ซึ่งในโลกนี้มีน้อยประเทศมากที่จะมีศักยภาพด้านการผลิตอย่างจีน ดูจากอุปกรณ์การแพทย์และหน้ากากอนามัยที่ต้องการฉุกเฉินช่วงโควิด-19 ระบาดอย่างรวดเร็ว จีนใช้เวลาไม่นานในการผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆให้เพียงพอต่อการใช้งานในประเทศ ปัจจุบันหน้ากากอนามัยที่ขายในจีนราคาถูกลงในระดับราคาปกติแล้วเพราะจำนวนการผลิตที่เพียงพอกับความต้องการในประเทศ แถมยังเหลือส่งออกอีกเป็นจำนวนมาก จากตรงนี้ทำให้เราเห็นห่วงโซ่อุตสาหกรรมของจีนมีความพร้อมค่อนข้างมากและปรับตัวได้เร็ว
กลยุทธ์ใหม่ของจีนที่กล่าวไปข้างต้น ด้านดีมีไม่น้อยแต่ในด้านการปฎิบัติจริงก็มีอุปสรรคที่ท้าทายอยู่หลายด้านเช่นกัน ทั้งในเรื่องของการเพิ่มรายได้ของประชาชน เพิ่มอัตราการจ้างงาน เพิ่มและพยุงการลงทุนของธุรกิจเอกชน ด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องป้องกันไม่ให้เกิดฟองสบู่แตก และยังประสบกับความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างต่างประเทศอีก ในปีที่ไม่ง่ายของจีนนี้ ผู้เขียนมองว่าจีนสู้ไม่ถอยและหวังว่าอนาคตอันสดใสจะมาถึงในเร็วๆนี้