เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์--จีนยังเดินหน้าทุ่มทุนมหาศาลในการลงทุนก่อสร้างเส้นทางรถไฟไปอย่างน้อย 15 ปี โดยจะขยายเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงอีกเท่าตัว
จากพิมพ์เขียวฉบับใหม่ที่ไชน่า เรลเวย์ กรุ๊ป (China Railway Group) แถลงเมื่อวันพฤหัสฯ(6 ส.ค.) ระบุว่าจีนจะสร้างเส้นทางรถไฟราว 200,000 กิโลเมตรภายในปี 2035 ซึ่งเป็นปีหลักหมายที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะบรรลุเป้าการสร้างประเทศสังคมนิยมที่ทันสมัย
นั่นหมายความว่า จีนจะมีเส้นทางรถไฟตัดผ่านทั่วประเทศเพิ่มอีก 41 เปอร์เซ็นต์ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 141,400 กิโลเมตร อีกทั้งเส้นทางรถไฟความเร็วสูงประมาณ 70,000 กิโลเมตรสำหรับขบวนรถไฟที่มีอัตราความเร็วมากว่า 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
จากข้อมูลเมื่อปลายเดือนก.ค. จีนมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ราว 36,000 กิโลเมตร คิดเป็นสัดส่วนกว่า 2 ใน 3 ของเส้นทางไฮสปีดโลก
ทั้งนี้ช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา จีนทุ่มทุนมหาศาลไปกับการก่อสร้างเส้นทางรถไฟ และในครึ่งปีแรกของปี 2020 นี้ การลงทุนภาคสินทรัพย์ถาวรในโครงการก่อสร้างทางรถไฟเพิ่มในอัตรา 1.2 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับปีก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่า 325,800 ล้านหวน และการขยายเส้นทางรถไฟไม่เพียงจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจยังเป็นยุทธศาสตร์ระยะยาวที่จะสร้าง “ตลาดเดียว” ขึ้นภายในประเทศที่กว้างใหญ่อย่างจีน
นาย ลาร์รี่ หู นักเศรษฐศาสตร์ประจำบริษัทการลงทุนอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน Macquarie Capital ชี้ว่าจีนตั้งใจสร้างการเติบโตเศรษฐกิจที่ยั่งยืนด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
“เศรษฐกิจจีนมีสามเสาหลัก ได้แก่ การส่งออก การลงทุนอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐาน โดยขณะนี้จีนไม่สามารถพึ่งการส่งออกอีกต่อไป ส่วนลงทุนอสังหาฯ ยังต้องอยู่ภายใต้กฎควบคุมการเก็งกำไรต่อไป ดังนั้น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจึงเป็นเสาหลักสุดท้ายที่จะต้องผลักดันต่อไป”
ในพิมพ์เขียวฉบับใหม่ ระบุว่าภายในปี 2035 ทุกเมืองที่มีผู้อาศัยอย่างน้อย 200,000 คน ขณะที่เมืองที่มีผู้อาศัยกว่าหนึ่งล้านคนจะมีรถไฟความเร็วสูง
แม้กระทั่งแดนไกลอย่าง คาชการ์หัวเมืองใหญ่ในเขตปกครองตัวเองอุยกูร์มณฑลซินเจียง เมืองสึเคอจึในทิเบต ก็จะมีรถไฟความเร็วสูง